บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
1.7K
2 นาที
28 มกราคม 2562
อยากส่งออกออนไลน์ ต้องรู้ ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง
 
ภาพจาก pixabay.com

เทรนด์ส่งออกกับตลาดออนไลน์ในเมืองไทย

การส่งออกแบบ cross-border หรือการขายข้ามระหว่างประเทศในเมืองไทยยังมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบบ domestic การขายแบบ cross-border นั้นย่อมได้ราคาที่ดีกว่าแน่นอน แต่การขายแบบนี้ยังคงมีปัญหาในเรื่องของภาษาและแชนแนลที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตามโดยหลักการแล้วคงต้องเริ่มจากการศึกษาหาประสบการณ์การขายในประเทศให้ดีเสียก่อนแล้วจึงค่อยๆ ขยายออกไปยังต่างประเทศ

เพราะเมื่อออกไปต่างประเทศแล้วจะมีเรื่องของขั้นตอน กฎระเบียบ พิธีการต่างๆ ที่ซับซ้อนากกว่า ทำให้ผู้ประกอบการไทยน้อยคนที่จะทำการค้าในส่วนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าโปรดักส์ของเราไม่แข็งแรงพอ มีคุณภาพไม่ดี ก็จะถูกตีกลับมาได้ง่ายๆ 
 
ส่งอะไร ส่งที่ไหน ส่งอย่างไร


ภาพจาก pixabay.com

จริงๆ เราส่งออกได้เกือบทุกประเภท แต่ที่สำคัญคือต้องรู้ก่อนว่าจะส่งไปที่ไหน แต่ละที่จะดีมานด์ที่แตกต่างกัน ต้องดูว่าสินค้าของเราคืออะไร วิธีการส่งออกก็จะมีหลายแบบ สมัยก่อนเราก็จะจัดงานเทรดโชว์ ขนสินค้าไปขายตรงหรืออาจหาตัวแทนที่ประเทศนั้นๆ การทำรูปแบบนี้มีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามาก วันนี้มีการส่งออกรูปแบบใหม่แทนที่จะต้องเดินทางไปเองก็มีช่องทางออนไลน์ที่จะทำให้เราเข้าไปค้าขายได้ง่ายขึ้น คือตอนนี้มีเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสขนาดใหญ่ที่สามารถนำสินค้าของเราไปวางขายได้ แต่ส่วนมากยังเป็นการขายแบบ B2B ซึ่งในแต่ละประเทศก็จะมีมาร์เก็ตเพลสของตัวเอง

มีทั้งที่เปิดแบบฟรีและเสียเงิน มาร์เก็ตเพลสนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายเทียร์ แบบแรกคือเป็น country base ที่สามารถเอาสินค้าหรือบริการของเราไปลิสต์ขายได้ เช่น อยากจะไปขายที่อินเดียก็จะมี India Mart หรือจีนก็มีที่รู้จักกันดีอย่าง Alibaba หรือจะไประดับ Global Sources ที่เป็นมาร์เก็ตเพลสระดับโลกเลยก็มี ที่ว่ามานี้ผมคิดว่าคุณควรจะลองเอาสินค้าไปลิสต์ไว้ เหมือนได้สร้างออนไลน์แคตตาล็อกไว้ที่มาร์เก็ตเพลสของประเทศต่างๆ นั่นเอง
 
แบบที่สองก็คือมาร์เก็ตเพลสที่เป็น vertical base หรือ Industry base เช่น อยากจะไปขายอาหาร ก็จะมี vertical base ที่รวมบรรดาคนที่ขายอาหารอย่างเดียวเลย หรือบางทีก็เป็นมาร์เก็ตเพลสที่ขายเนื้อสัตว์ ขายสินค้าเกษตร หรือสินค้าจากโรงงานอุตสาหกรรมโดยตรง ซึ่งตอนนี้จะมี vertical marketplace แบบ B2B ที่เจ้าของธุรกิจสามารถเข้าไปลิสต์ได้เอง ยิ่งเอาตัวเองไปไว้ในมาร์เก็ตเพลสเหล่านี้ได้มากเท่าไหรเท่ากับได้เปิดสาขาได้มากเท่านั้น 

ภาพจาก pixabay.com
 
สิ่งแรกที่ควรทำก็คือหาคนคนหนึ่งในองค์กรที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เป็นเหมือน virtual sales ที่สามารถจะไปเปิดร้านค้าได้เองทั่วโลก และต้องมีแคตตาล็อกที่ทำให้คนสนใจและดึงดูดคนได้จริงๆ คอนเทนต์ธุรกิจของเราและการสร้างความน่าเชื่อถือนั้นสำคัญมาก เช่น ต้องมีข้อมูลว่า เราเป็นใคร เปิดมานานเท่าใด มีมาตรฐานอะไรบ้าง รายละเอียดสินค้า ฯลฯ จากนั้นต้องกลับมาที่การทำมาร์เก็ตติ้งว่าจะทำอย่างไรถึงจะดึงคนเข้ามาซื้อสินค้าของเรา ซึ่งอาจจะเป็นการใช้อีเมลมาร์เก็ตติ้งหรือการซื้อโฆษณา

สำหรับพวกที่เป็น Global Management อาจต้องอาศัยเว็บประเภท LinkedIn ในการติดต่อ กลยุทธ์ที่จะหากลุ่มลูกค้าแบบ B2B เข้ามาจะแตกต่างจาก B2C มากแต่ก็มีบางอย่างที่ไปด้วยกันได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ในการทำออนไลน์อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเบสิกมาก แต่ข้อสำคัญก็คือมีกลยุทธ์แล้วแต่ได้ทำมันแล้วหรือไม่ หรือมีทีมที่จะมาดูแลเรื่องของ online trading แล้วหรือยัง และควรต้องมีการกำหนด KPI คือการมีเป้าหมายที่ชัดเจนด้วย
 
อยากส่งออกออนไลน์ควรเริ่มต้นอย่างไร


ภาพจาก  www.thaitrade.com

สำหรับผู้ที่สนใจอาจเริ่มต้นศึกษาที่ Thaitrade.com ก่อนก็ได้ ถือว่าเป็น B2B มาร์เก็ตเพลสของไทยที่ยืนหยัดอยู่ได้ เวลาต่างชาติจะเข้ามาติดต่อธุรกิจในไทยก็ดูใน Thaitrade.com เช่นกัน หรือสนใจที่จะลองไปขายที่เมืองจีนก็มี Alibaba, Global Sources ไปบราซิลก็จะมี BrazilB2B วิธีการหาตลาดออนไลน์ง่ายๆ คือในระดับ country base อยากไปประเทศไหนก็ให้ค้นด้วยชื่อประเทศแล้วต่อด้วย B2B marketplace ก็จะเจอมาร์เก็ตเพลสที่เป็น B2B ทั้งหมดและส่วนใหญ่มักจะให้เราสร้างแคตาล็อกได้ฟรี

หรืออีกแบบคือ virtical ก็เอาชื่ออุตสาหกรรมแล้วต่อด้วย B2B marketplace เช่นเดียวกัน ก็จะเจอในสิ่งที่ต้องการค้นหา ซึ่งข้อดีของ virtical ก็คือจะเจอลูกค้าที่เป็น niche market หรือเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ นอกจากการที่เราจะไปลิสต์แล้ว ยังสามารถที่จะเรียนรู้จากคู่แข่งหรือคนที่ทำธุรกิจคล้ายๆ กันในสเกลระดับโลกเพื่อนำกลับมาพัฒนาสินค้าได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นผู้ผลิต 
 
สำหรับคนที่เป็นพ่อค้าคนกลางนั้นต้องมีการปรับตัวกันอย่างมากเลยทีเดียวและโดยเฉพาะหากเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากจีน เพราะตอนนี้จีนเริ่มเอาเข้ามาเองแล้ว ผู้บริโภคไทยจะไม่ซื้อผ่านพ่อค้าคนกลางแล้ว ยิ่งตอนนี้โรงงานจีนผลิตและขายตรงสู่ผู้บริโภคเลย ต่อไปนี้ผู้บริโภคทั่วโลกจะเปลี่ยนเทรนด์ไปซื้อสินค้าจากโรงงานโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ เทรนด์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง 
 
ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง

ในเชิงผู้ผลิตที่จะส่งออก
  1. ต้องดูว่าสินค้ามีแบรนด์หรือไม่ ต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพราะแบรนด์จะเป็นตัวกำหนดแวลูของสินค้า
  2. ต้องเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในแง่กระบวนการผลิตเพื่อทำให้เกิดประสิทธิผลให้กับธุรกิจ นั่นหมายถึงกำไรและต้นทุนที่จะลดต่ำลง ทำให้แข่งขันได้ดีมากขึ้นด้วยเช่นกัน
  3. ต้องเริ่มใช้ช่องทางออนไลน์อย่างจริงจัง เมื่อขายผ่านออนไลน์แล้วต้องมีทีมที่จะมาโฟกัสกันอย่างเป็นเรื่องเปนราว
  4. เจ้าของกิจการต้องศึกษาและมีความรู้เรื่องออนไลน์อย่างลึกซึ้ง เพราะจะทำให้สามารถปรับองค์กรเข้าสู่ออนไลน์ได้จริงๆ
  5. อยากส่งออกต่างประเทศก็ต้องส่งออกไปขายที่ต่างประเทศจริงๆ และ
  6. ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม หาความรู้ใหม่ๆ เพื่อที่จะได้มีมุมมองใหม่ๆ ในการทำธุรกิจต่อไป
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Anchor text คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO
498
Joe Wings ไก่ทอดไทย น้องใหม่โอ้กะจู๋ ลุยตลาด 3 ห..
352
Trung Nguyen Legend กาแฟท้องถิ่นเวียดนาม ชนะสตาร..
350
เจ้าของ สุคิยะ บริษัทเชนร้านอาหาร ใหญ่สุดในญี่ปุ..
350
กลยุทธ์ "ชาสามม้า" ตำนานน้ำชา 88 ปี ที่หลายคนเคย..
338
หลังบ้านของธุรกิจร้านอาหารที่โตไว มีอะไรซ่อนอยู่!
333
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด