นายสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจ 5 ดาว บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์อาหารของซีพีเอฟ ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลทุกขั้นตอน โดยทุกกระบวนการผลิตสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ซึ่งกระแสข่าวเรื่องน้ำมันทอดซ้ำในไก่ทอด อาจจะสร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคนั้น ในส่วนผลิตภัณฑ์ไก่ทอดจากซีพีเอฟ ทั้งแบรนด์เชสเตอร์และห้าดาว มีความปลอดภัย 100% ผู้บริโภคมั่นใจได้

 

โดยบริษัทมีผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบคุณภาพของน้ำมันทอดสินค้าอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนไก่ทอดห้าดาว ของผู้จำหน่ายที่เป็นแฟรนไชส์ จะต้องมีเครื่องตรวจค่าโพลาร์น้ำมันประจำกับพนักงานประกันคุณภาพทุกคนทั่วประเทศ โดยจะมีการสุ่มตรวจคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
 

 
 

"หากพบว่ามีค่าโพล่าร์เกินที่บริษัทกำหนดจะถูกให้หยุดผลิต และเปลี่ยนน้ำมันทอดสินค้าทันที พร้อมถูกแจ้งตักเตือน และถูกระบุเป็นจุดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หากถูกตรวจพบอีกครั้ง บริษัทฯ จะบอกเลิกสัญญาทันที เช่นเดียวกับธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนเชสเตอร์ กริลล์ ที่มีเครื่องมือตรวจสอบประจำทุกสาขา กำหนดตรวจสอบ 3 ครั้งต่อวัน คือ ก่อนเปิดการขาย หลังช่วงเวลาเร่งด่วนในช่วงกลางวัน และก่อนปิดการขาย เพื่อตรวจสอบปริมาณสารโพลาร์ในน้ำมันว่าเกินมาตรฐานหรือไม่ หากตรวจพบต้องทำการเปลี่ยนน้ำมันในเตาทอดทันที" นายสถิตกล่าว
 

สำหรับน้ำมันพืชปาล์มที่เข้าสู่ระบบการสั่งซื้อจะได้รับการตรวจสอบปริมาณสารโพลาร์ตั้งต้นจากหน่วยงานฝ่ายประกันคุณภาพก่อนนำมาใช้งานภายในร้านเชสเตอร์ทุกสาขา มีการตรวจติดตามทุกๆ 3 เดือน เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจกับผู้บริโภคในอาหารทอดของซีพีเอฟทุกรายการ

 

ซีพีเอฟ ยังคิดค้นและจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตัดตอนน้ำมันทอดซ้ำไม่ให้กระจายสู่ชุมชนและผู้บริโภคคนไทย ผ่านโครงการ ผลิตไบโอดีเซล (B100) จากน้ำมันพืชที่ใช้แล้วจากกระบวนการแปรรูปเนื้อไก่ ประเภททอด

ล่าสุดได้เปิดโรงผลิตไบโอดีเซลแห่งใหม่ที่ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่และอาหารแปรรูป มีนบุรี 1 รองรับน้ำมันพืชที่ใช้ในกระบวนการทอด 50,000 ลิตรต่อเดือน ผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล ทดแทนการใช้น้ำมันปิโตรเลียมดีเซลได้ 100%
 

 
 

เมื่อรวมการผลิตไบโอดีเซลที่ผลิตได้จาก 3 โรงงาน ทั้งโรงงานแปรรูปเนื้อไก่จังหวัดสระบุรี ที่ผลิตได้ 9.6 แสนลิตรต่อปี และ จ.นครราชสีมา ผลิตได้ 7.44 แสนลิตรต่อปี โรงงานมีนบุรี คาดผลิตได้ถึงปีละ 6 แสนลิตร พบว่าซีพีเอฟ สามารถผลิตน้ำมัน B100 ได้ถึงกว่า 2.3 ล้านลิตรต่อปี ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดีเซลเฉพาะในส่วนของโรงงานแปรรูปไก่ ลดต้นทุนการผลิตจากราคาน้ำมันดีเซลที่มีราคาผันผวนและมีแนวโน้มที่สูงขึ้นทุกปี

 

การตัดวงจรน้ำมันทอดซ้ำของซีพีเอฟ เป็นบทบาทสำคัญที่ภาคธุรกิจจะช่วยเหลือดูแลสุขภาพของผู้บริโภค คนในชุมชนใกล้เคียงโรงงานได้ เพราะในน้ำมันใช้แล้วมีสารพิษที่ก่อมะเร็งประเภทอนุมูลอิสระและไดออกซิน รวมทั้งสารเคมีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการประกอบอาหารซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ

อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ