บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.6K
2 นาที
19 กันยายน 2560
“Toys R Us” อเมริกา ยื่นล้มละลาย จะไม่กระทบต่อสาขาในไทย

 
ถือเป็นเรื่องน่าตกใจอยู่ไม่น้อย! แต่ไม่น่าเกินความคาดหมายของใครหลายคน เมื่อ Wall St. Journal รายงานว่า ทอยส์ “อาร์” อัส (อังกฤษ Toys R Us หรือเครื่องหมายการค้าคือ Toys Я Us) บริษัทค้าปลีกขายของเล่นรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เตรียมยื่นล้มละลายเพื่อขอสิทธิการคุ้มครอง ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากก่อนหน้านี้ผู้ผลิตของเล่นตัวต่อรายใหญ่ของโลกอย่าง LEGO ก็ประกาศลดจำนวนพนักงาน 1,400 ตำแหน่ง ก่อนช่วงปลายปี 2560 เช่นกัน  
 
แล้วหากถามว่า Toys R Us ในประเทศไทย และสาขาอื่นๆ นอกสหรัฐอเมริกา จะได้รับผลกระทบหรือไม่?
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ได้ลองสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านบริษัทข้ามชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะขยายสาขาไปต่างประเทศในรูปแบบของแฟรนไชส์และไลเซ่นส์ เพราะนักลงทุนในพื้นที่จะมีความเชี่ยวตลาดมากกว่าบริษัทแม่ทำเอง 
 
“ไม่ได้ปิดกิจการ” ยื่นล้มเพื่อคุ้มครอง ฟื้นฟู 

 
กรณีการเตรียมยื่นล้มละลายเพื่อขอสิทธิการคุ้มครองของ Toys R Us อเมริกา จากที่เคยได้ฟังผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศบรรยายในเวทีสัมมนาต่างๆ กรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อสาขาในประเทศไทย รวมถึงสาขาอื่นๆ นอกประเทศสหรัฐฯ มากเท่าใดนัก 
 
แต่อาจจะกระทบเรื่องของเงินทุนสนับสนุนบ้างเล็กน้อย รวมถึงนโยบายการลงทุนที่อาจจะชะลอตัวลงไปเท่านั้น และการขยายสาขาเพิ่มอาจจะมีไม่มากนัก 
 
อีกทั้ง Toys R Us สาขาทั้งหมดในประเทศไทย อยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท ทอยส์ รีเทลลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทย โดยแยกอิสระจากบริษัทแม่ในอเมริกา ดังนั้น บริษัทสามารถอยู่รอดได้ตนเอง ที่สำคัญตลาดในเอเชีย รวมถึงจีนยังสร้างรายได้ และเติบโตได้อีกมาก ไม่เหมือนอเมริกาที่มีคู่แข่งอย่างอีคอมเมิร์ซ
  
ที่สำคัญกระบวนการฟื้นฟูกิจการ หรือ Chapter 11 ไม่ได้หมายความว่าบริษัทปิดกิจการ แต่ Chapter 11 ให้อำนาจการบริหารการจัดการแก่ฝ่ายบริหาร ที่ยังคงควบคุมกิจการเพื่อให้องค์กรสามารถฝ่าวิกฤติได้ 
 
 
 
อีกทั้งกระบวนการนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทต่างประเทศในเครือ ที่ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในคำร้อง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแม่ที่อยู่ภายใต้ Chapter 11 กับบริษัทลูกในต่างประเทศยังเป็นไปตามปกติ 
 
หากลองย้อนกลับไปดู ตั้งแต่เกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาครั้งก่อน ทำให้บริษัทหลายแห่งของสหรัฐฯ เกิดปัญหาการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันการเงินและบริษัทรถยนต์ในสหรัฐฯ หลายแห่ง แทบจะล้มทั้งยืน จนมีจำนวนไม่น้อยต้องยื่นร้องต่อศาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ หรือ Chapter 11 
 
ไครสเลอร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของค่ายรถยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ หรือบิ๊กทรี ได้ยื่นเรื่องพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายและเตรียมขายกิจการ เกือบทั้งหมดให้เฟียต ออโต พี.เอส.เอ.แห่งอิตาลี 
ขณะที่เจนเนอรัลมอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ค่ายรถใหญ่สุดของบิ๊กทรี ก็โดนรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งเร่งปรับลดหนี้สินและต้นทุนดำเนินงาน พร้อมทั้งเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้ให้เสร็จภายในวันที่ศาลกำหนดไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย 
 
Toys R Us เข้ามาเมืองไทย เมื่อไหร่?

 
ชื่อชั้นของ Toys R Us โด่งดังเพียงใดในระดับโลก นักนิยมของเล่นต่างประจักษ์แจ้งกันเป็นอย่างดี การก้าวเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย ภายใต้การบริหารของ บริษัท ลีแอนด์ฟุง จากฮ่องกง หลักจากซุ่มศึกษาตลาดเมืองไทยกว่า 2 ปี โดย Toys R Us เมืองไทย อยู่ใต้การบริหารของบริษัท ทอยส์ รีเทลลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด 
 
สาขาแรกในเมืองไทยที่เซ็นทรัล บางนา ซิตี้ เปิดบริการเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2548 ในรูปแบบ Shop-in-shop ด้วยพื้นที่ 1,978 ตารางเมตรกับของเล่น 10,000 ชนิด ด้วยงบลงทุน 50 ล้านบาท ช่วงแรกต้องไปสร้างกระแสกับเด็กๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักตามโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนนานาชาติ พร้อมๆ กับแผ่นป้าย บิลบอร์ด ประชาสัมพันธ์
 
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ Toys R Us ไม่ได้มีเพียงกลุ่มเด็ก 0-14 ปี ในไทย วัยรุ่น วัยทำงาน คือกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญด้วย โดยมีโอกาสทางการตลาดจากวาระต่างๆ เช่น ซื้อเป็นของขวัญให้เพื่อน ให้แฟน และสำหรับนักสะสม 
 
ธุรกิจของ Toys R Us ในประเทศไทยยังมีแนวโน้มไปได้ดี ผู้บริหารเคยให้สัมภาษณ์เมื่อต้นปี 2560 ว่า หลังจากเปิดให้บริการมาครบ 10 ปี บริษัทได้ขยายสาขาลำดับที่ 12 ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้า โชว์ ดี ซี 
 
ขนาดพื้นที่ 850 ตารางเมตร แบ่งเป็น 7 โซน ได้แก่ เมืองซูเปอร์ฮีโร่ เมืองเครื่องยนต์ มหาสนุก เมืองเจ้าหญิง เมืองเกมหรรษา เมืองของเล่นสนุกคิด เมืองกีฬาสุดมันส์ และเบบี้ “อาร์” อัส
 
Toys R Us อเมริกา หวังเดินตามรอย Domino’s Pizza


 
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า CEO คนปัจจุบันของ Toys R Us คือ Dave Brandon ที่เคยเป็น CEO ของ Domino’s Pizza มาก่อน เขามีชื่อเสียงจากการพลิกฟื้นกิจการ Domino’s Pizza ให้กลับมาทำกำไร 
 
และเข้ามารับตำแหน่ง CEO ของ Toys R Us ในปี 2015 ซึ่งสถานะการเงินของ Toys R Us ก็เริ่มกระเตื้องขึ้นในปี 2016 การยื่นขอล้มละลายครั้งนี้ จะถือเป็นการต่อเวลาให้ Brandon สามารถฟื้นฟูกิจการได้อีกระยะหนึ่ง
 
ความพยายามในการแก้ปัญหาหนี้ของ Toys R Us ก่อนถึงเทศกาลวันหยุดปลายปี ถือเป็นช่วงจังหวะสำคัญที่จะช่วยบริษัทผู้ผลิตของเล่นใหญ่ๆ อย่าง Mattel และ Hasbro เห็นภาพแนวโน้มระยะยาวของ Toys R Us ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ผลิต ในการสต๊อกสินค้าตามสาขาของห้างของเล่นแห่งนี้ ในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี
 
เมื่อเดือน มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา Toys R Us ได้ประกาศตัวเลขขาดทุน 164 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาสแรกของปี ถือว่าขาดทุนสูงขึ้นจากที่ขาดทุน 126 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายของสาขาเดียวกันได้ลดลง 4.1% 
 
 
ทั้งนี้ร้านค้าปลีก Toys R Us ก่อตั้งในปี 1948 และเข้าขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มาตั้งแต่ปี 1978 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 1,948 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก (รวมแบรนด์ลูก Babies R Us สำหรับสินค้าเด็กทารก) 
 
มีสาขาในไทย 12 สาขา (ตัวเลขจากรายงานผลประกอบการปี 2016) บริษัทมีพนักงานทั้งหมด 64,000 คนทั่วโลก และในช่วงเทศกาลปลายปีที่มีการซื้อของเล่นกันมาก ตัวเลขพนักงานแบบ Part Time ที่จ้างเพิ่มด้วยจะรวมเป็น 107,000 คน

ต้องติดตามกันต่อไปครับว่า Toys R Us ภายใต้การบริหารของ Dave Brandon ที่เคยเป็น CEO ของ Domino’s Pizza มาก่อน จะสามารถฟื้นฟูกิจการให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนกับ Domino’s Pizza ได้หรือไม่
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://www.thaifranchisecenter.com/home.php 
อ้างอิงข้อมูลบางส่วน goo.gl/9RCSne
 
ขอบคุณรูปภาพจาก  goo.gl/P8Nw2q
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
423
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด