บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การขาย
335
2 นาที
26 กันยายน 2568
เทคนิคขายขั้นสุด ให้คนที่ไม่อยากซื้อ สร้างยอดขายได้แบบไม่ต้องตื้อ
 

การโน้มน้าวลูกค้าที่ลังเลหรือไม่มีความตั้งใจซื้อตั้งแต่แรก (reluctant buyers) เป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์จิตวิทยาและข้อมูลเชิงลึก 
 
มีงานวิจัยที่ระบุชัดว่าการออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการขายสามารถเพิ่มอัตราการซื้อได้ถึง 30-50% ในกลุ่มลูกค้าที่ไม่สนใจซื้อในตอนแรก ถ้าดูรายละเอียดให้ลึกไปอีกหน่อยพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ 57% จะเริ่มสนใจสินค้าเมื่อได้รับข้อมูลใหม่ที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน 
 
นั่นหมายความว่า ลูกค้าที่บอกว่า “ไม่เอา” จริง ๆ แล้วอาจแค่ยัง ไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริงของตัวเอง ซึ่งถ้าดูเหตุผลว่าทำไมคนถึงไม่อยากซื้อสินค้ามาจากอุปสรรคหลักๆ คือ
  • 40% รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใช้สินค้า/บริการ
  • 30% ขาดความไว้วางใจในแบรนด์
  • 25% รู้สึกว่าราคาไม่สมเหตุสมผล
ลองมองในอีกมุมหนึ่งถ้าเราเปลี่ยนใจคนที่ไม่อยากซื้อให้กลายเป็นลูกค้าได้ นอกจากยอดขายที่เพิ่มยังมีโอกาสเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น อันจะเป็นผลดีต่อการทำธุรกิจในระยะยาวด้วย
เคล็ดลับของการขายของให้คนที่ไม่อยากได้ ทำยังไงให้เขาเลือกซื้อก็มีหลายวิธีที่ใช้ได้ผลจริง 
 
1.เน้นการขายผลลัพธ์ของสินค้า ไม่ใช่การขายของ
 

เพราะลูกค้าจะตัดสินใจได้ก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าสินค้าที่ต้องจ่ายเงินนั้นมันมีประโยชน์มากพอ ถ้าลูกค้ามองว่าไม่จำเป็นการซื้อขายก็จะไม่เกิดขึ้น 
 
อาจใช้เทคนิคของ Storytelling เล่าเรื่องเชื่อมโยงทางอารมณ์ ให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้านี้เหมาะสมจะซื้อมากแค่ไหน มีตัวเลขน่าสนใจระบุว่า การใช้ storytelling ในแคมเปญการตลาดเพิ่มอัตราการซื้อถึง 20% ในกลุ่มที่ไม่สนใจซื้อ และเพิ่ม engagement บนโซเชียลมีเดียถึง 35%
 
2.เข้าใจ Pain Point และแก้ปัญหาได้
 

 
อะไรที่เป็นปัญหาของลูกค้าถ้าสินค้าเราช่วยแก้ปัญหานั้นได้ ยังไงก็ขายได้ แต่ปัญหาคือจะนำเสนอให้ลูกค้ารู้สึกแบบนั้นได้อย่างไรสถิติด้านการตลาดชี้ชัดว่า ลูกค้าที่รู้สึกว่า ปัญหาของเขาได้รับการเข้าใจและแก้ตรงจุด มีโอกาสตัดสินใจซื้อมากขึ้นถึง 48–74% และการขายเชิงแก้ปัญหา (Solution Selling) ช่วยเพิ่มอัตราการปิดการขายได้เฉลี่ย 20–30% เมื่อเทียบกับการขายทั่วไป
 
3.การใช้ Fear of Missing Out (FOMO) 
 
 
การที่ไม่อยากซื้อส่วนหนึ่งลูกค้าอาจจะยังลังเล ในทางจิตวิทยาถ้ามีตัวกระตุ้นที่น่าสนใจ อาจทำให้การตัดสินใจเป็นเรื่องง่ายขึ้น เช่นสร้างข้อจำกัดในเรื่องเวลาด้วยโปรโมชั่น สถิติในเรื่องนี้ก็ชัดเจนว่า 60% ของผู้บริโภค ตัดสินใจซื้อเพราะกลัวพลาดโปรโมชัน และแคมเปญที่ใช้ FOMO สามารถเพิ่มยอดขายได้ 22% ในช่วงโปรโมชัน
 
4.การปรับ Pack Size และราคาให้ยืดหยุ่น
 
 

การนำเสนอขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เล็กลงหรือตัวเลือกทดลองใช้ช่วยลดความรู้สึกเสี่ยงของลูกค้า โดยเฉพาะเมื่อมีความกังวลเรื่องราคาหรือความจำเป็น 
 
ดูในเชิงสถิติพบว่าการนำเสนอ Pack Size ขนาดเล็กเพิ่มอัตราการซื้อครั้งแรกได้ 25% และ 15% ของลูกค้าเหล่านี้กลายเป็นลูกค้าประจำ และการลดราคาเริ่มต้นเพียง 10% สามารถเพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้กลายมาเป็นลูกค้า (conversion rate) ได้ถึง 18%
 
5. การให้ประสบการณ์ส่วนตัว (Personalization)
 

การปรับข้อเสนอให้ตรงกับความต้องการเฉพาะ เช่น การแนะนำสินค้าตามพฤติกรรมการซื้อ ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่า "สินค้านี้ทำมาเพื่อตัวเราโดยเฉพาะ” ตัวเลขที่น่าสนใจระบุว่า การใช้ personalization เพิ่มยอดขายได้ 10-15% และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้ 20%
 
ถ้าดูตัวอย่างของสินค้าที่ไม่คนไม่น่าสนใจแต่ขายดีก็จะทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น ยกตัวอย่าง Pet Rock หรือหินสัตว์เลี้ยงที่ ส่วนใหญ่คิดว่า “ใครจะซื้อหินมาเลี้ยง” แต่ด้วยเทคนิคการสร้าง storytelling + ราคาถูก 
 
สุดท้ายสินค้านี้ขายได้ 1.5 ล้านชิ้นในเวลาเพียง 6 เดือน หรือ Snuggie ผลิตภัณฑ์ผ้าห่มมีแขนที่เปิดตัวในปี 2008 รูปลักษณ์สินค้าไม่น่าสนใจแถมยังดูเป็นตัวตลกเมื่อสวมใส่แต่เอาเข้าจริง ดันขายดีเพราะเข้าใจ Pain Point และแก้ปัญหาลูกค้าได้ เพราะสามารถใส่ Snuggie แล้วทำกิจกรรมต่างๆ เช่น อ่านหนังสือ กินขนม ได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดตัวจากผ้าห่ม กลายเป็นภาพลักษณ์สินค้าที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และขายได้กว่า30 ล้านชิ้น สร้างรายได้กว่า 500 ล้านดอลลาร์
 
ทั้งนี้ในแต่ละวิธีขายก็มีจุดเด่นที่แตกต่างแต่ถ้าทำได้การนำเอา storytelling + social proof + FOMO มาใช้รวมกันจะมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้มากถึง 50% และในฐานะเจ้าของธุรกิจต้องเข้าใจหลักพื้นฐานว่าการขายให้ลูกค้าที่ไม่อยากซื้อ 
 
ต้องไม่ใช่การบังคับ แต่คือการ ช่วยให้เขาเห็นความจริงเชิงตัวเลข เมื่อปัญหาถูกแปลงเป็นตัวเลขเงิน/เวลา ลูกค้าจะตัดสินใจง่ายขึ้นจากที่ “ไม่อยากซื้อ” ก็จะกลายเป็น “ไม่กล้าปล่อยให้โอกาสหลุดมือ” 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
635
หมดยุคทอง อพาร์ตเมนต์-หอพัก จากเสือนอนกิน สู่แมว..
617
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
577
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
550
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
513
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
501
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด