ภาพจาก  http://goo.gl/Inb3l3

 

ทั้งนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในการหามาตรการช่วยส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)และภาคบริการ ให้สามารถขยายกิจการไปสู่ตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น

 

“ตอนนี้ สค.กำลังคุยกับบีโอไอ ถึงมาตรการที่จะสามารถช่วยเหลือ พัฒนาผู้ประกอบการได้ โดยมาตรการที่จะออกมา จะเน้นการช่วยเหลือเพิ่มความสามารถในแข่งขันของธุรกิจและบริการไทยให้ไปสู่ต่างประเทศ เบื้องต้นธุรกิจที่มองว่ามีศักยภาพและน่าจะผลักดันเข้าร่วมโครงการได้ เช่น ธุรกิจด้านอาหาร ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ สินค้าเกษตรที่มีการพัฒนาไปใช้นวัตกรรม รวมถึงงานของกรมราชทัณฑ์ด้วย” น.ส.ชุติมา กล่าว

 

สำหรับความกังวลเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นยังไม่อยากให้ตื่นตระหนกเกินไปว่าจะกระทบต่อธุรกิจและเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 2559 เนื่องจากค่าเงินบาทมีการปรับขึ้น-ลงระยะสั้นๆ และตอนนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอจากผู้ประกอบการให้กระทรวงเข้าไปดูแล แต่กระทรวงจะติดตามอย่างใกล้ชิด และส่วนตัวก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการส่งออกไทย เพราะเศรษฐกิจและการส่งออกยังดีอยู่

 

อย่างไรก็ตามระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2559 กระทรวงได้จัดงาน “96 ปี พาณิชย์ก้าวไกลเศรษฐกิจไทยก้าวหน้า” ที่ลานอเนกประสงค์ของกระทรวง โดยนำผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยชนิดต่างๆ รวม 170 บูธ มาจัดจำหน่าย ทั้งสินค้าชุมชน, ตลาดต้องชม, สินค้าจากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ, สินค้าเกษตรอินทรีย์, สินค้า GI ทรัพย์สินทางปัญญา, สินค้าอุปโภคบริโภค, ธุรกิจแฟรนไชส์, สินค้าส่งออก และผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์

ซึ่งปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประมาณ 2.7 ล้านราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไทย 37% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ดังนั้นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทย จึงไม่เป็นเพียงการสร้างอัตลักษณ์ไทยให้ปรากฏในสายตาต่างชาติเท่านั้นแต่จะช่วยต่อยอดผู้ประกอบธุรกิจและเศรษฐกิจไทยได้เดินหน้าอย่างมั่นคงสู่เวทีโลกด้วย

 

อ้างอิงจาก  naewna.com