บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    กฎหมายและข้อบังคับ    คู่มือปฏิบัติการแฟรนไชส์
22K
5 นาที
18 พฤษภาคม 2560
รวมกฏหมายแฟรนไชส์ที่ผู้ประกอบการควรรู้
 

 
การลงทุนที่น่าสนใจในยุคนี้คือเลือกลงทุนกับระบบแฟรนไชส์ที่สินค้าจำนวนมากพัฒนาตัวเองให้เข้าสู่ระบบนี้เพื่อโอกาสในการก้าวหน้าที่มากขึ้นในมุมของ www.ThaiFranchiseCenter.com นั้นเรื่องการลงทุนนั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่ทั้งผู้ลงทุนและผู้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์เองก็ต้องมีพันธะสัญญาที่เชื่อมโยงกัน

ซึ่งเรื่องของกฏหมายเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนควรจะรู้ไว้โดยในปัจจุบันนั้นกฏหมายที่เกี่ยวเนื่องกับแฟรนไชส์โดยตรงยังไม่มีเพียงแต่มีข้อกฏหมายที่เกี่ยวเนื่องกันโดยตรงซึ่งก็มีอยู่หลายฉบับด้วยกัน เรามาเรียนรู้เรื่องนี้อย่างลึกซึ้งไปพร้อมกันดีกว่า
 
กฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์
1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

 
ได้แก่ หมวดว่าด้วยนิติกรรมและสัญญา โดยนำมาใช้บังคับในส่วนที่เกี่ยวกับการเกิดสัญญา การแสดงเจตนาของคู่สัญญา การตีความสัญญา ผลของสัญญา การบอกเลิกสัญญา และการผิดสัญญา

2. พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540
 
หากพิจารณาฐานะของคู่สัญญาในสัญญาแฟรนไชส์แล้ว จะเห็นได้ว่า คู่สัญญาสองฝ่ายจะมีฐานะไม่เท่าเทียมกันเนื่องจากแฟรนไชส์ซีจะมีอำนาจในการเจรจาต่อรองน้อยกว่าแฟรนไชส์ซอร์

นอกจากนี้สัญญาแฟรนไชส์ยังถือเป็นสัญญามาตรฐานและสัญญาสำเร็จรูปประเภทหนึ่งเพราะเป็นสัญญาที่แฟรนไชส์ซอร์ซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือกว่าเป็นผู้กำหนดเนื้อหาสาระของสัญญาหรือข้อสัญญาที่เป็นสาระสำคัญไว้เป็นการล่วงหน้า โดยที่แฟรนไชส์ซีซึ่งเป็นผู้ที่จะเข้ามาทำสัญญาสามารถแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาโดยไม่ต้องมีการเจรจาต่อรอง

ซึ่งหากว่าข้อสัญญาดังกล่าวแฟรนไชส์ซอร์ได้เปรียบแฟรนไชส์ซีเกินสมควร ข้อสัญญาดังกล่าวถือเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ในกรณีเช่นนี้กฎหมายกำหนดให้สัญญามีผลใช้บังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น 
 
3. กฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา

 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าหรือบริการ และสิทธิบัตร เนื่องจากหากแฟรนไชส์ซอร์ประสงค์ที่จะให้แฟรนไชส์ซีสามารถใช้เครื่องการการค้าหรือบริการ หรือสิทธิบัตรของตนก็จะต้องมีการจดทะเบียนสัญญา

ส่วนที่แตกต่างกันระหว่างสัญญาแฟรนไชส์และสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา คือ แฟรนไชส์ซีจะต้องจ่ายค่าตอบแทนในการใช้สิทธิและเข้าร่วมประกอบธุรกิจ ส่วนสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญานั้นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิอาจไม่จำต้องจ่ายค่าตอบแทนก็ได้ขึ้นอยู่กับการตกลงกันของคู่สัญญา 
 
4. พระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ. 2545 
 
การประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เกี่ยวข้องกับความลับทางการค้าในแง่ที่ว่า ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ในการประกอบธุรกิจ เช่น สูตรอาหารหรือเครื่องดื่ม คู่มือการปฏิบัติงาน และรายชื่อลูกค้า อาจถือได้ว่าเป็นความลับทางการค้าของแฟรนไชส์ซอร์ที่จำเป็นจะต้องได้รับความคุ้มครอง

โดยแฟรนไชส์ซีจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลความลับหรือนำข้อมูลซึ่งเป็นความลับนั้นไปใช้ในลักษณะที่เป็นการแข่งขันกับแฟรนไชส์ซอร์ ในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิของแฟรนไชส์ซอร์ในเรื่องดังกล่าว แฟรนไชส์ซอร์ย่อมสามารถที่จะฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนและขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการกระทำเช่นว่านั้นได้ 
 
5. พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 

 
ธุรกิจประเภทนี้ทั้งแฟรนไชส์ขายสินค้าและแฟรนไชส์ให้บริการย่อมต้องมีลูกค้าหรือผู้บริโภคเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ในแง่นี้ลูกค้าหรือผู้บริโภคจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโฆษณาสินค้าที่อาจเกินจริง การปิดฉลากสินค้า หรือการกำหนดให้ธุรกิจใดเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา เป็นต้น 
 
6. พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 
 
การประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ย่อมตกอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าฯ เช่นกัน โดยทั้งแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีจะถูกควบคุมมิให้มีการใช้วิธีการที่กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าถือว่าเป็นการผูกขาด หรือการกระทำที่เป็นการใช้อำนาจเหนือตลาด เว้นแต่มีความจำเป็นและมีเหตุผลสมควรโดยจะต้องขออนุญาตต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเสียก่อน 
 
7. กฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกิจนั้นโดยตรง 


 
การขายสินค้าและการให้บริการในธุรกิจแฟรนไชส์นอกจากจะต้องพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังจำเป็นต้องพิจารณาถึงกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกิจนั้นโดยตรง เช่น พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2535 เป็นต้น
 
ทั้งนี้ลองมาดูกันให้ละเอียดอีกทีว่าในสัญญาแฟรนไชส์ที่ทำการเซ็นรับทราบซื้อขายกันนั้นควรมีอะไรบ้าง
 
วิธีการทำสัญญา
 
บริการ #รับร่างสัญญาแฟรนไชส์ คลิก https://bit.ly/30VBhpS

หน้าที่สัญญาจะเป็นงานของนักกฎหมายทนายความเป็นคนทำ เป็นคนร่าง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะทราบดีกว่าว่าเรื่องใด ข้อความใดในสัญญา ใช้บังคับตามกฎหมายได้ ข้อสัญญาใดบังคับไม่ได้  และทนายความแต่ละคนก็อาจจะมีประสบการณ์ ในการร่างสัญญาที่ถนัดกันคนละอย่างดังนั้นผู้ประกอบการที่ขายแฟรนไชส์ก็จะต้องเป็นผู้ให้แนวทางกับทนายความว่าต้องการให้สัญญาแฟรนไชส์บังคับใช้ในเรื่องอะไรบ้าง แต่ปัญหาของทุกคนจะตอบเหมือนๆกัน คือ “ไม่ทราบเหมือนกันว่าควรจะมีเรื่องอะไรอยู่ในสัญญา 
 
การให้สิทธิ์
 
ในการขายแฟรนไชส์คือการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งก่อนที่คุณจะทำสัญญาเรื่องแฟรนไชส์คุณจะต้องคิดว่าคุณมีสิทธิ์หรือทรัพย์สินใดบ้างที่จะต้องให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปด้วยเช่น สิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้า , การได้อนุญาตสิทธิประโยชน์ที่ใช้เป็นผลในทางการค้า , สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายภายใต้แบรนด์นั้น เป็นต้น 

การแต่งตั้ง

 
คือการกำหนดอาณาเขตที่คุณจะให้แก่แฟรนไชซี่ ที่ในสัญญา ก็จะมีระบุว่าเราจะอนุญาตให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ได้รับสิทธิการดำเนินธุรกิจสิทธิใช้ทรัพย์สินทางปัญญา หรือการขายสินค้า ในอาณาเขตใด ภายใต้เงื่อนไขอย่างไรซึ่งต้องคิดก่อน และกำหนดเอาไว้ในสัญญา
 
ประเภทของการได้รับสิทธิ์ 
 
ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ของเราจะได้รับสิทธิ์รูปแบบไหนเป็นสิทธิ์ได้เพียงรายเดียวในประเทศไทย หรือได้สิทธิ์ในภูมิภาคหรือได้สิทธิ์จำกัดแค่ในห้าง เป็นต้น ซึ่งในสัญญาควรจะต้องมีการระบุว่าแฟรนไชส์รายนี้ ได้รับสิทธิ์เพียงผู้เดียวหรือไม่ เช่นในกรณีที่จะให้สิทธิ์ รายเดียวในภาคเหนือที่คลอบคลุม 10 จังหวัดคือเชียงใหม่,เชียงราย,แม่ฮ่องสอน ฯลฯ

จะมีเงื่อนไขต่อไปตามที่จะตกลงกันเช่นไร เช่นผู้ที่ได้สิทธิ์รายเดียวอาจต้องมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการให้ได้ตามข้อที่ตกลงกันในระยะเวลาที่กำหนด ก็ยังมีที่ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ก็จะยกเลิกสัญญาได้ เช่นนี้เป็นต้น 
 
ข้อกำหนดเรื่องการเลือกสถานที่

 
โดยส่วนใหญ่แล้วธุรกิจแฟรนไชส์บริษัทแม่มักมีส่วนในการช่วยเลือกสถานที่ดังนั้นในสัญญาอาจจะมีการกำหนดไว้ในเรื่องนี้ว่าบริษัทแม่จะมีส่วนในการช่วยเลือกสถานที่หรือไม่อย่างไรเนื่องจากผู้ขายแฟรนไชส์ที่ดีส่วนมากจะต้องไม่ทำให้ธุรกิจที่ตั้งขึ้นไม่ว่าจะเป็นของบริษัทแม่เองหรือของบริษัทแฟรนไชซี่ล้มเหลว จึงมักมีความประสงค์ในการมีส่วนในการเลือกสถานที่ตั้งเพื่อเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจดำเนินกิจการไปได้
 
การโฆษณาส่งเสริมการขาย
 
การโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายเป็นอันดับหนึ่งที่สำคัญที่มักจะสับสนกันที่ควรจะมีการพูดถึงในสัญญาโดยระบุว่าใครเป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมการขาย และการโฆษณาใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย จะมีค่าใช้จ่ายส่วนรวมในการโฆษณาหรือไม่อย่างไรหรือมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาท้องที่ของร้านแฟรนไชซี่หรือไม่เป็นการระบุให้เข้าใจตรงกัน 
 
ระเบียบในการดำเนินธุรกิจ

 
ในธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องมีการกำหนดระเบียบในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรักษามาตรฐานของร้านดังนั้นในสัญญาอาจจะมีการระบุคือ ระเบียบที่สำคัญที่ต้องปฏิบัติเอาไว้โดยเฉพาะในเรื่องของ การให้ตรวจสอบการดำเนินงานร้านเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของร้านเป็นต้น
 
ข้อกำหนดในการเก็บรักษา/และการควบคุมคุณภาพ 
 
เรื่องการกำหนดให้ซื้อสินค้าจากบริษัทแม่ เป็นเรื่องที่มีปัญหาระหว่างกันเสมอและในกฎหมายแฟรนไชส์ที่กำลังจะออกมาในเร็วๆนี้ ก็จะมีการกล่าวถึงในเรื่องนี้ด้วยดังนั้นการทำสัญญาแฟรนไชส์ที่ระบุให้มีการซื้อสินค้าใดจะต้องอยู่ในขอบเขตเพื่อการคงรักษา ตัวมาตรฐานและคุณภาพเท่านั้นจะกำหนดให้ซื้อจากบริษัทแม่ทุกอย่าง หรือปราศจากเหตุผลที่เหมาะสมจะไม่สามารถทำได้ 
 
แต่ท่านสามารถระบุในเรื่องของวิธีการเก็บรักษาสินค้า หรือเครื่องมืออุปกรณ์เพื่อช่วยในการรักษามาตรฐานด้วยได้ ส่วนการควบคุมคุณภาพนั้นมักจะมีอยู่ในคู่มือ ซึ่งข้อกำหนดของสัญญาเรื่องนี้มักจะสอดคล้องกับแนวทางของการควบคุมคุณภาพต่างๆที่อยู่ในคู่มือ 
 
การเลือกพนักงานและการอบรม 
 
แน่นอนที่สุดการทำระบบแฟรนไชส์จะต้องมีหน้าที่ในการฝึกฝนบุคคลากรจนกระทั่งสามารถดำเนินธุรกิจเหมือนกับบริษัทแม่ได้ ดังนั้นในสัญญาจะต้องมีการระบุถึงเรื่องนี้ว่า ใครจะเป็นผู้คัดเลือกพนักงานกำหนดระยะเวลาของการฝึกฝน และความช่วยเหลือ ว่าจะมีอย่างไรและระยะเวลายาวนานเพียงใด ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีกรณีพิพาทเกิดขึ้นถึงความไม่ชัดเจนในเรื่องนี้
 
การโอนสัญญา

 
หากมีการทำธุรกิจแฟรนไชส์ไปแล้วเกิดไม่อยากทำขึ้นมา ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์จะมีสิทธิ์โอนต่อให้คนอื่นได้หรือไม่ประเด็นนี้ผู้ขายแฟรนไชส์ควรคิดเอาไว้ก่อน แล้วระบุกฎเกณฑ์เรื่องนี้ไว้ในสัญญาและการโอนจะโอนได้ในเรื่องอะไรบ้าง
 
รายได้ค่าสิทธิ์
 
ในสัญญาควรระบุคือ วิธีการชำระค่าสิทธิ์ รวมถึงวัน เวลา และอัตราค่าสิทธิ์ที่แน่นอนเอาไว้ การชำระค่ารอยัลตี้ หรือค่าแฟรนไชส์อาจจะมีการกำหนดในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ของยอดขาย หรือผลกำไรหรือกำหนดเป็นอัตราที่แน่นอนรายเดือน ซึ่งควรมีการบอกเอาไว้และกำหนดให้ชัดเจนว่าคำนวณรายได้ จากอะไร จากรายได้สุทธิหรือจากรายได้ที่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายเป็นต้น นอกจากนี้อาจจะมีการกำหนดเป็นสกุลเงินใดในการรับชำระ (ในกรณีที่ขายแฟรนไชส์ต่างประเทศรวมถึงกำหนดด้วยว่าใครเป็นผู้ชำระภาษี)
 
สมุดบัญชี

 
ระเบียบในการลงแบบฟอร์มบัญชี ที่อาจจะมีการระบุให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์เก็บหลักฐานทางบัญชี อย่างพร้อมทุกข้อมูลและลงรายละเอียดรายรับ-รายจ่ายอย่างถูกต้องซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ควรจะปฏิบัติส่วนผู้ขายแฟรนไชส์ก็จำเป็นจะต้องมีระบบงานทางด้านรายงานทางการเงินที่ดีเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูลต่างๆรวมทั้งเป็นการช่วยเหลือผู้ซื้อแฟรนไชส์ให้มีระบบงานที่ดีขึ้นด้วย
 
สิทธิในการตรวจสอบบัญชี
 
แฟรนไชส์ส่วนใหญ่ จะมีการจ่ายค่ารอยัลตี้ฟีตามเปอร์เซ็นต์ หรือยอดกำไรซึ่งส่วนนี้จะเป็นยอดเงินเท่าไรก็อาจจำเป็นต้องมีการตรวจสอบบัญชีของผู้ซื้อแฟรนไชส์  สิ่งนี้อาจจะเป็นจุดอ่อนไหวที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์ให้ตรวจสอบที่จะต้องมีการตกลงกันตั้งแต่เริ่มแรกและระบุในสัญญาว่าจะอนุญาตให้มีการตรวจสอบบัญชีในการทำธุรกิจหรืออาจมีการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีพิเศษขึ้นมาอีกก็ได้
 
การแข่งขัน

 
เป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นเสมอ ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์เมื่อซื้อแฟรนไชส์ไปได้ระยะหนึ่งเมื่อทำธุรกิจเองได้แล้วก็อาจอยากเป็นผู้ขายแฟรนไชส์เสียเอง หรือไม่อยากชำระค่ารอยอตี้ฟีอีกต่อไปทำให้คู่ค้ากลายเป็นคู่แข่ง ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นเสมอ ดังนั้น สัญญาแฟรนไชส์ก็อาจจะมีการทำความเข้าใจในประเด็นนี้โดยอาจจะมีเงื่อนไขระบุในการห้ามค้าแข่งในธุรกิจเดียวกันในระยะเวลาที่กำหนดเป็นต้น 

การไม่เปิดเผยความลับ
 
การขายแฟรนไชส์ จำเป็นจะต้องถ่ายทอดวิชาเฉพาะธุรกิจนั้นๆให้ผู้ซื้อ เช่นร้านอาหารอาจจะมีเคล็ดลับเรื่องสูตรอาหารหรือกลยุทธพิเศษในเรื่องของการทำการตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปิดเผยคู่มือในการทำธุรกิจที่มีรายละเอียดทุกอย่างที่เจ้าของแฟรนไชส์ได้ศึกษาขึ้นมา ด้วยประสบการณ์เป็นเวลานานเมื่อได้ถ่ายทอดให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วอาจจะมีโอกาสที่จะถูกนำไปเปิดเผยได้ดังนั้นในสัญญาควรมีการกำหนดในเรื่องนี้ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่จะต้องรักษาความลับแม้กระทั่งเลิกสัญญาต่อกันไปแล้ว
 
ระยะเวลาสัญญาแฟรนไชส์ 
 
แน่นอนว่าในการให้สิทธิแฟรนไชส์ จะต้องกำหนดระยะเวลา ของการให้สิทธิเอาไว้จะเป็นกี่ปีผู้ขายแฟรนไชส์ อาจจะต่อกันครั้งละ 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ก็ตามหากไม่ได้กำหนดไว้อาจจะเสมือนว่าจะได้สิทธิตลอดไปซึ่งในกรณีที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ละเลยในการต่อค่าสิทธิ หรือประพฤติไม่เหมาะสมก็จะแก้ไขได้ยากแต่ถ้ามีระยะเวลาก็อาจจะไม่มีการต่อสัญญาในรอบต่อไปได้
 
การเลิกสัญญา
 
ในสัญญาควรจะระบุในกรณีที่เลิกสัญญาเอาไว้ด้วยว่ามีกรณีใดบ้างที่จะเลิกสัญญาแฟรนไชส์อีกต่อกันเช่น อาจจะเสียชีวิต หรือมีคดีผิดกฎหมาย หรือกรณีผิดสัญญาร้ายแรงเช่นไม่ชำระค่าสิทธิ เป็นต้น
 
ผลของการเลิกสัญญา

 
ผลของการเลิกสัญญาแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปผู้ขายแฟรนไชส์ควรจะกล่าวถึงไว้ในสัญญาด้วยเช่นเมื่อเลิกสัญญาแล้วก็ไม่มีสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าเป็นต้น
 
เหตุสุดวิสัย
 
ในบางครั้งอาจมีสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ภัยธรรมชาติ สงคราม เป็นต้นก็อาจจะมีการกำหนดผ่อนผันสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวได้
 
การอนุมัติและการอนุญาต
 
ในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ จำเป็นต้องควบคุมมาตรฐานในการดำเนินงานให้เท่ากันทุกแห่งดังนั้นอาจจะมีการสับสนว่าเรื่องใดบ้างอนญาติให้แฟรนไชส์ดำเนินงานเองได้เรื่องใดจะต้องขออนุญาตจากบริษัทแม่เสียก่อนซึ่งจะทำให้มีความเข้าใจตรงกันและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
 
เอกสารแนบท้าย

 
ในการทำสัญญาอาจมีข้อสัญญาหลายเรื่อง เป็นการอนุญาตให้ใช้สิทธิเครื่องหมายการค้าหรือเอกสารรายละเอียดอื่น ๆที่แนบท้าย ซึ่งอาจจะระบุอ้างอิงถึงเอกสารแนบท้ายและระบุว่าส่วนใดอยู่ภายใต้สัญญาฉบับนี้ด้วย

ในเรื่องของการค้าสัญญาระหว่างกันนี้จุดที่ดีที่สุดก็คือ ควรจะมีความเป็นธรรม ที่ให้โอกาสอีกฝ่ายหนึ่งได้อ่านทบทวนโดยละเอียดและได้ต่อรองในข้อตกลงต่างๆ กันก่อน ซึ่งการทำสัญญาถ้าผู้ขายแฟรนไชส์จะสร้างระเบียบต่างๆขึ้นมาโดยที่ดูเป็นการเอาเปรียบอีกฝ่ายหนึ่งขึ้นมาก็อาจจะไม่สามารถบังคับใช้ได้เลยเพราะอาจจะอยู่ในลักษณะของสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
     
ทั้งนี้การซื้อขายแฟรนไชส์ใดๆเรื่องของสัญญาถือว่ามีความสำคัญมากซึ่ง การเขียนสัญญาย่อมเป็นหน้าที่ของนักกฎหมาย ทนายความซึ่งข้อแนะนำในเรื่องนี้เป็นเรื่องการให้แนวทางว่า ควรจะมีการระบุและพูดถึงในเรื่องใดบ้าง ซึ่งอาจจะมีการเพิ่มเติมมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ก็ขึ้นกับความต้องการของผู้ขายแฟรนไชส์และลักษณะของแต่ละธุรกิจและการยอมรับของผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่มีจุดลงตัวซึ่งกันและกัน
 
สนใจต้องการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์เรามีรวบรวมไว้หลายหมวดหมู่จำนวนมาก ดูรายละเอียด goo.gl/eoLUxE
 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
828
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
573
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
494
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
470
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
463
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
436
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด