19K
15 พฤษภาคม 2557
โครงการโรงภาพยนตร์ชุมชนกันตนา มูฟวี่ มอลล์ เตรียมขายแฟรนไชส์



แม้ ยักษ์ใหญ่อย่าง "กันตนา กรุ๊ป" จะแข็งแกร่งเพียงใดบนธุรกิจบันเทิงไทย แต่เมื่อต้องเผชิญกับมรสุมลูกใหญ่ที่โหมเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อธุรกิจฟิล์มแล็บที่ให้บริการด้านการล้าง-พิมพ์ฟิล์มภาพยนตร์ทั้งไทยและ ต่างประเทศ ซึ่งเคยสร้างรายได้หลักให้บริษัท มีตัวเลขที่ลดลง 60-70% ตามมาด้วยการขาดทุนจากภาพยนตร์แอนิเมชั่น "เอคโค่ จิ๋วก้องโลก" ส่งผลให้ยักษ์บันเทิงรายนี้ถึงกับออกอาการเหมือนกัน จนต้องปรับโครงสร้างสายภาพยนตร์ครั้งใหญ่ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญว่า "กันตนา กรุ๊ป" จะฝ่ามรสุมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ออกไปได้อย่างไร

"จาฤก กัลย์จาฤก" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า ปีที่แล้วถือว่าเป็นปีที่หนักสำหรับบริษัท เพราะตั้งแต่เริ่มธุรกิจมาแทบไม่มีคำว่าขาดทุน แต่ปีก่อนต้องยอมรับว่า เราขาดทุน เพราะทุกอย่างประดังประเดเข้ามาพร้อม ๆ กัน ทั้งการยุบธุรกิจฟิล์มแล็บที่เป็นรายได้หลักของบริษัท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการผลิตภาพยนตร์ที่ถูกเปลี่ยนจากฟิล์ม สู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทต้องยุบธุรกิจดังกล่าวและจ่ายเงินชดเชยแก่พนักงาน ตามมาด้วยการปรับโครงสร้างใหม่สายงานธุรกิจภาพยนตร์


ไม่เพียงเท่า นั้น ยังขาดทุนสะสมจากธุรกิจโพสต์โปรดักชั่น ต่อด้วยการขาดทุนจากภาพยนตร์แอนิเมชั่น "เอคโค่ จิ๋วก้องโลก" เรียกว่าปีก่อนน่วมจริง ๆ

เขาบอกว่า ปีนี้ถือว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางขึ้น เพราะไล่แก้ปัญหาต่าง ๆ มาตั้งแต่ปีก่อน และจากนี้ไปบริษัทก็พยายามเดินหน้าหาโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อหารายได้มาชดเชยรายได้หลักที่หายไป โดยมี 2 โครงการหลักที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นเร็ว ๆ นี้ คือ 1.โครงการรับ-ส่งไฟล์ภาพยนตร์ผ่านดาวเทียม จากเดิมที่บริษัทรับ-ส่งฟิล์มในภูมิภาคอยู่แล้ว คาดว่าจะเซ็นสัญญาภายในสิ้นปีนี้ โดยโครงการนี้ต้องใช้งบฯลงทุนประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เฟสแรกจะทยอยลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐก่อน

ตามด้วย 2.โครงการโรงภาพยนตร์ชุมชน"กันตนา มูฟวี่ มอลล์" โครงการนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ปัจจุบันมีเอกชนสนใจเข้าจองเพื่อลงทุนโครงการนี้แล้วประมาณ 700 ราย และในจำนวนนี้มีผู้สนใจพร้อมลงทุนจริงเพียง 100 โรง

เนื่องจากมีปัญหาด้านเงินลงทุน และคาดว่าอีก 4-5 เดือนจะทยอยเปิดโครงการโรงหนังชุมชนดังกล่าว โดยโครงการ กันตนา มูฟวี่ มอลล์ หลัก ๆ ประกอบด้วยโรงหนัง 1 โรง ขนาด 50 ที่นั่ง ร้านอาหาร เครื่องดื่มเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านกาแฟสด เป็นต้น วางราคาจำหน่ายบัตร 30 บาทต่อที่นั่ง

ลักษณะการขยายธุรกิจแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ผู้สนใจ ที่มีที่ดินขนาด 300 ตร.ม.เข้าร่วมลงทุน
และการสร้างโครงการก่อนแล้วจึงค่อยขายแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นโมเดลในลักษณะเดียวกับเซเว่นอีเลฟเว่น


โครงการ "กันตนา มูฟวี่ มอลล์" ไม่ใช่โครงการโรงภาพยนตร์ แต่เป็นโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ เป้าหมายคือการพัฒนาที่ดินและมีโรงหนังเป็นแม่เหล็กในการดึงคนเข้ามาหา เพื่อสร้างรายได้ทั้งจากการจัดประชุม หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งบริษัทจะมีรายได้จากการขายโฆษณาก่อนหนังจะฉายประมาณ 10 นาที

ถ้า โครงการนี้ขยายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะมีรายได้เพิ่มเข้ามาอีกหลายร้อยล้านบาท สำหรับการขยายโครงการดังกล่าวไปต่างประเทศนั้น อยู่ระหว่างการเจรจา

"จาฤก" กล่าวว่า การสร้าง 2 โครงการใหม่นี้ เป้าหมายคือทดแทนรายได้จากธุรกิจฟิล์มที่หายไป ส่วนสัดส่วนรายได้จะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ในปีนี้ยังประเมินสถานการณ์ไม่ ได้ เพราะการดำเนินธุรกิจฟิล์มแล็บเปรียบเสมือนน้ำซึมบ่อทรายที่มีรายได้เข้ามา เรื่อย ๆ แต่ 2 โครงการใหม่มีกำไรน้อยกว่าธุรกิจฟิล์มแล็บส์ ประกอบกับต้องเริ่มลงทุนใหม่ ดังนั้นจึงไม่อยากวิเคราะห์ในตอนนี้ แต่ต้องบอกว่า เราทำเต็มที่ และหวดเข้าไปเต็มแรง แต่ทุกอย่างจะได้กลับมาตามเกมที่วางไว้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

อย่าง ไรก็ตาม การประกาศตัวอย่างชัดเจน เมื่อต้นปีที่ผ่านมาในฐานะคอนเทนต์โพรไวเดอร์หรือผู้ผลิตรายการ เพื่อรองรับโอกาสจากการขยายตัวจากทีวีดิจิทัลที่ช่องธุรกิจจะเพิ่มเป็น 24 ช่อง ก็ทำให้ปริมาณรายการที่บริษัทผลิตเพิ่มจำนวนขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันกันตนาผลิตรายการให้ช่องทีวีดิจิทัลประมาณ 7-8 ช่อง ซึ่ง การประกาศตัวเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์โพรไวเดอร์ครั้งนี้จะทำให้สัดส่วนรายได้จาก ธุรกิจโทรทัศน์จะเพิ่มเป็น 1,600-1,700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปจากธุรกิจฟิล์มแล็บได้


นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมกับบริษัท มิลค์ สตูดิโอ จำกัด จัดงาน "ไทยแลนด์ คอมมิค คอน 2014" ซึ่งจัดขึ้นปีนี้เป็นปีแรก ภายใต้งบฯลงทุน 80 ล้านบาท ที่จะจัดขึ้นวันที่ 9-11 พ.ค.นี้ คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานกว่า 500,000 คน เพื่อส่งเสริมให้บุคคลรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาธุรกิจด้านนี้มีความแข็งแกร่งมาก ขึ้น จากปัจจุบันตลาดคอนเทนต์ไทย ประกอบด้วย ภาพยนตร์ ละคร แอนิเมชั่น เกม การ์ตูน เป็นต้น ซึ่งมีมูลค่ารวมปีละกว่า 14,000 ล้านบาท และคาดว่างานนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม และจะเป็นงานที่ถูกจัดต่อเนื่องทุกปี

สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ "จาฤก" ตั้งใจว่า จะพยายามผลักดันให้รายได้รวมให้กลับไปอยู่ที่ 2,400-2,500 ล้านบาทเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม จะทำได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกด้วยเช่นกัน ทั้งภาวะเศรษฐกิจและการเมือง

"ถ้าปัจจัยภายนอกดีขึ้น ก็จะทำให้รายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย นั่นหมายถึงภารกิจจะเบาขึ้น และเชื่อว่าปีหน้าทุกอย่างจะลงทุนตัวมากขึ้น เพราะทุกโครงการเพิ่งจะเริ่มต้น" "จาฤก" ทิ้งท้ายว่า ถ้าประเมินรายได้ปีนี้และปีหน้ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องก็พร้อมจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยเช่นกัน ทั้งหมดล้วนเป็นภารกิจสุดหิน ที่จะพลิกฟื้นและสร้างโอกาสให้ "กันตนา กรุ๊ป" อีกครั้งในการก้าวข้ามวิกฤตครั้งสำคัญนี้ไปได้


อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,172
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
793
“เติมพลังความรู้” กับ ..
627
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
602
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
601
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
541
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด