นายบุญชัย หลีระพันธ์ นายกสมาคมแฟรนไชส์และเอสเอ็มอีไทย เปิดเผยภายหลังการเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคม ว่า หลังจากการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ มีภารกิจหลักที่ต้องทำ 2 เรื่อง คือ การติดตามผลักดันเรื่องกฎหมายแฟรนไชส์ ให้สำเร็จ

ขณะนี้อยู่ระหว่างที่กระทรวงพาณิชย์ส่งเรื่องให้กับรัฐบาลดำเนินการต่อ และคาดว่าภายใน 6 เดือน กฎหมายแฟรนไชส์จะสามารถนำออกมาใช้ได้ ซึ่งกฎหมายที่ออกมาจะช่วยคุ้มครองผู้ประกอบธุรกิจ แฟรนไชส์ให้สามารถควบคุมคุณภาพ และทำให้มีผู้สนใจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์มากขึ้น 

ส่วนภารกิจที่ 2 ของสมาคมจะเป็นเรื่องของการ สร้างมาตรฐานที่ดีให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ โดยร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีเครือข่ายของเอสเอ็มอี นำความรู้เรื่องของแฟรนไชส์ที่เป็นรูปแบบที่พัฒนาแล้ว มาบรรจุเป็นหลักสูตรสอนให้กับกลุ่มนักศึกษา

ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นผลแน่นอนไม่ใช่ทำชั่วคราวและหายไปเหมือนกับการอบรมสัมมนา เพราะต่อไปนักศึกษาเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเอสเอ็มอี หรือ ทำธุรกิจแฟรนไชส์ ทำให้ในอนาคตต่อไปได้ผู้ประกอบการที่มีพื้นฐานการศึกษา และมีมาตรฐานแฟรนไชส์คุณภาพที่ดี

นอกจากนี้ ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่ส่งเสริมเอสเอ็มอี เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กระทรวงอุตสาหกรรม หรือ กระทรวงพาณิชย์ ในลักษณะเครือข่าย เป็นการบริหารองค์ความรู้ให้กับระบบเอสเอ็มอี

เพราะเอสเอ็มอีเป็นจุดเริ่มต้นก่อนก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ การที่เรามุ่งเน้นการให้ความรู้ เอสเอ็มอีแฟรนไชส์ เพราะต่อไปเปิดการค้าเสรี แฟรนไชส์ต่างประเทศเข้ามา จะได้มีความรู้สามารถที่จะแข่งขันหรือไม่เสียเปรียบ หากต้องทำการค้าร่วมกับชาวต่างชาติ 

"ทั้ง 2 เรื่อง เป็นสิ่งเร่งด่วนที่จะต้องรีบกระทำ เพราะปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจแฟรนไชส์มีสูง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านเรา อย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน อินเดีย แฟรนไชส์เข้มแข็งและเติบโตเร็วมาก หรือแม้แต่ประเทศใกล้เคียงอย่างประเทศเวียดนามเอง

ปัจจุบันตลาดแฟรนไชส์ของเขาเริ่มเติบโตอย่างเห็นได้ชัด และอาจจะไปได้เร็วกว่าเรา ถ้าเรายังไม่มีกฎหมาย หรือ พื้นฐานความรู้แฟรนไชส์ เพื่อให้ได้แฟรนไชส์คุณภาพออกไปสู่ตลาด เราจะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้เลย" นายบุญชัยกล่าว