เซเว่นฯสยายปีกแฟรนไชส์ สร้างเครือข่ายเสริมความแกร่ง
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวก ภายใต้แบรนด์ "เซเว่น อีเลฟเว่น" เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทนับจากนี้ไป จะเน้นการขยายเครือข่ายแฟรนไชส์ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นให้มากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งในสิ้นปี 2554 นี้คาดว่าสัดส่วนร้านแฟรนไชส์จะอยู่ที่ประมาณ 52% และร้านบริษัทเปิดให้บริการเองประมาณ 48%
ทั้งนี้หากเดินหน้าขยายร้านแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้ภายใน 7 ปีนับจากนี้ บริษัทน่าจะมีสัดส่วนร้านแฟรนไชส์อยู่ที่ประมาณ 70%และร้านที่บริษัทให้บริการเอง 30% เพิ่มขึ้นจากช่วงหลายปีผ่านมาซึ่ง 60% จะเป็นร้านที่บริษัทเปิดให้บริการเอง และ 40% เป็นร้านแฟรนไชส์
นายปิยะวัฒน์ กล่าวด้วยว่า บริษัทมีนโยบายเพิ่มร้านแฟรนไชส์เซเว่นฯ ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการปั้นเถ้าแก่รุ่นใหม่ โดยตั้งเป้าอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีสาขาถึง 7,000 สาขา
สำหรับร้านเซเว่น อีเลฟเว่นที่บริษัทเปิดขายแฟรนไชส์นั้น จะมีด้วยกัน 2 รูปแบบคือ
- รูปแบบบี จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็นค่าแฟรนไชส์ 5 แสนบาท และค่าประกัน ค่าดำเนินการ ค่าบริหาร 1 ล้านบาท ระยะสัญญาแฟรนไชส์ 6 ปี
- รูปแบบซี จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 2.6 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าแฟรนไชส์ 5 แสนบาท และค่าประกัน ค่าดำเนินการ ค่าบริหาร 2.1 ล้านบาท ระยะสัญญาแฟรนไชส์ 10 ปี ซึ่งรูปแบบของการดำเนินธุรกิจจะเน้นไปที่กลุ่มอาหาร เช่น การจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน เครื่องดื่ม และเบเกอรี่
นายปิยะวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ปีละไม่ต่ำกว่า 500 สาขา คาดว่าจะส่งผลให้ในสิ้นปี 2554 นี้ มียอดขายเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 5% เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโตที่ประมาณ 6% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนั้น บริษัทมองว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น ไม่ว่าพรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง และเข้ามาเป็นรัฐบาล เนื่องจากตอนนี้ภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างดี ส่งออกดี สินค้าทางการเกษตรก็มีราคาดี และค่าแรงงานสูง แต่สิ่งที่บริษัทอยากฝากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ไขปัญหา คือ การปรองดอง
อ้างอิงจาก แนวหน้า
2 กรกฎาคม 2554 
