หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วมะยงกับมะปรางนั้นเหมือนกัน หรือต่างกันอย่างไร? กับเรื่องนี้เขาบอกว่ามะยงแยกได้ 2 ชนิด คือพวกที่มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เรียกว่า “มะยงชิด” และพวกที่มีรสหวานอมเปรี้ยวมากเรียกว่า “มะยงห่าง” และข้อแตกต่างคือ หากเป็นมะปราง สีผลดิบจะมีสีเขียวออกซีดผลใส ส่วนผลสุกมีสีเหลืองอ่อน มีรสหวานสนิท ส่วนมะยงนั้นสีผลดิบจะสีเขียวจัดกว่ามะปราง และผลสุกมีสีเหลืองแกมส้ม ส่วนรสชาติมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย

สำหรับพันธุ์ที่ใช้ปลูกนั้น คือพันธุ์ท่าด่าน มีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดผลใหญ่ สีเหลืองสดใส เมล็ดลีบเล็ก เนื้อหนา ไม่เหลว รสชาติหอมหวานติดเปรี้ยวเล็กน้อย หากมีการบำรุงรักษาดีจะได้ประมาณ 8-9 ผลต่อกิโลกรัม ราคาโดยเฉลี่ยต่อผลมะยงชิดในตลาดทั่วไปจะอยู่ที่ราคาตั้งแต่ 200-400 บาทต่อกิโลกรัม

แต่สำหรับสวนของอุดมเขาบอกว่าจะคัดเกรดโดยเลือกขายเฉพาะผลมะยงขนาดเท่าไข่ไก่ ซึ่งจะได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 450 บาท แต่ก็ต้องเพิ่มต้นทุนและเวลาในการดูแลรักษามากกว่าปกติเพื่อไม่ให้มดแมลงมากัดกินทำให้ผิวมะยงลายดูไม่สวย

สำหรับการปลูกต้นมะยงชิดนั้น โดยธรรมชาติมะยงชิดไม่ชอบสภาพชื้นแฉะน้ำท่วมขัง ซึ่งถ้าเป็นที่ต่ำควรยกร่องเพื่อระบายน้ำ ส่วนดินที่มีกรดด่าง ดินเหนียว หรือมีกรวดมีหินมากเกินไปควรต้องปรับปรุงดินก่อน การปลูกควรเว้นระยะให้ห่างประมาณ 7x7 เมตร โดยขุดหลุมมีขนาดลึก กว้าง และยาวขนาดละ 50 เซนติเมตร จากนั้นนำแกลบดิบและปุ๋ยคอก อย่างละหนึ่งบุ้งกี๋ผสมให้เข้ากันกับดินที่ขุดในหลุม โดยไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยเคมีใน การปลูกใหม่ และนำกิ่งพันธุ์ลงปลูกโดยแกะถุงพลาสติกออกระวังอย่าให้ดิน ในถุงแตก จากนั้นทำการกลบดินให้เท่ากับรอยดินในถุงเดิม และอย่าลืมแกะพลาสติกตรงที่พันรอยทาบออกด้วย นำไม้ค้ำมาปักยันกันลมยกต้น โดยอย่าปักใกล้โคนต้น

ข้อควรระวังคือ ถ้าปลูกในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด ให้หาหญ้าแห้งมาคลุมโคนต้น และจัดทำร่มเงาพรางแสงแดดด้วย การดูแลรักษานั้น อุดมแนะนำว่าควรให้น้ำประมาณ 3 วันครั้ง โดยช่วงลงต้นใหม่ ๆ ระยะ 2 ปีแรกต้องหมั่นใส่ปุ๋ย โดยใส่ทุก 6 เดือนนับจากวันปลูก ส่วนปุ๋ยทางใบฉีดเมื่อต้นออกใบอ่อนเท่านั้น เคล็ดลับการใส่ปุ๋ยให้มีคุณภาพควรใส่ตรงแนวรัศมีทรงพุ่มเข้าหาลำต้น อย่าใส่ที่โคนต้น และควรยกร่องขนาดเล็ก ทำเป็นวงกลมล้อมรอบต้น ปุ๋ยจะได้ไม่ไหลหนีไปเมื่อฝนตกหรือเวลารดน้ำ

“จุดเด่นของมะยงชิดคือ ไม่ค่อยมีโรคแทรก แมลงไม่ค่อยรบกวนทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสารเคมี อีกทั้งให้ผลในช่วงที่ไม้ผลอื่น ๆ ยังไม่ให้ผลผลิต จึงไม่ต้องแข่งขันมากนัก ที่สำคัญตลาดต้องการสูง แต่มี ไม่เพียงพอต่อผู้บริโภค ราคามะยงชิดจึงสูงมาก”

เจ้าของสวนมะยงชิด กล่าวแนะนำ แม้พืชผลการเกษตรจะเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหว เพราะต้องอาศัยธรรมชาติเป็นสำคัญ แต่หากรู้จักนำความรู้ด้านพืชและการบริหารจัดการเข้ามาช่วย การปลูกมะยงชิดนี้ก็ถือว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ และหากใครสนใจติดต่อ อุดม เอื้อใจ ก็ติดต่อได้ที่เลขที่ 61/3 หมู่ 2 ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก โทร.0-3738-4025, 08-1451-9393 หรือดูข้อมูลในเว็บไซต์ www.udomkarnkaset.com