วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยมอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)หรือ SME D Bank ซี่งเป็นสถาบันการเงินของรัฐ เดินหน้าเติมทุนเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) หรือเรียกง่ายๆ ว่า สินเชื่อ LEL

 

จุดเด่นของสินเชื่อ LEL คือ ครอบคลุมช่วยเหลือแทบทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น SMEs ที่ดำเนินธุรกิจเกษตรแปรรูป , SMEs ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือ ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชน หรือธุรกิจ เกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยว หรือ ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) , SMEs ผู้ประกอบการใหม่หรือมีนวัตกรรม หรือธุรกิจผลิต หรือบริการอื่นๆ , กลุ่มค้าส่งค้าปลีก หรือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือปัจจัยทางเศรษฐกิจ เป็นต้น

 

สำหรับคิดอัตราดอกเบี้ย ก็คิดต่ำพิเศษ นิติบุคคล 2.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท และบุคคลธรรมดา 4.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด7ปีโดยมีระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) สูงสุด 12 เดือน

 

นอกจากนั้น ที่ประชุม ครม. ยังได้ให้ความเห็นชอบปรับเงื่อนไข เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เคยได้รับวงเงินจากโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Policy Loan) และโครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan ไปแล้ว รวมถึง มีวงเงินสินเชื่อรวมทุกสถาบันการเงินต่อราย เกิน 50 ล้านบาท ณ วันยื่นกู้ สามารถขอเข้าใช้บริการได้ด้วย สร้างประโยชน์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งลูกค้าเดิม SME D Bank และทั่วไป เข้าถึงแหล่งทุนได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

 

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการใช้บริการสินเชื่อนี้ มีระยะเวลายื่นกู้ถึง 18 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะหมดวงเงินสินเชื่อรวมของโครงการแล้วแต่ระยะเวลาใดจึงจะถึงก่อนสามารถแจ้งความประสงค์ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : @SMEDevelopmentBank , เว็บไซต์ www.smebank. co.th และผ่านแอปพลิเคชัน “SME D Bank” ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และ สาขาของ SME D Bank ทั่วประเทศ

 

ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ที่ต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่องในยามนี้

 

ที่มา: mgronline.com