FAILURE & SUCCESS | Warren Edward Buffet
STORY
- วัย 1 ปี 1930 วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิด 30 สิงหาคม 1930
- วัย 12 ปี 1941 เริ่มซื้อหุ้น City Service
- วัย 13 ปี 1942 เขียนแบบจ่ายภาษีเป็นครั้งแรกในชีวิต
- วัย 22 ปี 1951 เรียนจบปริญญาโทด้านการลงทุน
- วัย 25 ปี 1954 เข้าทำงานเป็นนักวิเคราะห์หุ้น
- วัย 27 ปี 1956 ก่อตั้ง Buffett Partnership ที่โอมาฮ่า
- วัย 29 ปี 1958 ถูกปฎิเสธการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย Harvard
- วัย 33 ปี 1962 เริ่มเข้ามาซื้อหุ้นของ Berkshire Hathaway
- วัย 36 ปี 1965 เข้าสะสมหุ้น Berkshire Hathaway (BRK)
- วัย 38 ปี 1967 เริ่มต้นขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น
- วัย 40 ปี 1969 เริ่มใช้ BRK ซื้อหุ้นเพื่อลงทุน
- วัย 41 ปี 1970 ลงทุนบริษัท GEICO
- วัย 59 ปี 1988 ลงทุนในบริษัท Coca-Cola จนได้ขึ้นเป็นคณะกรรมการ
- วัย 61 ปี 1990 ขายหุ้นตัวท็อปๆ บางส่วน กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน
- วัย 79 ปี 2008 เป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด อันดับ 1 ของโลก
- วัย 81 ปี 2010 ร่วมกับบิลเกตส์ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อระดมเงินบริจาคไปทำการกุศล
- วัย 82 ปี 2011 David Sokol ออกจากตำแหน่งผู้บริหา
- วัย 83 ปี 2012 เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และเข้ารับการรักษาจนหายขาด
- วัย 87 ปี 2016 เมื่อตอนที่ซื้อ Precision Castparts บริษัทผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน
- วัย 88 ปี 2017 ยังคงนั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดใน BRK
FAILURE
- บัฟเฟตต์ปรมาจารย์การลงทุนก็ยังเคยผิดพลาด จากบริษัท Berkshire Hathaway ซึ่งแต่เดิมเป็นบริษัทสิ่งทอ ที่ใกล้จะเจ๊งแล้ว แต่ปู่บัฟเฟตต์ไปซื้อมาจนต้องปรับโมเดลธุรกิจใหม่ และกลายมาเป็นบริษัท Holding Company ชั้นนำของโลก
- การตัดสินใจพลาดที่ไม่ยอมขายหุ้น Tesco ทิ้งไปทั้งหมด หลังจากดูทิศทางการบริหารงานไม่ดี ทำให้ปู่บัฟเฟตต์ขาดทุนหนักกว่าเดิม
- การไม่ได้ซื้อหุ้น Google กับ Amazon ไว้ในพอร์ตการลงทุนของบริษัท เนื่องจากปู่ยังไม่เข้าใจโมเดลธุรกิจ และวิธีสร้างรายได้อย่างแท้จริง จึงทำให้พลาดโอกาสทองจะได้ถือหุ้นเติบโตเหล่านี้ไป
SUCCESS
นักธุรกิจและนักลงทุนผู้ใจบุญชาวอเมริกันโดยเป็นซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์[4] เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยมีทรัพย์สินเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 อยู่ที่ประมาณ 84,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[5] ทำให้เขาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกเป็นอันดับสาม
บัฟเฟตต์มักจะได้รับฉายาว่าเป็น เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา [6] หรือไม่ก็ ปราชญ์แห่งโอมาฮา[7] เขามีชื่อเสียงจากปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่าและความเป็นอยู่อย่างประหยัด ถึงแม้ว่าเขาจะร่ำรวยก็ตาม เขายังมีชื่อเสียงจากความใจบุญ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555 เขาได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และได้รับการรักษาสมบูรณ์ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2555
บัฟเฟตต์นับเป็นผู้ใจบุญสุนทานคนหนึ่ง เขาให้สัญญาที่จะบริจาคทรัพย์สิน 99 เปอร์เซ็นต์ของเขาให้กับการกุศล โดนหลักผ่านทางมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์
SECRET
- พนักงานที่ดีเยี่ยม ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด ของการจัดการและเติบโตของบริษัท นั่นคือ การสร้างทีม ต้องไม่ลืมว่า ผู้คนที่อยู่กับคุณคือสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของบริษัท
- อ่านให้มาก ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเก่งและทำให้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ มากยิ่งขึ้นคนที่ไม่อ่านก็จะพลาดความรู้ใหม่ๆแนวคิดดีๆ
- วางแผนงานให้เข้ากับวิถีชีวิต ทำอะไรในแบบที่ชอบและมีความสุข จะนำมาซึ่งความสุขในการทำงาน และสามารถทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ
BIT OF KNOWLEDGE
- ตอนอายุ 6 ขวบ เริ่มขายน้ำโค้ก ลูกกอล์ฟมือสอง ถั่วและป๊อปคอน
- ตอนอายุวัย 7 ขวบ เขาได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ชื่อว่า “One Thousand Ways to Make $1000” ที่ยกตัวอย่างวิธีการทำเงินกว่าพันวิธี ทำให้เขาได้รับมุมมองการทำรายได้ด้วยวิธีการใหม่ ๆ
- ตอนอายุเพียง 10 ขวบ นั่งทานข้าวกับสมาชิกของตลาดซื้อขายหุ้นในนิวยอร์ก
- ซื้อหุ้นครั้งแรกตอนเขาอายุ 11 ปี
- มีเงินเก็บมากถึง 53,000 USD ตอนเขาอายุ 16
- เคยตกสัมภาษณ์การคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่ Harvard Business School
- กินเหมือนเด็กอายุ 6 ขวบ โคคา โคล่า มันฝรั่งทอดกร ไอศกรีม
- เขาอยู่ในบ้านหลังเดิมมาตั้งแต่ปี 1958
- มีคนจำนวนมากยอมที่จะจ่ายเงินเป็นล้านเพื่อที่จะได้กินข้าวกับบัฟเฟตต์เพียงมื้อเดียว
- 54 ปีที่ผ่านมา วอร์เรนใช้เวลาเดินทางไปที่ทำงานเเค่ 5 นาทีเท่านั้น
- เขาแวะ McDonald’s เกือบทุกวัน เพื่อซื้ออาหารเช้าในราคาที่ไม่เกิน 3.17 ดอลลาร์สหรัฐ
- วัยรุ่น วอร์เรน เป็นคนหนึ่งที่เกลียดกลัวการพูดในพื้นที่สาธารณะ มาก
- วอร์เรน ใช้เวลากว่า 80% ในแต่ละวันไปกับการอ่านหนังสือ
QUOTES
“การลงทุน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ คนต่างหาก ที่เป็นปัญหาใหญ่”
- วอร์เรน บัฟเฟตต์ -
“ราคา คือ สิ่งที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้”
- วอร์เรน บัฟเฟตต์ -
1 เมษายน 2563 
