บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    ขายตรง เครือข่าย    การขาย และการหาลูกค้าในธุรกิจขายตรง
16K
4 นาที
28 สิงหาคม 2553

คุณมีสิทธิ์อะไรบ้างตามกฎหมายขายตรง

ปัจจุบันสินค้าหลายประเทศใช้ระบบขายตรงในการกระจายสินค้าที่เข้าถึงลูกค้า เป็นหลัก อาจมีหรือไม่มีจำหน่ายตามศูนย์สรรพสินค้าแต่หลาย ๆ บริษัทก็มีร้านย่อยของบริษัทตามศูนย์สรรพสินค้าหลาย ๆ แห่ง แล้วยังมีการขายทาง Telemarket, TV Direct, E-mail Order, Internet เพื่อช่วยกระจายสินค้าได้อีกทางหนึ่ง

พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2545 ตราขึ้นเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้เพียงพอ และเนื่องจากการประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าหรือบริการในปัจจุบันใช้วิธีการทำ ตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภค ด้วยการเสนอขายสินค้าหรือบริการแก่ผู้บริโภคโดยตรงยังที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของบุคคลอื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติ มีการอธิบายหรือสาธิตผ่านผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง

ซึ่งการเสนอขายสินค้าหรือบริการลักษณะนี้ทำให้ผู้บริโภคอยู่ในภาวะที่ไม่อาจ ตัดสินใจตกลงซื้อสินค้าหรือบริการอย่างอิสระและรอบคอบ อีกทั้งด้วยความก้าวหน้าของระบบการสื่อสาร จึงมีการเผยแพร่ทางสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้บริโภคที่อยู่ห่างโดยระยะทางสามารถแสดงเจตนาตอบกลับซื้อสินค้า หรือบริการได้ ประกอบกับมีการโฆษณาที่กล่าวอ้างเกินจริง หรือการชักชวนประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเครือข่ายธุรกิจ โดยจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการชักนำผู้อื่นเข้าร่วมเครือข่าย ซึ่งหลอกลวงประชาชน การทำตลาดด้วยสารพัดกลวิธีทำให้ประชาชนในฐานะผู้บริโภคตกอยู่ในฐานะเสีย เปรียบ และเกิดความไม่เป็นธรรม

กฎหมายนี้ให้ความหมายของคำว่า ขายตรง ครอบคลุมการทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าปกติ โดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้น ขณะที่ ตลาดแบบตรง หมายถึง ตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือ บริการโดยตรงต่อผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทาง และมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น

ผู้จำหน่ายอิสระ ก็แตกต่างจากตัวแทนขายตรง โดย ผู้จำหน่ายอิสระ หมายถึง บุคคลที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรง และนำสินค้าหรือบริการดังกล่าวไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค แต่ตัวแทนขายตรง หมายถึง บุคคลซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงให้นำสินค้าหรือบริการไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค

ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง และผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรง และตลาดแบบตรง ภายใต้กฎหมายนี้จึงจะสามารถประกอบธุรกิจขายตรง และตลาดแบบตรงได้ โดยดำเนินการตามแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ได้ยื่นต่อนายทะเบียนซึ่งเป็น เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค แผนการจ่ายผลตอบแทนต้องมีลักษณะที่ต้องไม่กำหนดให้ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัว แทนขายตรงที่ไม่ใช่ลูกจ้างได้รับผลตอบแทนที่เป็นรายได้หลักจากการรับสมัคร บุคคลหรือแนะนะผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงที่ไม่ใช่ลูกจ้างอื่นเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจขายตรง

ต้องไม่บังคับให้ผู้จำหน่ายอิสระซื้อสินค้า ต้องไม่ชักจูงให้ผู้จำหน่ายอิสระซื้อสินค้าในปริมาณมากเกินไปอย่างไม่สมเหตุ สมผล นอกจากนั้น แผนการจ่ายผลตอบแทนยังต้องมีผลตอบแทนที่เป็นรายได้หลักของผู้จำหน่ายอิสระ หรือตัวแทนขายตรงที่ไม่ใช่ลูกจ้างขึ้นอยู่กับการขายสินค้าหรือบริการแก่ผู้ บริโภค รวมไปถึงการซื้อเพื่อการใช้หรือบริโภคเอง แล้วยังต้องแสดงวิธีการคิดคำนวณการจ่ายผลตอบแทนที่ตรงต่อความเป็นจริง หรือเป็นไปได้จริง และอย่างเปิดเผยชัดเจน รวมถึงลักษณะอื่นตามที่คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรงกำหนดไว้ หากแผนการจ่ายผลตอบแทนใดมีลักษณะแตกต่างจากข้างต้น ให้มีผลบังคับใช้เท่าที่เป็นธรรมแก่ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงที่ไม่ ใช่ลูกจ้าง

คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง ประกอบด้วยประธานหนึ่งคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการขายตรงและ การตลาดแบบตรง กรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 4 คน คือ อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหะกรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวน 4 คน. โดยจากสมาคมเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง 1 คน จากสมาคมเกี่ยวกับธุรกิจตลาดแบบตรง 1 คน จากสมาคมหรือมูลนิธิเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค 2 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 4 คน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการขายตรงหรือการตลาดแบบตรง โดยในจำนวน 4 คนนี้ 2 คนต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน และเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นกรรมการและเลขานุการ

ข้อสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ประธานกรรมการต้องไม่ดำรงตำแหน่ง หรือเป็นหุ้นส่วน หรือเป็นผู้ถือหุ้นเกินจำนวนร้อยละ 10 ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ประกอบธุรกิจขายตรงหรือตลาดแบบตรงในระยะหนึ่งปีก่อนดำรงตำแหน่งหรือระหว่างดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ

คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง มีอำนาจหน้าที่ ได้แก่ ในการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย จากกระบวนการขายตรงหรือตลาดแบบตรง แจ้งหรือโฆษณาข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเสื่อมเสียแก่สิทธิ์ของผู้บริโภค กำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจขายตรงหรือตลาดแบบตรง วางระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามกฎหมายนี้ พิจารณาวินิจฉัยการอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียน เสนอแนะในการออกกฎกระทรวงตามกฎหมายนี้ หรือเรื่องอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีมอบหมาย

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคเป็น ผู้รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ และมีหน้าที่รับคำขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ติดตามสอดส่องพฤติการณ์ในการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงและปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามกฎหมายนี้

กฎหมายมีข้อห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง และผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ดำเนินการที่เป็นการชักชวนบุคคลเข้าร่วมเครือข่ายโดยตกลงจะให้ผลประโยชน์ตอบ แทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายตามจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น แล้วยังห้ามผู้ประกอบธุรกิจขายตรงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครเข้าเป็น สมาชิก ค่าฝึกอบรม ค่าวัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย หรือค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าร่วมเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจขายตรงจากผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงที่ไม่ใช่ลูกจ้างในอัตราสูง กว่าที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

สัญญาระหว่างผู้จำหน่ายอิสระกับผู้ประกอบธุรกิจขายตรง และสัญญาระหว่างตัวแทนขายตรงที่ไม่ใช่ลูกจ้างกับผู้ประกอบธุรกิจขายตรง ให้ทำเป็นหนังสือซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดเรื่องของเงื่อนไขที่ชัดเจน เกี่ยวกับการจ่ายผลตอบแทนตามแผนการจ่ายผลตอบแทน เงื่อนไขที่ชัดเจนเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการสมัคร ค่าฝึกอบรม ค่าวัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย หรือค่าธรรมเนียมอื่น และเงื่อนไขที่ชัดเจนเกี่ยวกับการที่ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงจะรับซื้อสินค้า วัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย ชุดคู่มือ หรืออุปกรณ์ส่งเสริมธุรกิจคืนจากผู้จำหน่ายอิสระ หรือตัวแทนขายตรง รวมถึงกำหนดระยะเวลาที่ผู้จำหน่าย หรือตัวแทนขายตรงสามารถใช้สิทธินั้น

ผู้จำหน่ายอิสระสามารถใช้สิทธิคืนสินค้า วัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย ชุดคู่มือหรืออุปกรณ์ส่งเสริมธุรกิจที่ซื้อไปจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรง ให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงซื้อคืนตามราคาที่ผู้จำหน่ายอิสระได้จ่าย ภายในระยะเวลา 15 วันนับแต่วันที่ผู้จำหน่ายอิสระ ใช้สิทธิคืน แต่หากใช้สิทธิคืนกรณีหมดเขตตามสัญญาข้างต้น ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงมีสิทธิหักค่าดำเนินการได้ไม่เกินอัตราที่คณะกรรมการ ประกาศกำหนด แล้วยังมีสิทธิหักกลบลบหนี้ใดที่เกี่ยวกับสัญญาซึ่งผู้จำหน่ายอิสระต้องชำระ

การเสนอขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงยังที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่น ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงต้องได้รับอนุญาตจากผู้บริโภคหรือผู้ครอบ ครองสถานที่ก่อน และต้องไม่กระทำการใดอันเป็นการรบกวนหรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อื่น ทั้งนี้ ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรประจำ ตัวผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงที่ออกโดยผู้ประกอบธุรกิจขายตรงด้วย

ผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงมีหน้าที่ส่งมอบเอกสารการซื้อขายสินค้าหรือ บริการแก่ผู้บริโภค เอกสารการซื้อขายต้องมีข้อความภาษาไทยที่อ่านเข้าใจง่าย ระบุชื่อผู้ซื้อและผู้ขาย วันที่ซื้อขาย และวันที่ส่งมอบสินค้าหรือบริการ และสิทธิของผู้บริโภคในการเลิกสัญญาที่กำหนดด้วยตัวอักษรที่เห็นชัดกว่าข้อ ความทั่วไป โดยคณะกรรมการมีอำนาจกำหนดรายละเอียดในเอกสารการซื้อขาย ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังต้องมีกำหนดเวลา สถานที่ และวิธีการในการชำระหนี้ มีสถานที่ และวิธีการในการส่งมอบสินค้าหรือบริการ มีวิธีการเลิกสัญญา มีวิธีการคืนสินค้า มีการรับประกันสินค้า และมีการเปลี่ยนสินค้าในกรณีมีความชำรุดบกพร่อง

หากการซื้อขายสินค้าหรือบริการใดที่ผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ไม่ได้จัดให้มีเอกสารการซื้อขายที่มีข้อความ และรายละเอียดข้างต้น ย่อมไม่มีผลผูกพันผู้บริโภค นอกจากนั้น ในการซื้อสินค้าหรือบริการจากการขายตรงหรือจากการขายผ่านตลาดแบบตรง ผู้บริโภคมีสิทธิเลิกสัญญาด้วยการส่งหนังสือแสดงเจตนาภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับสินค้าหรือบริการ ไปยังผู้ประกอบธุรกิจขายตรงหรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง สำหรับธุรกิจขายตรงผู้บริโภคจะแจ้งไปยังผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงที่ เกี่ยวข้องก็ได้

แล้วผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ผู้บริโภคจ่ายไปเพื่อการซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ภายในกำหนดเวลา 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ แสดงเจตนาเลิกสัญญา หากไม่คืนเงินตามจำนวนและภายในกำหนดระยะเวลา ผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องชำระเบี้ยปรับตามอัตราที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

กรณีที่มีคำรับประกันสินค้าหรือบริการให้จัดทำเป็นภาษาไทยและระบุถึงสิทธิของผู้ บริโภคในการเรียกร้องสิทธิตามคำรับประกันที่ชัดเจนและสามารถเข้าใจได้ถึงเงื่อนไขที่ระบุไว้ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับคำรับประกันสินค้าหรือบริการให้เป็นไปตามที่คณะ กรรมการประกาศกำหนด

ผู้บริโภคที่ใช้สิทธิเลิกสัญญาต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งกล่าวคือ ส่งคืนสินค้า หรือเก็บรักษาสินค้าไว้ตามสมควรภายในระยะเวลา 21 วัน นับแต่วันที่ใช้สิทธิเลิกสัญญา เว้นแต่สินค้านั้นเป็นของเสียง่ายโดยสภาพไม่อาจเก็บรักษาได้ภายในระยะเวลา ดังกล่าว ให้เก็บรักษาตามเวลาและวิธีการอันควรแก่สภาพ

เมื่อพ้นกำหนดนั้นแล้ว ผู้บริโภคจะเก็บรักษาสินค้านั้นไว้หรือไม่ก็ได้ โดยหากผู้บริโภคเลือกกรณีที่สองก็ต้องส่งคืนสินค้าโดยให้ผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง แล้วแต่กรณี มารับคืนยังภูมิลำเนาของผู้บริโภค แต่ผู้บริโภคอาจส่งคืนสินค้าทางไปรษณีย์ที่เรียกเก็บเงินปลายทาง ภายในระยะเวลาในกรณีที่สอง หากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงหรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงร้องขอ อย่างไรก็ตาม ถ้าสินค้าเป็นของใช้สิ้นเปลือง ผู้บริโภคมีหน้าที่คืนเฉพาะส่วนที่เหลือจากการใช้ก่อนใช้สิทธิเลิกสัญญา แต่ผู้บริโภคก็มีสิทธิที่จะยึดหน่วงสินค้าไว้จนกว่าจะได้รับคืนเงินที่ผู้บริโภคจ่ายไปในการซื้อสินค้านั้น

การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนี้มีโทษจำคุกระหว่างไม่เกิน 1 เดือนถึงไม่เกิน 5 ปี หรือปรับระหว่างไม่เกิน 10,000 บาทถึงไม่เกิน 500,000 บาท

กฏหมายฉบับนี้ช่วยสร้างความยุติธรรมให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการขายตรง หรือตลาดแบบตรง ไม่ว่าจะเป็นผู้จำหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง และผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยความก้าวหน้าและพัฒนาของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผลให้กระบวนการขายตรงมีการนำระบบ online มาใช้ ในการสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น ลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากคนกลาง ประหยัดต้นทุนสินค้า ผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าด้วยราคาย่อมเยา ทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์สูงสุด   
 

อ้างอิงจาก วันเพ็ญ หรูจิตตวิวัฒน์

บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด