บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
338
2 นาที
6 มีนาคม 2568
เปิดสูตร P&L คำนวณพนักงาน ลดต้นทุน ไม่ลดคุณภาพ
 

หนึ่งในปัญหาของการทำธุรกิจก็คือเรื่อง “พนักงาน” ถ้าเป็นร้านขนาดเล็กแบบทำเองคนเดียวก็ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่อง “พนักงาน” แต่ถ้าเป็นร้านที่ขนาดกลาง - ใหญ่ จำเป็นต้องมีพนักงาน แล้วต้องจ้างสักกี่คนถึงจะเรียกว่า “เหมาะสม”

ก่อนอื่นต้องดูที่รูปแบบของธุรกิจเราก่อนว่าเป็นแบบไหน
 
เป็นร้านแบบ Full Service หรือ Self Service
 

ให้บริการครบวงจรแบบนี้ก็อาจต้องใช้พนักงานมาก ต้องมีตั้งแต่ พนักงานรับออเดอร์หรือเสิร์ฟลูกค้าให้ถึงโต๊ะ และจำนวนพนักงานครัวต้องพอเพียงในการทำอาหารให้ทันตามลูกค้าสั่ง แต่ถ้าเป็นร้านแบบ Self Service สั่งอาหารรับอาหารที่เคาเตอร์ ก็สามารถใช้คนที่หน้าร้านน้อยลงได้ และเพิ่มคนทำครัวในช่วงเวลาที่เร่งด่วนได้ แต่ในกรณีที่เป็นร้านสไตล์บุฟเฟ่ต์ อาจต้องเพิ่มพนักงานส่วนหน้าให้เยอะเพราะต้องเก็บโต๊ะเก็บจานให้ไว แล้วลดจำนวนพนักงานเตรียมการในครัวลง
 
ขนาดของร้าน
 
ความเล็กใหญ่ของร้านมีผลอย่างมากกับจำนวนพนักงาน เช่น ร้านอาหารตามสั่งขนาดเล็ก 5 โต๊ะ ควรมีพนักงานเสิร์ฟและรับออเดอร์ 1 คน ต้องมีคนเตรียมวัตถุดิบรอปรุง 1 คน และมีคนทำอาหาร 1 คน ซึ่งคนเตรียมวัตถุดิบสามารถช่วยทำอาหารได้เมื่อเวลาเร่งรีบ เป็นต้น
 
ระยะเวลาเปิดให้บริการ
 

 
เวลาในการเปิดร้านก็มีส่วนกับการจ้างพนักงานเช่นกัน เช่น ร้านเปิด 09.00 – 20.00 น. ต้องใช้พนักงาน 2 กะ ต้องมีพนักงานต้อนรับหรือไม่ ถ้ามีจะต้องใช้กะละคน หรือว่าคนเดียวยืนเฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือตำแหน่ง

แคชเชียร์ถ้าร้านมี 2 กะ แคชเชียร์ต้องมี 2 คน  ส่วนพนักงานบริการ / รับออร์เดอร์  อาจดูตามช่วงเวลาเช่น ตอนเช้าลูกค้าไม่เยอะอาจใช้ 2-3 คน แต่ถ้าตอนบ่าย ตอนเย็นลูกค้าเยอะ อาจเพิ่มเป็น 3-5 คนได้
 
สูตร Profit And Loss (P&L) คำนวณจำนวนพนักงาน
 
โดยปกติต้นทุนค่าแรงไม่ควรเกิน 20% จากยอดขาย ในกรณีที่ไม่รู้ว่าจะต้องจ้างพนักงานมากน้อยแค่ไหนอาจใช้สูตร 
 

 
Profit And Loss (P&L) เข้ามาช่วยในการคิด
 
รายได้ – ค่าใช้จ่าย = กำไร (ขาดทุน) สุทธิ
 
หรือจะใช้สูตรยอดขายต่อเดือน X เปอร์เซ็นต์ค่าแรงพนักงาน = เงินเดือนพนักงาน
 
 
ในที่นี้เราจะไม่ได้พูดถึงค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นแต่จะโฟกัสที่เรื่องค่าแรงสำหรับการหาพนักงานการใช้สูตรนี้จึงต้องมาดัดแปลงเล็กน้อยเช่น ยอดขายของร้านอยู่ที่ 200,000 ต่อเดือน ค่าแรงไม่ควรเกิน 20%  เท่ากับ 40,000 บาท นำตัวเลขนี้ไปเฉลี่ยกับพนักงานในแต่ละตำแหน่งเช่นพนักงานเสิร์ฟเงินเดือน 10,000 บาทอาจจ้างได้ 1 คน ส่วนที่เหลืออีก 30,000 นำไปเฉลี่ยจ้างพนักงานในส่วนอื่นๆ เป็นต้น
 
อย่างไรก็ดีการจ้างพนักงานมากน้อยเท่าไหร่ก็ต้องไม่กระทบกับการทำงาน ต้องไม่ทำให้มาตรฐานการบริการลดลง เช่น ร้านข้าวแกง เป็นร้านแบบ Self Service ถ้าพนักงานไม่เพียงพอ ลูกค้าที่รอนานอาจจะเปลี่ยนใจไปกินร้านอื่น หรือไม่กลับมาใช้บริการอีก ในทางกลับกันถ้ามีพนักงานมากเกินไป ค่าใช้จ่ายจะมากขึ้นกำไรก็จะลดลงได้
 
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้จำนวนพนักงานคือเรื่อง “คุณภาพพนักงาน” ที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจเช่นกัน ถ้าพนักงานให้บริการลูกค้าอย่างสุภาพ ลูกค้าประทับใจ จะทำให้เกิน Brand Loyalty ได้มาก ในบางองค์กรมีการฝึกอบรมพนักงานในทุกตำแหน่งให้มีทักษะมีใจรักในองค์กร อันเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Anchor text คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO
502
Joe Wings ไก่ทอดไทย น้องใหม่โอ้กะจู๋ ลุยตลาด 3 ห..
356
Trung Nguyen Legend กาแฟท้องถิ่นเวียดนาม ชนะสตาร..
355
เจ้าของ สุคิยะ บริษัทเชนร้านอาหาร ใหญ่สุดในญี่ปุ..
354
กลยุทธ์ "ชาสามม้า" ตำนานน้ำชา 88 ปี ที่หลายคนเคย..
344
หลังบ้านของธุรกิจร้านอาหารที่โตไว มีอะไรซ่อนอยู่!
339
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด