บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
437
2 นาที
29 พฤษภาคม 2568
กลยุทธ์แตกแบรนด์  Market Segmentation “กินรวบทุกตลาด”

 
ในภาวะเศรษฐกิจที่การแข่งขันดุเดือด ทุกวันนี้เราจะเห็นทุกแบรนด์เน้นการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ทุกกลยุทธ์ด้านการตลาดถูกนำมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาไว้ให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งคือ “กลุ่มลูกค้า” ในปัจจุบันมีความหลากหลาย หลายแบรนด์จึงเลือกใช้การตลาดแบบ “Market Segmentation” 
 
คำว่า Market Segmentation อธิบายง่ายๆ คือ การกำหนดว่า “จะขายของให้ใคร”เช่นลูกค้าทั่วไปในระดับเริ่มต้น , ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง หรือ ขายสินค้าให้กับลูกค้าที่ไม่ได้เจาะจงว่าต้องการสินค้าแบรนด์ใด สิ่งสำคัญคือต้องแยกกลุ่มลูกค้าให้ชัดและกำหนดสินค้าให้ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มนำมาสู่การ “แตกไลน์แบรนด์ใหม่” ของธุรกิจ
 
 
และด้วยกลยุทธ์ Market Segmentation ที่ว่านี้เป็นเหตุผลให้ 7-Eleven ต้องมีร้านกาแฟ ถึง 3 แบรนด์
 
1. All Café เน้นเจาะลูกค้าระดับเริ่มต้น ตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าและความสะดวก เฉพาะ All Café มีสาขาใน 7-Eleven กว่า 11,000 แห่ง สร้างความได้เปรียบในการต่อรองวัตถุดิบกับซัพพลายเออร์ได้ เมนูเริ่มต้นแก้วละ 30 บาท บริการลูกค้าได้รวดเร็ว 
 
 
2. KUDSAN Bakery & Coffee เน้นเจาะลูกค้ากลุ่ม Mass กึ่ง ๆ พรีเมียม วางคอนเซปต์เป็น ไลฟ์สไตล์คาเฟ ที่มีทั้งเมนูกาแฟสดและเบเกอรีอบร้อน จุดเด่นคือการชงที่จะใช้บาริสต้า และด้วยความที่พรีเมี่ยมกว่าราคาจะสูงกว่าด้วย
 
3. All Select เจาะลูกค้ากลุ่มพรีเมียม เป็นแบรนด์กาแฟใหม่ล่าสุดของ 7-Eleven ที่เปิดตัวได้ไม่นาน ใช้เมล็ดกาแฟอะราบิกาจากโคลอมเบีย โดยAll Select จะมีความพรีเมียมมากที่สุด เมื่อเทียบกับแบรนด์กาแฟอื่น ๆ ใน 7-Eleven และมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 50-80 บาทต่อแก้ว สาขาส่วนใหญ่ของ All Select จะอยู่ในโซนเมืองของกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแบรนด์ที่ต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ
 
และไม่ใช่แค่สินค้าแบรนด์ไทยเท่านั้น แม้แต่สินค้าจากจีนก็ใช้ Market Segmentation ในการทำตลาดด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง สมาร์ทโฟนที่ 1 แบรนด์มีแตกไลน์ไปอีกหลายยี่ห้อ เช่น

ภาพจาก www.facebook.com/XiaomiThailand
  • Xiaomi มีแบรนด์ย่อยหลายแบรนด์ เช่น Redmi, POCO, Black Shark
  • Huawei แตกแบรนด์ย่อย เป็น Honor
  • Vivo ทำแบรนด์ย่อยอีกแบรนด์ ชื่อว่า iQOO
เป้าหมายของการทำ Sub-brand แบบนี้ จุดเด่นคือ “เพิ่มความชัดเจนของแบรนด์” เพื่อให้สามารถสื่อสารได้ชัดขึ้น ตรงตามความต้องการของลูกค้ากลุ่มเฉพาะได้มากขึ้นโดยแบรนด์ย่อยที่เกิดขึ้นนั้น อาจยังมีเรื่องของกลิ่นอาย หรือ DNA บางอย่างของแบรนด์หลักร่วมด้วย
 
อีกเหตุผลน่าสนใจในการทำตลาดแบบ Market Segmentation ไม่ใช่เพื่อหวังเพิ่มยอดขาย หรือต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าในหลากหลายระดับเท่านั้น แต่วิธีนี้ยังช่วย “ลดความเสี่ยง” ในการทำธุรกิจได้ด้วย ยกตัวอย่าง You&I ร้านสุกี้พรีเมียมบุฟเฟต์ ที่ได้แตกไลน์แบรนด์ใหม่คือ “ลายเส้น” เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแบบพรีเมี่ยม 

ภาพจาก www.facebook.com/LinesenTH
 
แน่นอนว่าการทำแบรนด์ใหม่ครั้งนี้แม้หลายคนจะมองว่า You&I เองก็ฮิตติดตลาดอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่มีแบรนด์เดียว โมเดลธุรกิจเดียวก็ค่อนข้างมีความเสี่ยงเกินไป ในมุมของนักลงทุน
 
มีข้อมูลที่น่าสนใจระบุไว้อีกว่า ธุรกิจใดก็ตามที่ทำการตลาดด้วย Market Segmentation อย่างจริงจัง มีโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้กว่า 10-30% ในช่วง 6-12 เดือนแรก แต่วิธีนี้แม้จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับแต่เคล็ดลับที่จะทำให้ประสบความสำเร็จจริงๆ คือการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าที่ยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ก็เพื่อให้ไลน์สินค้าใหม่สามารถครองใจลูกค้าต่อไปได้เรื่อยๆ 

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
498
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
423
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
398
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
394
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
378
In-N-Out ราชินีฟาสต์ฟู้ดอเมริกา ไม่ขายแฟรนไชส์ แ..
363
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด