I have a pen, I have a pineapple…ยังจำเพลง Pen-Pineapple-Apple-Pen (PPAP) ของ Pico Taro ชาวญี่ปุ่นกันได้ใช่ไหมนักวิจารณ์จำนวนมากต่างฟันธงว่าเพลงนี้หาสาระไม่ได้แต่กลับฮิตติดชาร์จและก้องอยู่ในโสตประสาทคนทั้งโลก

จนสร้างสถิติเป็นเพลงญี่ปุ่นเพลงแรกในรอบเกือบ 40 ปีที่ติดอันดับ Billboard Hot 100 ของสหรัฐอเมริกา และได้รับการรับรองจากกินเนสต์ เวิร์ล เรคคอร์ด ให้เป็นเพลงที่ทำสถิติผู้ชมสูงสุดในเว็บไซต์youtube
 

ภาพจาก goo.gl/E6PQrN

 

และจากตอนนั้นมาถึงตอนนี้หลายคนคงคิดว่ากระแสนี้ลบเลือนหายไปแต่อันที่จริงกระแสของ PPAP ยังคงอยู่และต่อยอดความสำเร็จจากครั้งนั้นกลายเป็น PPAP Cafe’  ซึ่งเปิดกิจการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมาบริเวณ TV Station Official Shop บนถนน Tokyo Skytree

งานนี้มีอะไรน่าสนใจ www.ThaiFranchiseCenter.com พาทุกคนไปดูธุรกิจนี้ที่ถือว่าเกิดมาจากความโด่งดังกันในเวลาเพียง1-2 เดือน

 

ภาพจาก goo.gl/D8eDUu

จากการเปิดตัวเพียงไม่นานกลายเป็นกระแสไวรัลที่พูดถึงกันเป็นวงกว้างขนาดที่สื่อไทยเองก็ยังต้องจับมาทำข่าวยิ่งกลายเป็นการจุดกระแสให้เพลงนี้โด่งดังมียอดการค้นหาในช่วงนั้นทะลุหลักล้านครั้งภายในเวลาเพียงแค่วันเดียวนี้ยังไม่รวมกระแสของต่างชาติที่ว่ากันว่าแรงกว่าในเมืองไทยเยอะมาก

เหตุผลที่เพลงสั้นๆเนื้อหาวนไปวนมากลายเป็นที่รู้จักของทุกคนนักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าเป็นปรากฏการณ์ Earworm ที่เป็นการเติมเต็มในส่วนที่ว่างของสมองด้วยเนื้อร้องที่สั้นๆและซ้ำไปซ้ำมา

แม้บางคนจะชอบหรือไม่ชอบเพลงนี้ก็ตามแต่จากกระแสที่ดังไปทั่วโลกนั้นก็ทำให้ Pico Taro ได้เป็นศิลปินในสังกัดของ SM Entertainment รวมถึงการสร้างรายได้จากยอดลิขสิทธิ์ที่ขายให้กับสินค้าและส่วนแบ่งจากการดาวน์โหลดในเว็บไซต์ทั่วโลกและตอนนี้ก็ถึงเวลาขยายต่อกิจการเป็น PPAP Cafe’ ที่ยังคงเอกลัษณ์ในความเป็น PPAP เอาไว้ได้อย่างชัดเจน

ภาพจาก goo.gl/D8eDUu

ภายในร้าน PPAP Cafe’  ของ Pico Taro เป็นร้านอาหารแบบ Cafe’ ในวันเปิดตัวมีทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่อคิวเพื่อเข้าชิมเมนูและซื้อของที่ระลึกภายในร้านจำนวนมาก

บรรดาลูกค้ายังพากันเต้นท่าทางประกอบเพลงอย่างสนุกสนาน แสดงถึงความนิยมของเพลงดังฝีมือศิลปินชาวญี่ปุ่น และนี่คือ 5 สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ PPAP Cafe’  แปลกและแตกต่างจากธุรกิจ Cafe’ ต่างๆที่ทุกคนเคยรู้จักกันมา

 

1.ทุกเมนูในร้านจะได้รับการตั้งชื่อโดยใช้ตัวอักษร PPAP  ตามชื่อเพลงที่ทุกคนรู้จัก เช่น PPA Pan(แฮมเบอร์เกอร์), PPA Parfait(ขนมผสมแอปเปิลและสัปปะรด), PPA Pancake(แพนเค้กแอปเปิลและสัปปะรด), PPA Tea(ชารสแอปเปิลและสัปปะรด) เป็นต้น
 

ภาพจาก goo.gl/D8eDUu

2.มีเมนูที่เกี่ยวข้องกับ Pen, Pineapple และ Apple ที่จะหาทานได้จากที่นี่เท่านั้น เช่น PPAP Fresh Juice ที่เสิร์ฟในสับปะรดทั้งลูก เป็นต้น

 

3.มีการแจกของขวัญเป็นที่รองแก้ว PPAP สำหรับการสั่งอาหาร 1 เมนู ถือเป็นของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆจากคาเฟ่
 

ภาพจาก goo.gl/E6PQrN

 

4.ภายในร้านยังมีโซนถ่ายรูปให้ได้ถ่ายกับป้ายหน้า Pico Taro และยังมีโซนขายของฝากของที่ระลึกเกี่ยวกับ PPAP ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด,พวงกุญแจและโปสเตอร์นอกจากนี้ยังมีตู้ถ่ายรูปสติกเกอร์คู่กับ Pico Taroซึ่งลูกค้าสาวๆให้ความสนใจมาก
 

ภาพจาก goo.gl/gSYpPR

 

5.สำหรับลูกค้าที่ชอบทานช็อคโกแลตก็มีช็อคโกแลตแท่งซึ่งเปรียบเหมือนปากกา(ตามเนื้อเพลง) ปักอยู่ในสัปปะรด , แอปเปิล หรือแม้แต่แพนเค้ก รวมถึงลูกค้าสามารถทานได้แบบ take away คือซื้อเสร็จสามารถนั่งทานได้บริเวณรอบๆด้านนอกได้อย่างสบายๆ
 

ภาพจาก goo.gl/E6PQrN

 

แม้กระแสของ PPAP จะไม่โด่งดังเหมือนในช่วงแรกๆ แต่ผู้ที่ได้ลิขสิทธิ์ ทำตราสินค้าหรือว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันในช่วงนั้นก็ได้อานิสงส์จากความโด่งดังสามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และ Pico Taro ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่โด่งดังและรู้จักการต่อยอดธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
 

ภาพจาก goo.gl/gSYpPR

ในอนาคตแม้ชื่อเพลง PPAPจะยังเป็นที่รู้จักหรือไม่ก็ตามแต่เชื่อว่าธุรกิจของ Pico Taro ที่ต่อยอดมาจากความดังในครั้งนี้จะยังเป็นธุรกิจที่ดีและมีกำไรในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

 

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/D8eDUu