5 นวัตกรรมล้ำสุดยอด ที่เหมือนอยู่ในโลกอนาคต
 

ในปี 2017 คาดว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆที่ออกมาสู่ตลาดได้อีกมาก และทุกครั้งที่นวัตกรรมเหล่านั้นเปิดตัวออกมาก็ดูเหมือนว่าโลกใบนี้จะเริ่มขยับเข้าใกล้คำว่าไฮเทคมากขึ้นทุกที

หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยเป็นแค่จินตนาการในภาพยนตร์ได้ถูกพัฒนาออกมาเป็นสินค้าตอบสนองความต้องการผู้บริโภค แน่นอนว่าพัฒนาการของสินค้าเหล่านี้อาจจะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นแต่ก็ถือว่าน่าสนใจมากและเมื่อต่อยอดความคิดกันต่อไปจะกลายเป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่สมกับคำว่าไฮเทคแบบสุดยอดเหมือนอยู่ในโลกอนาคตกันเลยทีเดียว

 

และในวันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ก็มี 5 นวัตกรรมที่เป็นสัญญาณของคำว่าโลกแห่งอนาคตบางอย่างเหมือนหลุดมาจากจินตนาการ สินค้าบางอย่างเข้ามาเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตเราให้ดีขึ้นง่ายขึ้น แต่ทุกอย่างถือเป็นสินค้าสุดล้ำที่บางทีเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรามาถึงจุดนี้กันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ภาพจาก goo.gl/ZtmZEU

เมื่อเทรนด์อาหารสุขภาพกำลังมาแรงในปี 2017 การนำกับข้าวใส่กล่องไปรับประทานตจึงเป็นอีกความนิยมในหมู่พนักงานออฟฟิศแต่ปัญหาสำคัญคืออาหารที่เย็นชืดจนเกินไป

ด้วยเหตุนี้สตาร์ทอัพรายหนึ่งจากสวิสเซอร์แลนด์ จึงพัฒนา HeatsBox กล่องบรรจุอาหารดีไซน์สวยที่สามารถบรรจุอาหารได้ถึง 925 มิลลิลิตร และอุ่นอาหารให้ร้อนได้ก่อนจะรับประทานด้วย

ซึ่งการทำความร้อนนั้นใช้ไฟ 85 วัตต์ เป็นเวลาประมาณ 15 นาที (โดยใช้ได้ตั้งแต่ไฟ 12 โวลต์ไปจนถึง 240 โวลต์) และสามารถต่อไฟจากสาย USB ได้ จึงถือว่าค่อนข้างอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี แต่ดูจากปริมาณไฟที่ใช้แล้ว บริษัทที่ลงทุนซื้อเตาไมโครเวฟมาให้พนักงานได้ใช้อุ่นอาหารกันอาจจะประหยัดค่าไฟมากกว่าก็เป็นได้

 

ภาพจาก goo.gl/8MImOt

เราเคยดูภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำในเนื้อเรื่องโดยเฉพาะจากค่ายมาร์เวลอย่างไอรอนแมนที่เราจะเห็นว่ามีเทคโนโลยีหนึ่งที่มีเสียงหนึ่งคอยช่วยเหลือโต้ตอบช่วยงานได้ทุกเวลาเราเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ ที่ใครหลายคนก็วาดหวังอยากได้เทคโนโลยีแบบนี้บ้าง

แต่ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น Echo ของ Amazon , Google Now ของ Google จนถึง Siri ของ Apple ก็ยังเป็นแบบถามคำตอบคำ จนล่าสุดทางญี่ปุ่นสร้าง Gatebox ที่คล้ายกับหุ่นยนต์เหมือนจริงที่ใช้ในบ้านซึ่งมาในรูปแบบของการแสดงภาพแบบโฮโลกราฟฟิกของ AI ที่ใช้ต้นแบบของตัวการ์ตูนอนิเมะที่ทำให้โต้ตอบกับผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น

ความสามารถของGateboxที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนนั้นทำได้หลายอย่างโดยระบบของ Gatebox จะเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านหลายอย่างไม่ว่าจะโทรทัศน์ แสงไฟ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ทำให้เราสามารถสั่งงานเปิดปิดทุกอย่างผ่านทาง Gatebox

นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยจำที่เป็นเหมือนเลขาคอยเตือนสิ่งต่างๆ รวมถึงยังสามารถปลุกให้ตื่นนอน บอกข้อมูลพยากรณ์อากาศ และที่สำคัญคือ Gatebox ที่เป็นอนิเมะนี้สามารถพูดคุยโต้ตอบกับเราได้ราวกับเป็นเพื่อนคนหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งราคาของ Gatebox ที่ว่านี้ประมาณ 298,000 เยน หรือประมาณ 100,000 บาท ใครอยากได้เป็นเจ้าของก็สามารถ Pre-order กันได้เลย

 

ภาพจาก goo.gl/U9kTM5

รองเท้าผ้าใบที่เราเคยเห็นว่าสวยหรูดูดี งานนี้ต้องชิดซ้ายไกลๆ เมื่อ Vixole บริษัทStartup ที่นิวยอร์คได้นำเทคโนโลยีมาผสมผสานแฟชั่น กลายเป็น Vixole ที่มีจุดเด่นคือหน้าจอ LED ที่อยู่ระหว่างด้านหลังไปจนถึงเกือบกลางรองเท้า

ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้สำหรับการส่งข้อมูลรูปภาพไปจนถึงภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อเอามาทำลายรองเท้าชนิดที่เราออกแบบเองแบบไม่กลัวซ้ำใคร

และนอกจากนี้ยังมีความพิเศษที่ยิ่งกว่าคือการมีเซนเซอร์ถึง 8 จุดอยู่บนรองเท้าทำให้นับก้าวที่เดินและส่งข้อมูลไปไว้บนแอพเรียกว่าใช้แทน Fitness Tracker ได้ดีไม่แพ้กัน และยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียงและการเคลื่อนไหวที่ทำให้รองเท้าเปลี่ยนลายขณะวิ่งหรือหยุดได้อีกด้วย

นอกจากนี้ถ้าเอา Vixole ทั้งสองข้างมาชนกันก็จะเป็นการรับการแจ้งเตือนข้อความไปจนถึงสายเรียกเข้าในสมาร์ทโฟนได้อีกด้วยถือเป็นสินค้าสุดล้ำๆที่ทำให้เราอยากได้จริง ตอนนี้เป็นสินค้าที่อยู่ในราคาเริ่มต้นระดมทุนคือ 420 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 15,000 บาท แต่ถ้าระดมทุนสำเร็จผลิตเป็นสินค้าวางขายทั่วโลกรับรองว่าราคานี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้วแน่ๆ

ภาพจาก goo.gl/abqOnl

เราคงเคยได้ยินธุรกิจอาหารที่จัดเมนูอาหารตามกรุ๊ปเลือด เมนูตามธาตุของร่างกาย เมนูประจำราศี และอีกสารพัดเมนูที่ธุรกิจนั้นๆ มองว่ามันจะโดนใจผู้บริโภค

แต่สำหรับธุรกิจร้านอาหารที่ต้องการ “เทคโนโลยีดิจิทัล” เข้ามาช่วยเสริมยอดขายอาจสนใจเรื่อง Facial-Mapping ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการวิเคราะห์สิ่งที่แสดงออกทางใบหน้าเพื่อนำไปจับคู่กับเมนูอาหารที่เข้ามาช่วยเติมเต็มความรู้สึก

หรือช่วยฟื้นฟูร่างกายได้นั่นเอง เทคโนโลยี Facial-Mapping พัฒนาขึ้นโดยนักจิตวิทยา Charles Spence, บริษัท Food Delivery โดยการวิเคราะห์นี้จะทำให้รู้ได้ว่าลูกค้ากำลังอยู่ในอารมณ์ใด

เช่นคนที่อยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นก็อาจต้องรับประทานอาหารประประเภทธัญพืชเพื่อปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ หรือคนที่อยู่ในภาวะตึงเครียด ก็อาจได้รับคำแนะนำให้รับประทานดาร์กช็อคโกแล็ต และถั่วต่าง ๆ เนื่องจากมีแม็กนีเซียมสูง ซึ่งสามารถช่วยลดระดับความเครียดลงมาได้ เป็นต้น

ภาพจาก goo.gl/mFvfet

นี่คือการพัฒนาDrone จิ๋วตัวแรกที่สามารถพกติดตามตัวไปได้ทุกที่เนื่องจาก Drone ที่ว่านี้จะอยู่ภายใน Case โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เรานิยมใช้กันและถือเป็นความท้าทายน่าสนใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ซึ่ง Drone จิ๋วที่ว่านี้จะถูกซ่อนไว้ในช่องพิเศษที่ถูกออกแบบมาให้เก็บได้เป็นอย่างดีและด้วยขนาดที่เท่ากับPower Bank ก้อนหนึ่งจึงไม่ใช่เรื่องยากกับการพกพาไปในที่ต่างๆด้วย โดยโครงสร้างหลักของ AirSelfie ผลิตด้วยอลูมิเนียม น้ำหนัก 52 กรัม ขับเคลื่อนด้วย 4 ใบพัด บินได้สูงสุด 20 เมตร

พร้อมเซ็นเซอร์ Gyro, Barometer, Geomagnetic ใช้แบตเตอรี่ 240mAh และมาพร้อมเคสที่มีแบตเตอรี่ในตัว ควบคุมการบินและสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

โดยจะขายมาพร้อมกับCase สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น Samsung S7 Edge , iphone 6 และ iphone 7 ซึ่ง AirSelfie นั้นได้เริ่มระดมทุนผ่าน Kickstarter ซึ่งได้รับเงินเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้ในราคาเริ่มต้น 179 ยูโร หรือราว 6,750 บาท พร้อมส่งมอบสินค้าในเดือนมีนาคม 2017
 

ความไฮเทคของสินค้าเหล่านี้เรียกว่ามาไกลเกินกว่าสิ่งที่เราเคยคาดคิดไว้มากและในอนาคตก็เชื่อได้เลยว่าจะต้องมีสินค้าที่สุดล้ำยิ่งกว่านี้ออกมาสู่ตลาดจนทำให้สินค้าที่เราเคยเห็นและคิดว่าดีในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ และเมื่อถึงเวลานั้นโลกของเราก็คงก้าวเข้าไปอยู่ในยุคสมัยที่ไกลเกินกว่าจินตนาการตอนนี้มากนัก