บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
519
2 นาที
6 มีนาคม 2568
เปิดสูตร P&L คำนวณพนักงาน ลดต้นทุน ไม่ลดคุณภาพ
 

หนึ่งในปัญหาของการทำธุรกิจก็คือเรื่อง “พนักงาน” ถ้าเป็นร้านขนาดเล็กแบบทำเองคนเดียวก็ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่อง “พนักงาน” แต่ถ้าเป็นร้านที่ขนาดกลาง - ใหญ่ จำเป็นต้องมีพนักงาน แล้วต้องจ้างสักกี่คนถึงจะเรียกว่า “เหมาะสม”

ก่อนอื่นต้องดูที่รูปแบบของธุรกิจเราก่อนว่าเป็นแบบไหน
 
เป็นร้านแบบ Full Service หรือ Self Service
 

ให้บริการครบวงจรแบบนี้ก็อาจต้องใช้พนักงานมาก ต้องมีตั้งแต่ พนักงานรับออเดอร์หรือเสิร์ฟลูกค้าให้ถึงโต๊ะ และจำนวนพนักงานครัวต้องพอเพียงในการทำอาหารให้ทันตามลูกค้าสั่ง แต่ถ้าเป็นร้านแบบ Self Service สั่งอาหารรับอาหารที่เคาเตอร์ ก็สามารถใช้คนที่หน้าร้านน้อยลงได้ และเพิ่มคนทำครัวในช่วงเวลาที่เร่งด่วนได้ แต่ในกรณีที่เป็นร้านสไตล์บุฟเฟ่ต์ อาจต้องเพิ่มพนักงานส่วนหน้าให้เยอะเพราะต้องเก็บโต๊ะเก็บจานให้ไว แล้วลดจำนวนพนักงานเตรียมการในครัวลง
 
ขนาดของร้าน
 
ความเล็กใหญ่ของร้านมีผลอย่างมากกับจำนวนพนักงาน เช่น ร้านอาหารตามสั่งขนาดเล็ก 5 โต๊ะ ควรมีพนักงานเสิร์ฟและรับออเดอร์ 1 คน ต้องมีคนเตรียมวัตถุดิบรอปรุง 1 คน และมีคนทำอาหาร 1 คน ซึ่งคนเตรียมวัตถุดิบสามารถช่วยทำอาหารได้เมื่อเวลาเร่งรีบ เป็นต้น
 
ระยะเวลาเปิดให้บริการ
 

 
เวลาในการเปิดร้านก็มีส่วนกับการจ้างพนักงานเช่นกัน เช่น ร้านเปิด 09.00 – 20.00 น. ต้องใช้พนักงาน 2 กะ ต้องมีพนักงานต้อนรับหรือไม่ ถ้ามีจะต้องใช้กะละคน หรือว่าคนเดียวยืนเฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือตำแหน่ง

แคชเชียร์ถ้าร้านมี 2 กะ แคชเชียร์ต้องมี 2 คน  ส่วนพนักงานบริการ / รับออร์เดอร์  อาจดูตามช่วงเวลาเช่น ตอนเช้าลูกค้าไม่เยอะอาจใช้ 2-3 คน แต่ถ้าตอนบ่าย ตอนเย็นลูกค้าเยอะ อาจเพิ่มเป็น 3-5 คนได้
 
สูตร Profit And Loss (P&L) คำนวณจำนวนพนักงาน
 
โดยปกติต้นทุนค่าแรงไม่ควรเกิน 20% จากยอดขาย ในกรณีที่ไม่รู้ว่าจะต้องจ้างพนักงานมากน้อยแค่ไหนอาจใช้สูตร 
 

 
Profit And Loss (P&L) เข้ามาช่วยในการคิด
 
รายได้ – ค่าใช้จ่าย = กำไร (ขาดทุน) สุทธิ
 
หรือจะใช้สูตรยอดขายต่อเดือน X เปอร์เซ็นต์ค่าแรงพนักงาน = เงินเดือนพนักงาน
 
 
ในที่นี้เราจะไม่ได้พูดถึงค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นแต่จะโฟกัสที่เรื่องค่าแรงสำหรับการหาพนักงานการใช้สูตรนี้จึงต้องมาดัดแปลงเล็กน้อยเช่น ยอดขายของร้านอยู่ที่ 200,000 ต่อเดือน ค่าแรงไม่ควรเกิน 20%  เท่ากับ 40,000 บาท นำตัวเลขนี้ไปเฉลี่ยกับพนักงานในแต่ละตำแหน่งเช่นพนักงานเสิร์ฟเงินเดือน 10,000 บาทอาจจ้างได้ 1 คน ส่วนที่เหลืออีก 30,000 นำไปเฉลี่ยจ้างพนักงานในส่วนอื่นๆ เป็นต้น
 
อย่างไรก็ดีการจ้างพนักงานมากน้อยเท่าไหร่ก็ต้องไม่กระทบกับการทำงาน ต้องไม่ทำให้มาตรฐานการบริการลดลง เช่น ร้านข้าวแกง เป็นร้านแบบ Self Service ถ้าพนักงานไม่เพียงพอ ลูกค้าที่รอนานอาจจะเปลี่ยนใจไปกินร้านอื่น หรือไม่กลับมาใช้บริการอีก ในทางกลับกันถ้ามีพนักงานมากเกินไป ค่าใช้จ่ายจะมากขึ้นกำไรก็จะลดลงได้
 
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้จำนวนพนักงานคือเรื่อง “คุณภาพพนักงาน” ที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจเช่นกัน ถ้าพนักงานให้บริการลูกค้าอย่างสุภาพ ลูกค้าประทับใจ จะทำให้เกิน Brand Loyalty ได้มาก ในบางองค์กรมีการฝึกอบรมพนักงานในทุกตำแหน่งให้มีทักษะมีใจรักในองค์กร อันเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
436
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
421
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด