“กางเกงยีนส์ Big Bear” ผลิตภัณฑ์ที่กลั่นจากหัวใจของคุณเล็ก - นุกูล ภาชนะกาญจน์ เป็นอีกกรณีศึกษาหนึ่งที่ Make THE Difference ครับ คุณเล็กมีวิธีคิดในแบบของตัวเองว่าจะดำเนินธุรกิจยังไง และมีความชัดเจนในเรื่องของการทำตลาด ผมเชื่อว่ามันจะปลุกพลังใจ กระตุกต่อมคิด กระตุ้นความกล้าให้เอสเอ็มอีไทยทุกคนลุกขึ้นมาประกาศศักดาสินค้าไทยอีกครั้ง

 

อดีตพ่อค้ากางเกงยีนส์มือสองย่านรามคำแหง ตะวันนา และตลาดนัดต่างจังหวัด พลิกวิกฤติยีนส์มือสอง จากที่ตกต่ำไม่ฮิตเหมือนเก่า มาคิดหาวิธีเริ่มธุรกิจผู้ผลิตกางเกงยีนส์แบบจริงจัง

 

“แบรนด์ที่ติดตลาดแล้ว” เท่านั้นที่จะเป็นกุญแจไขความสำเร็จให้กับธุรกิจ เขาจึงเริ่ม “สร้างแบรนด์จากศูนย์” แม้ตอนนั้นจะเป็นเพียงพ่อค้าตัวเล็กๆที่ไร้ประสบการณ์การผลิต และความรู้การตลาด เมื่อ “ไม่รู้” ก็ต้อง “เรียนรู้” เมื่อ “คิดจะทำเอง” ก็ “ต้องศึกษาด้วยตนเอง”
 

จึงเริ่มเรียนรู้กระบวนการผลิตจากไม่รู้อะไรเลย ใช้งบลงทุนเพียง 30,000 บาท ทั้งทำบล็อกแบบยีนส์เอง ทาบแพทเทิร์นจากตัวอย่าง ใช้วิจารณญาณของตัวเอง หาความลงตัวก่อนนำไปขาย ใช้หลักทำวิจัย ให้ลูกค้าลองใส่ จนเห็นทางแก้ไข และยืนหยัดได้มากว่า 6 ปี จากทั้งขายเองและขยับขยายมาขายส่งด้วย

 

จากแค่คิดจะเริ่มธุรกิจก็ว่ากล้าแล้ว กางเกงยีนส์บิ๊กแบร์ยังมีวิถีการตลาดสวนทางกับรายอื่นคือ “เลือกเจาะตลาดล่าง” หลายๆคนอาจจะคิดว่าการสร้างแบรนด์เหมาะกับธุรกิจใหญ่หรือตลาดบนเท่านั้น แต่คุณเล็กคิดต่าง กล้าแข่งขันกับคู่แข่งทั้งในและนอกประเทศโดยกำหนดราคาเริ่มต้นเพียง 390 บาท เขาว่าการเปิดหน้าร้านเอง ทำให้เขามีโอกาสได้พูดคุยกับลูกค้าเพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้าได้อย่างง่ายๆ

โดยใช้วิธี “สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าฉบับบ้านๆ” ซึ่งช่วยทำให้กางเกงยีนส์บิ๊กแบร์สามารถตอบสนองความชอบของผู้ซื้อที่ให้ความสำคัญกับรูปทรง และเนื้อผ้าของกางเกงยีนส์ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถผลิตสินค้าให้เลือกเพื่อรองรับความชอบที่หลากหลายของลูกค้าได้อีกด้วย
 

ซึ่งตอนนี้มีถึงกว่า 300 รุ่น อีกทั้งคุณเล็กเลือกที่จะสต๊อกสินค้า ในขณะที่ผู้ประกอบการน้อยรายนักที่จะใช้วิธีนี้  นั่นจึงเป็นโอกาสให้ทางบิ๊กแบร์ยีนส์สามารถเสิร์ฟผู้บริโภคได้ทันทีทันใจ เมื่อประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคาที่เหมาะสม คุณภาพของเนื้อผ้า รูปทรง รวมถึงการตัดเย็บ และความพร้อมของสินค้า จึงไม่แปลกที่ลูกค้าของบิ๊กแบร์ยีนส์จะติดใจแบรนด์นี้ในที่สุด
 

แต่ที่ชนะใจผมที่สุดเห็นจะเป็นวาทะของเจ้าของยีนส์ Big Bear ที่ประกาศว่าไม่มองตลาดต่างประเทศ เพราะ ไม่อยากสูญเสียทรัพยากรและเวลาไปกับสินค้าล็อตใหญ่ หากไปทุ่มทรัพยากรกับตรงนั้นจะทำให้ลูกค้าในประเทศซึ่งเป็น

อ้างอิงจาก    TMB SME

อ้างอิงจาก  https://www.facebook.com/BIGBEARJEANS/