บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
23K
2 นาที
21 กุมภาพันธ์ 2562
ส่องรายได้สาวยาคูลท์ สวยหรูแค่ไหน
 

ยาคูลท์ถือเป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวแบรนด์แรกของญี่ปุ่น คิดค้นโดย ดร. Minoru Shirota ตั้งแต่ปี 1935 ก่อนที่จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นและแพร่หลายมายังประเทศไทยเมื่อประมาณ 49 ปีที่ผ่านมา ผู้นำเข้าแบรนด์ยาคูลท์จากญี่ปุ่นมาตีตลาดในไทยคือบริษัท ยาคูลท์ แห่งประเทศไทย ที่ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดนมเปรี้ยวแลตโตบาซิลลัสในไทยให้เฟื่องฟู โดยบริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งเมื่อตุลาคม2513 ด้วยทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 30 ล้านบาท และมาเพิ่มทุนเป็น 35 ล้านบาทเมื่อปี 2533 

ภาพจาก FB: ยาคูลท์ ขอนแก่น Yakult Khonkaen
 
จุดเด่นสุดๆที่ทำให้ยาคูลท์ประสบความสำเร็จอย่างมาก www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่า เกิดจาก ผลิตภัณฑ์ที่ขายได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องโฆษณามากนัก รวมถึงสาวยาคูลท์เป็นเหมือน Brand Ambassador ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ผลิตกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งเทคนิคการตลาดแบบสาวยาคูลท์นี้เริ่มครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1963 
 
ก่อเกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับสาวยาคูลท์ที่ดูเหมือนว่าอาชีพนี้ผู้ชายจะหมดสิทธิ์ ภาพรวมทั่วโลกพบว่ามีผู้บริโภคยาคูลท์มากกว่าวันละ 39 ล้านคน  มีสาวยาคูลท์รวมกว่า 80,000 คนทั่วโลก ส่วนประเทศไทยนั้น มีผู้บริโภคยาคูลท์มากกว่าวันละ 2.5 ล้านคน โดยมีสาวยาคูลท์กว่า 4,500 คน กระจายอยู่ในกรุงเทพและต่างจังหวัด 
 
เป็นสาวยาคูลท์แล้วได้อะไร?
 
ภาพจาก goo.gl/kCbb2E

บอกก่อนเลยว่าสาวยาคูลท์ ไม่มีเงินเดือนนะจ๊ะ! รายได้ของสาวยาคูลท์คือส่วนแบ่งจากยอดขายประมาณ 0.75 สตางค์/ขวด แม้จะดูว่าเป็นส่วนต่างที่น้อยแต่เชื่อหรือไม่ว่าการบริหารจัดการของบริษัทที่กำหนดเขตการขายของสาวยาคูลท์แต่ละคนอย่างชัดเจนไม่มีทับซ้อนกันทำให้สาวยาคูลท์ 1 คนสามารถขายยาคูลท์ในแต่ละวันได้ไม่ต่ำกว่า 800 ขวด มีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 510 บาท  1 เดือนทำงาน 26 วัน รายได้ต่อเดือนประมาณ 13,260 บาท ยัง! ยังไม่หมดเท่านี้ สาวยาคูลท์ยังมีรายได้จากโบนัสรายเดือนเฉลี่ยประมาณ 2,000 บาท ดังนั้นรายได้รวมอยู่ประมาณ 15,000 บาท

ทั้งนี้บริษัทยังมีสวัสดิการเป็นเงินพิเศษทุกๆ 3 เดือน และโบนัสทุก 6 เดือน  และถ้าใครมีผลงานดีจะได้รางวัลพิเศษเป็นทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นซึ่งทางบริษัทจัดเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้สวัสดิการอื่นๆ ก็น่าสนใจตั้งแต่อุปกรณ์เสื้อผ้า ที่สวมใส่ รวมถึงจักรยาน สำหรับการออกไปขายสินค้า บริษัทมีให้หมด รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่นค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น


ภาพจาก www.facebook.com/yakultthailand
 
ทั้งนี้ตัวเลขเบื้องต้นเป็นรายได้ประมาณการซึ่งในความเป็นจริง รายได้ของสาวยาคูลท์ขึ้นอยู่กับความขยันและปริมาณการขายขั้นต่ำรายได้ไม่มีต่ำกว่า 15,000 บาท แต่สำหรับสาวยาคูลท์บางคนสามารถสร้างรายได้ต่อเดือนเกินกว่า 20,000 บาท แต่อย่าเพิ่งคิดนะว่าเป็นสาวยาคูลท์ทำงานแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เลิก ในความเป็นจริงโซนการขายที่กำหนดกว่าจะกระจายสินค้าได้ครบบางทีต้องทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าเลิก สี่โมงเย็น ซึ่งก็ถือว่าไม่ต่างจากการเป็นพนักงานออฟฟิศเท่าไหร่
 
อยากเป็นสาวยาคูลท์ต้องทำอย่างไร?
 

ภาพจาก FB: ยาคูลท์ ขอนแก่น Yakult Khonkaen

วุฒิการศึกษาขั้นต่ำรับที่ ม.3 อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 35 ปี สามารถไปสมัครที่บริษัทได้เลย แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าสาวยาคูลท์สมัครปุ๊บไม่ได้ทำงานทันทีจะต้องมีการอบรม สอบข้อเขียน สอบการพรีเซ็นต์สินค้าในการตอบคำถามลูกค้า เป็นการถามแบบตอบสด ถ้าผ่านก็ถึงจะได้บรรจุเป็นสาวยาคูลท์ ซึ่งต้องทำงานก่อน 7 โมงเช้า

หน้าที่ของสาวยาคูลท์เริ่มจากต้องมีออร์เดอร์สินค้าเพื่อให้บริษัทจัดเตรียมสต็อกสินค้า และสาวยาคูลท์จะต้องมาจัดของเอง  ขับรถไปส่งของลูกค้า พูดคุยกับลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ มีการเก็บเงิน ทำบัญชี เก็บล้างถัง ส่วนที่สาวยาคูลท์ต้องจ่ายคือค่าน้ำแข็ง ค่าน้ำมันมอเตอร์ไซด์ การบำรุงรักษา รวมถึงในกรณีที่เก็บเงินลูกค้าไม่ได้ สาวยาคูลท์ต้องรับผิดชอบในส่วนต่างที่เกิดขึ้นด้วย

ภาพจาก goo.gl/g8CvoT
 
ถึงกระนั้นสาวยาคูลท์ก็ยังถือเป็นอาชีพอิสระที่รายได้ดีแต่การทำงานก็ไม่ถือว่าสบายนัก สาวยาคูลท์ต้องตระเวนขายยาคูลท์ไปตามตึกอาคาร หมู่บ้าน สถานที่ราชการ ตามแต่โซนที่ได้รับมอบหมาย ข้อดีคือสินค้าสามารถขายตัวเองได้และไม่มีการขายใน 7-11 ทำให้ลูกค้าทุกคนต้องซื้อสินค้ากับสาวยาคูลท์ ไม่เว้นแม้แต่ร้านโชห่วยค้าปลีกก็ต้องซื้อกับสาวยาคูลท์ก่อนที่จะไปบวกราคาขายเพิ่มขึ้น ซึ่งการตลาดในลักษณะนี้คือการเอื้อประโยชน์ให้สาวยาคูลท์ ทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งการตลาดแบบที่ลูกค้าพุ่งเข้าหาสินค้านี้คือคีเวิร์ดสำคัญที่ทำให้สาวยาคูลท์มีรายได้ดีและบริษัทก็มีกำไรมากขึ้นด้วย
 
ภาพจาก www.facebook.com/yakultthailand
 
ซึ่งจากตัวเลขรายได้ของบริษัทพบว่าในปี 2560 มีกำไร 309.4 ล้านบาท และหากพิจาณาย้อนไป 5 ปีหลังพบว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยประมาณปีละ 2.2 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งจากสินค้าที่มีเพียงไม่กี่ชนดแต่กลับยืนหยัดอยู่ในแวดวงธุรกิจได้นาน 49 ปีแม้จะมีคู่แข่งเกิดขึ้นจำนวนมากแต่ลองถามคนทั่วไปเกี่ยวกับสินค้าแนวนี้ ชื่อของ “ยาคูลท์” เป็นคำตอบแรกๆที่คนนึกถึงเสมอ
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: 
@thaifranchise


ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Anchor text คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO
513
Joe Wings ไก่ทอดไทย น้องใหม่โอ้กะจู๋ ลุยตลาด 3 ห..
381
เจ้าของ สุคิยะ บริษัทเชนร้านอาหาร ใหญ่สุดในญี่ปุ..
367
Trung Nguyen Legend กาแฟท้องถิ่นเวียดนาม ชนะสตาร..
366
หลังบ้านของธุรกิจร้านอาหารที่โตไว มีอะไรซ่อนอยู่!
350
กลยุทธ์ "ชาสามม้า" ตำนานน้ำชา 88 ปี ที่หลายคนเคย..
350
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด