นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้าน “แมคโดนัลด์” เปิดเผยว่า ปัจจุบันร้านแมคโดนัลด์เป็นผู้นำในตลาดร้านอาหารรูปแบบไลฟ์สไตล์เร่งด่วน โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ซึ่งในแต่ละเดือนมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า 7 ล้านคน

แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีการประหยัดในการใช้จ่ายด้านอาหารมากขึ้น ได้ส่งผลกระทบให้ในช่วงครึ่งปีแรก 2556 ที่ผ่านมา ร้านแมคโดนัลด์มียอดขายในสาขาเดิมหรือที่เปิดให้บริการอยู่ น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2555 เกือบเท่าตัว โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5% เท่านั้น ขณะที่ปี 2555 ที่ผ่านมามียอดการเติบโตสูงถึง 10%

ทั้งนี้บริษัทได้วางแนวทางการขยายสาขาร้านแมคโดนัลด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ๆ และให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วยสัดส่วนประมาณ 70% และในกรุงเทพฯประมาณ 30% จากแผนการขยายสาขาใหม่นับจากนี้ประมาณ 20 สาขาต่อปี

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีแรก 2556 ที่ผ่านมา มีการขยายสาขาไปแล้วกว่า 10 สาขา ในพื้นที่หัวเมืองหลักต่างๆในต่างจังหวัด และในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 นี้ ยังวางแผนที่จะขยายสาขาใหม่อีกเดือนละประมาณ 1-2 สาขา
  

สำหรับกลยุทธ์ในการขยายสาขาใหม่นั้น จะประกอบด้วยหลากหลายรูปแบบ ทั้งสาขาภายในศูนย์การค้า, สาขาแบบร้านแมคคาเฟ่, สาขาในศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) และสาขาแบบไดรฟ์ทรู (ขับรถเข้าไปซื้อได้เลย) ที่ปัจจุบันบริษัทได้ทำการเปิดให้บริการแล้ว 40 สาขา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีที่สุดเมื่อเทียบกับรูปแบบสาขาทั้งหมด

เนื่องจากสามารถเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง บวกกับการบริการที่ใช้เวลาน้อย จึงตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันได้ดี

 

ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนที่จะขยายสาขาในรูปแบบไดรฟ์ทรูอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ชุมชนหรือใกล้แหล่งที่อยู่อาศัย และบริเวณเส้นทางที่จะเดินทางออกต่างจังหวัดอีกหลายสาขา อาทิเส้นทางกาญจนบุรี และสุพรรณบุรี โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2556 นี้ จะสามารถขยายสาขาในรูปแบบไดรฟ์ทรูเพิ่มเป็น 50 สาขาได้อย่างแน่นอน

 

โดยในปี 2556 นี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 650 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินการขยายสาขาใหม่ตามแผนที่วางไว้ จากปัจจุบันร้านแมคโดนัลด์เปิดให้บริการทั่วประเทศประมาณ 183 สาขา คาดว่าสิ้นปี 2556 จะเปิดให้บริการได้ครบ 200 สาขาทั่วประเทศ และคาดว่าในปี 2557 บริษัทจะมีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% จากปัจจุบันที่มีพนักงานไม่ต่ำกว่า 8,000 คน
 

 


 

“ปี 2556 นี้บริษัททุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดให้มากขึ้น เพราะเศรษฐกิจมีความผันผวน ลูกค้ามีการไตร่ตรองเรื่องการบริโภคมาก บริษัทจึงต้องจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า และออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าอยู่เสมอ และคาดว่าปี 2556 นี้ตลาดรวมของอาหารจานด่วนหรือฟาสต์ฟู้ดจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่บริษัทก็จะเร่งขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง และเชื่อมั่นว่าจะยังครองอันดับ 1 ในตลาดได้อย่างแน่นอน” นายเฮสเตอร์ ชิว กล่าว

อ้างอิงจาก แนวหน้า