3.5K
20 พฤษภาคม 2557
ตลาด "เด็กไฮโซ" สุดบูม "สินค้า-แฟชั่น-สปา" พาเหรดมัดใจ


วันนี้สินค้าเทรนด์ของ "ลักเซอรี่แบรนด์" ไม่ได้จำกัดเฉพาะเซ็กเมนต์ผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ตลาด "เด็กไฮโซ" ก็มีความเคลื่อนไหวที่คึกคักไม่แพ้กัน แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์จะมีสัดส่วนที่น้อย เมื่อเทียบกับตลาดแมส แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก

บวกกับพฤติกรรมของพ่อแม่สมัยใหม่ที่ยอม "จ่ายไม่อั้น" เพื่อลูกน้อย ก็ทำให้กลุ่มสินค้าเด็กพรีเมี่ยมยังเป็นตลาดที่หอมหวานและมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก จากโอกาสดังกล่าวจึงเห็นภาพของบรรดา "อินเตอร์แบรนด์" ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงร้านค้าปลีกสินค้าเด็กและบริการสำหรับเด็กในรูปแบบต่าง ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด

รายล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป คือ แบรนด์ "บีบี้" (Bibi) จากบราซิล เข้ามาเจาะตลาด "รองเท้าสุขภาพสำหรับเด็ก" เป็นครั้งแรกในไทย นำเข้าโดยโซว กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตรองเท้ามากว่า 30 ปี ซึ่งถือเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ของผู้เล่นรายนี้ จากนโยบายช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โซว กรุ๊ปฯหันมาโฟกัสรองเท้าเด็ก ด้วยการซื้อไลเซนส์การ์ตูนแคแร็กเตอร์ดัง เพื่อผลิตเป็นดีไซน์ต่าง ๆ เจาะตลาดแมส

ปัจจุบันถือไลเซนส์ 10 แคแร็กเตอร์ได้แก่ ดิสนีย์ มิกกี้เมาส์, เบนเท็น, แองกรี้เบิร์ด, ทอม แอนด์ เจอร์รี่ และสไปเดอร์แมน ที่จะเปิดตัวปลายปีนิ้

"อรรถวุฒิ สิริมนตาภรณ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซว กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดรองเท้าเด็กแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มลิขสิทธิ์การ์ตูนแคแร็กเตอร์ และอินเตอร์แบรนด์ ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มเอและบีบวกจะนิยมอินเตอร์แบรนด์ เนื่องจากภาพลักษณ์ รูปแบบ และคุณภาพสินค้า

ด้วยเทรนด์ดังกล่าวนี้เอง ทำให้ปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทนำเข้าแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาด โดย "บีบี้" มีจุดแข็งที่เป็นผู้นำด้านรองเท้าสรีรศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมานาน ได้รับการรับรองโดยสมาคมการแพทย์และศัลยกรรมเท้าและข้อเท้าจากบราซิล มีจำหน่ายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

สอดคล้องกับแนวโน้มผู้บริโภค พ่อแม่หันมาใส่ใจสุขภาพลูกมากขึ้น ยินดีจ่ายเงินเพื่อสุขภาพเท้าของลูก ขณะเดียวกันก็ถือเป็นช่องว่างตลาด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่งที่ผลิตหรือนำเข้ารองเท้าเด็กเพื่อสุขภาพและมีรูปแบบเป็นแฟชั่น

เขาระบุว่า ปัจจุบันตลาดรองเท้าเด็กมีมูลค่า 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน 20% ด้วยจุดเด่นของสินค้า และความต้องการของตลาด จึงเป็นโอกาสที่จะเปิดเซ็กเมนต์ใหม่


โดยรองเท้าบีบี้มีราคาตั้งแต่ 1,495 -2,395 บาท เจาะกลุ่มรายได้ B+ ขึ้นไป ถือเป็นราคาที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับอินเตอร์แบรนด์ทั่วไป

"หวังว่าคนจะสวิตช์จากที่เคยซื้อราคา 4,000 บาท หันมาซื้อของเราที่มีราคา 2,000 บาท ช่วงแรกตั้งราคาใกล้เคียงสิงคโปร์และฮ่องกง กระตุ้นให้เกิดการทดลอง ส่วนช่องทางจำหน่ายเน้นในศูนย์การค้าใจกลางเมือง ปัจจุบันมี 10 สาขา และจะขยายเป็น 32 สาขาทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดใหญ่ ๆ ใน 1 ปีข้างหน้า

ทั้งยังมีแผนเปิดแฟลกชิปสโตร์ในห้างกลางเมือง ขนาด 100 ตร.ม. ภายในร้านจะเพิ่มเติมสินค้ากลุ่มแอ็กเซสซอรี่เข้ามาเสริมทัพช่วงปลายปีนี้ ส่วนการทำตลาดจะออกคอลเล็กชั่นใหม่ ๆ อาทิ รุ่นสวารอฟสกี้ หรือรองเท้าที่สามารถเพนต์สีและลบได้ เป็นกิมมิก เปิดตัวในช่วงวันแม่ หรือออกคอลเล็กชั่นเซตสำหรับคู่แม่ลูก เป็นต้น

"ตลาดไฮเอนด์ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ ลูกค้าระดับบนมีสัดส่วนน้อย แต่เชื่อว่าเทรนด์สินค้าเด็กระดับไฮเอนด์เติบโตแน่ เพราะเด็ก ๆ ชอบแต่งตัว พ่อแม่ชอบแต่งตัวให้ลูก" เขาเชื่อว่า แบรนด์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันยอดขายบริษัท ตั้งเป้าเปิดตัว 6 เดือนแรกกวาดยอดขายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ผลักดันรายได้ทะลุ 700 ล้านบาทปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนปิดที่ 620 ล้านบาท

นอกจากเครื่องแต่งกายแล้ว ปัจจุบันธุรกิจที่เข้ามาเจาะกลุ่มพ่อแม่ยุคใหม่ที่ทุ่มเทให้กับลูก ๆ ยังมีอีกหลากหลาย

อย่างร้านสปาหรูสำหรับคุณหนูไฮโซ "มายเบเบ้สปา" (MyBeBe Spa) บนศูนย์การค้ามิลลี่ มอลลี่ สุขุมวิท 20 ที่มีบริการครบวงจร อาทิ Kids Spa นวดสัมผัส, นวดตัว, ดูแลผิวหน้า, นวดศีรษะ ตัดผม ทำเล็บ พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็กที่เป็นของใช้ และผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม อาทิ ยาทาเล็บ ชุดเมกอัพ

สนนราคาค่าบริการต่อครั้ง สปาอยู่ที่ 500 บาท ทำเล็บ 350 บาท แฮร์สไตล์ 129 บาท ทำสีผม 89 บาท เพนต์เล็บ 99 บาท บอดี้สครับ 450 บาท แต่งหน้า 219 บาท ถ้าทำฟูลคอร์สอยู่ที่ 2,000 บาท

"ปวัน กอร" ผู้ก่อตั้งร้านมายเบเบ้สปา ฉายภาพว่า ปัจจุบันร้านที่มีบริการเกี่ยวกับเด็กครบวงจรในไทยยังไม่มี ถือเป็นช่องว่างตลาด

สำหรับเบเบ้สปา จับกลุ่มเด็กแรกเกิดถึง 14 ปี หลังจากเปิดร้านมาได้ 1 ปี 6 เดือน เป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีแผนเปิดขายแฟรนไชส์อีก 6 เดือนข้างหน้า มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาทั้งต่างจังหวัดและต่างประเทศ


ล่าสุดยังร่วมกับบำรุงราษฎร์ แจกโวเชอร์ให้กับผู้ที่ทำคลอดที่โรงพยาบาล รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดีย เข้าถึงไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ เขาชี้ว่า ตลาดเกี่ยวกับเด็กยังมีโอกาสโตได้อีกมาก ปัจจุบันพ่อแม่หยุดช็อปปิ้งสำหรับตัวเอง ยินดีทุ่มเต็มที่เพื่อลูก

"เศรษฐกิจไม่มีผลกับธุรกิจเด็ก พ่อแม่ยินดีจ่ายถ้าเห็นว่ามีประโยชน์กับลูก" "ธุรกิจเด็ก" ตลาดอันหอมหวนที่แม้เศรษฐกิจ การเมือง จะเป็นอย่างไร ก็ยังสามารถโต "สวนกระแส" เพราะตอบจริตพ่อแม่ยุคใหม่ ชนชั้นกลางที่มีลูกน้อย ซึ่งพร้อมจะ "จ่าย" ไม่อั้นเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,174
PLAY Q by CST bright u..
1,319
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
945
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
793
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด