4.3K
15 ธันวาคม 2556
KBANK ตั้งเป้าสินเชื่อ SME ปี 57 โต 9-11% ตามเศรษฐกิจ จากปี 56 โต 10%



 
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า  ในปี 57 ธนาคารตั้งเป้าหมายยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ 571,983 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ  9-11% รายได้รวมอยู่ที่ 39,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.55% นอกจากนี้ธนาคารยังมุ่งเน้นการทำงานเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน ลูกค้า และผู้ถือหุ้น โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มดัชนีความพึงพอใจในบริการจาก 75% เป็น 77% ภายในสิ้นปี 57

ส่วนในปี 56 มียอดสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ 516,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 55 ประมาณ 10% รายได้รวมอยู่ที่ 35,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 55 ประมาณ 13% และ NPL อยู่ที่ 3.05% ลดลงจากปี 55 ซึ่งอยู่ที่ 3.20%
 
นายพัชร กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานสายงานธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการปีหน้า ธนาคารจะดำเนินการภายใต้สโลแกน K SME ช่วยเต็มที่ SME มีแต่ได้ โดยมีกลยุทธ์ใน 3 ด้าน คือ กลยุทธ์ด้านพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้มากขึ้น โดยลดพื้นที่การดูแลลูกค้าและลดงานที่ไม่เกี่ยวข้องลง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพสูงสุด
 
กลยุทธ์ในการดูแลลูกค้าเก่า ด้วยการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อที่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ ภายใต้เงื่อนไขที่ง่ายขึ้น รวมถึงการดูแลพนักงานด้วยความใส่ใจและการเยี่ยมเยียนลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าใช้บริการกับธนาคารมากขึ้น และมีความพึงพอใจในการใช้บริการของธนาคารที่ดีขึ้น
 
และ กลยุทธ์ในการดูแลลูกค้าใหม่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยธนาคารจะให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำธุรกิจซื้อขายเงินสด ไม่เดินบัญชี ไม่มีหลักประกัน ซึ่งโดยปกติกลุ่มนี้จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ยากมาก ธนาคารจะให้การสนับสนุนด้วยการออกผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสม
 
นายพัชร กล่าวเพิ่มว่า ในปี 57 จากที่ธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อไว้ที่ 9-11% ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ถือเป็นความท้าทายของธนาคารพาณิชย์ ควบคู่ไปกับการบริหารคุณภาพสินเชื่อ โดยอาจจะต้องวางแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมมากขึ้น ซึ่งเกิดจากปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองที่มีความไม่แน่นอน อาจจะมีผลต่อการลงทุนของภาครัฐและเอกชนได้ และอาจเห็นเม็ดเงินบางส่วนที่ไหลออกไปลงทุนในสหรัฐฯ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอมาตรการ QE  ตลอดจนความกังวลต่อหนี้ครัวเรือน ทำให้สภาพคล่องภายในประเทศมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเงินทุนหมุนเวียน และวงเงินกู้ระยะยาวที่อาจจะทรงตัวหรือลดลง

อ้างอิงจาก ไทยโพสต์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
662
“เติมพลังความรู้” กับ ..
595
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
565
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
557
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
519
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด