http://http://www.youtube.com/watch?v=D2AHHHyjOJo

อโลเวร่าของปาวองเต ผลิตจากเป็น ต้นอโลเวร่าหรือหวานหางจระเข้พันธุ์บาร์บาเดนซิส (Barbadensis) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่อุดมด้วยวิตามิน และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด

อโลเวร่า จะไปลดและบรรเทาปัญหาการอักเสบในลำไส้และกระเพาะอาหาร เนื่องจากอโลเวร่าไปกระตุ้นการสร้างเอ็นไซด์ที่เรียกว่า PEPSIN ซึ่งมีหน้าที่ย่อยอาหารในกระเพาะ ทำให้อาหารเคลื่อนผ่านลำไส้ได้อย่างสะดวก ย่อยได้เร็ว และร่างกายดูดซึมอาหารได้มากขึ้น ทำให้อุจจาระมีขนาดใหญ่ขึ้น และไม่มีแบคทีเรียมากเกินไป

อโลเวร่าสามารถบำรุงผิวพรรณ เพราะในน้ำอโลเวร่ามี Polysaccharide ทำหน้าที่ปรับผิวให้นุ่ม ช่วยให้เซลล์ผลิต Collagen และ Elastin Fibres อันเป็นเหตุให้ผิวพรรณนุ่มนวลและลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยได้ในเรื่องบาดแผล ทั้งแผลเป็นและแผลเรื้อรัง ไม่ว่าแผละเป็นบนผิวหนังภายนอก และภายในช่องหรือโพรงในร่างกาย เช่น หลอดอาหาร กระเพาะ ลำไส้ หลอดลม ช่องไซนัส ปอด หรือช่องนำเชื้อในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ มีส่วนช่วยบรรเทาโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคหืดหอบ และโรคไขข้ออักเสบ (Arthritis) สถาบัน Carrington Laboratories แห่งสหรัฐฯ ได้ทดลองสกัดสาร Polysaccharide ชนิดหนึ่งในอโลเวร่าแล้วนำมาทดลองกับผู้ป่วยโรคเอดส์ ผลคือผู้ป่วยมีภูมิต้านทานโรคสูงขึ้น และช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้อันเกิดจากฝุ่นละอองเกสรที่มีไวรัส

ปัจจุบันการบริโภคอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไขมันจากสัตว์ นม เนย บุหรี่ แอลกอฮอล์ ของทอด ของย่าง อาหารรสจัด ผงชูรส และอาหารเจือสารพิษ ล้วนแต่ให้โทษต่อร่างกาย คนจำนวนมากรู้ แต่มีน้อยคนสามารถหลีกเลี่ยงอาหารและสิ่งเสพติดเหล่านี้ได้ นานวันเข้าร่างกายไม่สามารถทนต่อสารพิษที่สะสมไว้ได้ มนุษย์จึงเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายนานา เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคไต โรคเก๊าท์ โรคมะเร็ง และอีกสารพัดโรค

การดื่มอโลเวร่าของปาวองเต เป็นทางเลือกที่จำเป็นในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เสริมสร้างสมรรถนะการย่อยและดูดซึมอาหารไปเลี้ยงร่างกาย และบรรเทาโรคต่างๆ ดังที่ปรากฏในประวัติศาสตร์การแพทย์ นับแต่ยุคกรีก อียิปต์ และจีนโบราณ ซึ่งมีอโลเวร่าเป็นส่วนผสมสำคัญของยารักษาโรค และด้วยเหตุที่มีคุณประโยชน์มาก ชาวรัสเซียจึงขนานนามอโลเวร่าว่าเป็น ยาอาวุวัฒนะ (The Elixir of Longevity)

เหตุที่เราต้องดื่มอโลเวร่าปาวองเต

ประมาณ 99% ของส่วนประกอบในอโลเวร่า คือ น้ำ แต่ในน้ำกลับเป็นแหล่งรวมสารอาหารและวิตามินเกือบ 200 ชนิด อาทิเช่น โปรตีน แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี วิตามิน A, C, E และวิตามิน B รวม ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย

ปี ค.ศ.1989 วารสารการวิจัยโรคมะเร็งรายงานผลงานวิจัยจากโอกินาวา ระบุอโลเวร่ามีสารต่อต้านเนื้องอกอยู่ 3 ชนิด คือ Emodin Mannose และ Lecin

คุณสมบัติของอโลเวร่าเป็นเรื่องน่าพิศวง จนทั่วโลกขนานนามอย่างเอกเกริกไว้หลายชื่อ เช่น Brun Plant, Medicine Plant, Wand of Heaven และ Plant of Life

ได้รับการรับรองคุณภาพจากสถาบันรับรองมาตรฐานระบบ GMP, HACCP คือ CAMPDEN และสถาบัน OMIC (Oversea Merchandise Inspection Co.,Ltd.) ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานการผลิตในเรื่องปลอดสารเคมี ตั้งแต่การเพาะปลูกจนสิ้นสุดกระบวนการผลิต

วิธีบริโภค

ดื่มครั้งละ 2-4 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหาร เช้า-เย็น ประมาณ 5-10 นาที หลังจากนั้น ปิดฝาขวดให้แน่น แล้วนำไปเก็บในตู้เย็น