|
|
|
|
17 มีนาคม 2559 |
รับเทรนด์ ร้านกาแฟ บูมไม่หยุด อโรม่า-รีเทลลิงค์เปิดศึกชิงลูกค้า
ร้านกาแฟโตไม่หยุด "อโรม่า" ทุ่ม 100 ล้านเพิ่มกำลังการผลิตเมล็ดกาแฟคั่ว แตกไลน์กาแฟแคปซูลเจาะกลุ่มร้านอาหาร-กาแฟ ด้าน "ซีพี รีเทลลิงค์" เตรียมนำเข้าเครื่องชงระดับบนขยายฐาน พร้อมเปิดแฟรนไชส์ "กาแฟมวลชน" งดค่าธรรมเนียม-รอยัลตี้ฟี เล็งผุดร้านกาแฟแบรนด์ใหม่จับลูกค้าพรีเมี่ยม "คอปเปอร์ คราวน์" รุกหนักช่องทางค้าส่ง พัฒนาระบบแฟรนไชส์ เจาะตลาดแมส
นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร บริษัทในเครืออโรม่ากรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบ-อุปกรณ์สำหรับธุรกิจกาแฟคั่วบด กล่าวว่า ตลาดกาแฟคั่วบดมูลค่า4,000 - 6,000 ล้านบาท โตปีละ 20 - 25% เนื่องจากความนิยมบริโภคกาแฟสดเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีโรงคั่วกาแฟรายย่อยและร้านกาแฟเพิ่มขึ้นจำนวนมาก บริษัทมีแผนลงทุนกว่า100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่
โดยเพิ่มเครื่องคั่วกาแฟในโรงงานที่บางปะกง จะแล้วเสร็จกลางปี-สิ้นปีนี้ กำลังการผลิตจะเพิ่มอีก 40% จากปัจจุบันที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วราว 2,000 ตันต่อปี สามารถซัพพลายวัตถุดิบ-ผลิตเมล็ดกาแฟในรูปแบบของโออีเอ็มให้กับเชนร้านกาแฟต่าง ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟใหม่ ๆ ได้อีก 3-4 ปีจากนี้
นอกจากนี้มีลงทุนเครื่องจักรผลิตกาแฟแคปซูล กาแฟสดบรรจุถ้วยพลาสติกขนาดเล็กสำหรับเจาะกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร - เครื่องดื่ม เปิดตัวต้นไตรมาส 3 และขยายพอร์ตสินค้าน็อนคอฟฟี่มากขึ้น ล่าสุดนำเข้า ไซรัป แบรนด์อีเดน จากสหรัฐ เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากเดิมที่มีผงชงชานมเผือก ชาเขียวมัทฉะ ผงโกโก้ ฯลฯ
พร้อมเปิดอโรม่าช้อป ร้านจำหน่ายวัตถุดิบและอุปกรณ์กาแฟที่ทำรายได้ให้บริษัทกว่า 40% เพิ่มอีก 7-10 สาขา จากปัจจุบันมี 30 สาขา ทั้งนี้จากสินค้าใหม่และช่องทางการจำหน่ายที่มากขึ้นจะช่วยให้ปีนี้เติบโต 35% จากปีก่อนปิดรายได้ที่ 1,300 ล้านบาท
ด้านนายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด ผู้จำหน่ายวัตถุดิบและอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่ม ในกลุ่มบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธุรกิจร้านกาแฟยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จึงมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ ทั้งเมล็ดกาแฟและเครื่องชงกาแฟเป็น 50% ภายใน 1-2 ปีจากนี้
จากปัจจุบันทำรายได้รวมกันกว่า 40% โดยมีแผนนำเข้าเครื่องชงกาแฟรุ่นใหม่ในระดับราคาหลักแสนบาทเข้ามามากขึ้นจากปัจจุบันช่วงราคาขายดีอยู่ในระดับ4- 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นที่นิยมในร้านขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มธุรกิจ
ทั้งนี้ ช่วงเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดใช้โรงคั่วเมล็ดกาแฟแห่งใหม่ที่มหาชัย มูลค่าลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ทำให้มีกำลังการผลิตเมล็ดกาแฟคั่วเพิ่มขึ้นอีก 20 ตันต่อเดือน หรือ 240 ตันต่อปี จากใช้อยู่ประมาณ 600 ตันต่อปี สามารถรองรับการขยายสาขาร้านกาแฟมวลชนที่ปัจจุบันมีกว่า 50 สาขา ด้วยการเปิดรับสมาชิกที่ต้องการลงทุน
โดยใช้งบฯเริ่มต้นประมาณ 3 แสนบาท ไม่มีค่าแรกเข้าและค่ารอยัลตี้ฟีรายเดือน ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจกว่า 100 ราย และลงทุนขยายสาขาเองอีกประมาณ 10 สาขาต่อเดือน ทั้งยังอยู่ระหว่างพัฒนาร้านกาแฟแบรนด์ใหม่ จับกลุ่มพรีเมี่ยมมากขึ้น คาดว่าจะได้เห็นในเดือนมีนาคมนี้
ขณะที่นางจุฬาวัลย์ พงษ์สุทธิมนัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอปเปอร์ คราวน์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบกาแฟ แบรนด์ "คอปเปอร์ คราวน์" และผู้บริหารร้านกาแฟ "สตาฟ คอฟฟี่" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทิศทางจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางร้านค้าส่งที่จำหน่ายวัตถุดิบสำหรับร้านกาแฟ-เบเกอรี่มากขึ้นเพราะมองเห็นโอกาสจากร้านกาแฟระดับแมสเติบโตดี
อาทิ ร้านกาแฟรถเข็น ร้านกาแฟรายย่อยในแหล่งชุมชนคิดเป็นสัดส่วน 40% ของตลาดรวม โดยได้เริ่มนำเมล็ดกาแฟคั่ว-บด, น้ำเชื่อมไซรัป, ซอสผลไม้สำหรับทำสมูทตี้ เข้าไปทดลองตลาดในร้านค้าส่งกว่า 10 ร้านค้า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วงไตรมาส 2 อาทิ แป้งบราวนี่สำเร็จรูป, ผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมชงที่ใช้ครีมเมอร์สกัดจากถั่วเหลือง
สำหรับช่องทางขายหลักของบริษัทมาจากการขายตรงวัตถุดิบเข้าธุรกิจโรงแรม เชนร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือฟู้ดเซอร์วิส บริษัทเตรียมเพิ่มทีมขาย เพื่อขยายตลาดทั้งในกลุ่มเชนโรงแรมขนาดใหญ่จากปัจจุบันมีอยู่ 2 เชน
รวมทั้งเพิ่มลูกค้าร้านอาหาร-กาแฟในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งยังมีแผนพัฒนาร้านกาแฟแบรนด์ใหม่ จับลูกค้าระดับแมส และจะเปิดขายแฟรนไชส์ให้ผู้ที่สนใจในไตรมาสแรกนี้ ขณะที่ร้านสตาฟคอฟฟี่ยังคงเน้นลงทุนเอง จะเปิดเพิ่มอีก 10-12 สาขา จากที่มี 12 สาขา ตามออฟฟิศบิวดิ้ง สถานศึกษา โรงพยาบาล
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ขอบคุณรูปภาพจาก http://goo.gl/wG1yTK
|
|
|
