บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การขาย
523
2 นาที
28 พฤษภาคม 2567
คนขายหน้าตาดีปิดการขายมากขึ้น 14% จิตวิทยาหลอกสมองไม่เหลือ!
 
 
“หน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” เราได้ยินคนพูดคำนี้กันอย่างคุ้นหู คำถามคือแล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงไหม?

ทำไมถึงมองว่าคนหน้าตาดี มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า?
 
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า เราทุกคนบนโลกล้วนตกอยู่ใต้กฎของ Halo Effect หรือการโดนดึงดูดต่อคนที่มีรูปร่าง หน้าตาที่ดี โดยทำให้มองข้ามจุดด้อยอื่นๆของคนๆนั้นไป

 
ถ้ายังมองไม่เห็นภาพลองดูตัวเลขนี้ประกอบ
  • 84% ของผู้หญิงต้องการคู่ครองที่มีรูปร่างหน้าตาดี 
  • 92% ของผู้ชายที่ต้องการคู่ครองที่มีรูปร่างหน้าตาดีเช่นกัน
  • 54% ผู้หญิงที่มีรูปร่างสวย หน้าตาดี มีโอกาสได้รับการติดต่อกลับจากการสมัครงาน
  • 47% ผู้ชายที่มีรูปร่างดี หน้าตาดี มีโอกาสได้รับการติดต่อกลับจากการสมัครงาน
ดังนั้นคำว่าหน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่งแม้ใครจะแย้งยังไงเรื่องนี้ก็ยังจริงเสมอ อย่าโลกสวยว่ายุคนี้เขามองกันที่ความสามารถ ถึงแม้เรื่องนั้นจะจริงเช่นกัน แต่ถ้าให้เลือกว่าระหว่างคนสวยแต่เรียนไม่เก่ง กับคนเรียนเก่งแต่ไม่สวย ตัดสินกันแบบไม่ต้องมองลึกถึงรายละเอียด แว๊บแรกคนส่วนใหญ่ก็ต้องชอบคนสวยมากกว่า 
 
 
ซึ่งหลักการนี้ก็นำมาใช้ได้จริงในการทำธุรกิจ หากสังเกตให้ดีพ่อค้าแม่ค้าเดี๋ยวนี้ไม่ได้แต่งตัวโทรมไปขายของ ถ้าเป็นผู้หญิงต้องแต่งหน้าให้สวยงาม เสื้อผ้านี่ก็ต้องเลือกชุดที่ใส่แล้วดูดี  ที่ผ่านมาเราก็เคยเห็นกระแสที่เป็นไวรัลของแม่ค้าหน้าตาดีที่คนแห่กันเข้าคิวซื้อของกันยาวเหยียด  หรือแม้แต่ผู้ชายหล่อๆ มาขายของก็เป็นที่ถูกใจของลูกค้าสาวเล็กสาวน้อยทั้งหลายด้วยเช่นกัน
 
อธิบายตามหลักของ Halo Effect นั่นเพราะสมองของเรากำลังรับข้อมูลเกี่ยวกับ หน้าตาของคนขาย, เสื้อผ้า, สถานที่, รายละเอียดมากมายเกี่ยวกับสินค้า และข้อมูลอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน และเพื่อลดขั้นตอนการประมวลผล สมองของเราเลยสั่งการให้เราจดจำแต่ลักษณะที่โดดเด่นของสิ่งนั้น ๆ ก่อน ทำให้ข้อมูลเพียงแค่ว่า “คนขายหน้าตาดี” ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้สมองของเรา เกิดความลำเอียงไปด้วยว่า “สินค้าต้องมีคุณภาพ” จนหลวมตัวซื้อสินค้าได้ง่าย ๆ  เพราะมีความหน้าตาดีของคนขายมาอยู่ในสมการประมวลผลตั้งแต่แรก
 
อิทธิพลของความที่หน้าตาดีมีผลการวิจัยที่ระบุว่าสามารถปิดการขายได้มากกว่าถึง 14% และมีโอกาสที่ลูกค้าจะเปิดใจมาคุยด้วยมากกว่าคนที่แต่งตัวธรรมดาถึง 600%  ซึ่งเรื่องนี้ก็ไปสอดคล้องกับธุรกิจอย่างร้านค้า ร้านอาหารที่นิยมหาพนักงานสวย หล่อ แต่งตัวดี มาให้บริการลูกค้า เหตุผลก็เพราะ
  1. ช่วยสร้าง first impression ให้ลูกค้าได้
  2. ช่วยลดโอกาสการปฏิเสธการขายได้มากกว่า
  3. ช่วยเพิ่ม loyalty customer ที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นแนะนำให้ผู้อื่นมาซื้อหรือใช้บริการด้วย

และไม่ใช่แค่เรื่องคนขายที่หน้าตาดีอันที่จริงเรื่องความสวยความงามที่มีผลต่อยอดขายนี้ก็เอาไปใช้กับการออกแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์ อันไหนสวยกว่าคนสนใจก็เยอะกว่าด้วยเช่นกัน มีข้อมูลที่น่าสนใจระบุว่า
  • 65% คือลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อสินค้าครั้งแรกจากแพ็กเกจจิ้ง
  • 55% คือลูกค้าเดิมที่ซื้อสินค้าซ้ำเพราะประทับใจในแพ็กเกจจิ้ง
  • 50% คือลูกค้าที่เปลี่ยนแบรนด์ เพราะไม่ประทับใจในแพ็กเกจจิ้ง
แต่ถึงแม้ว่าเรื่องหน้าตาดีจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขายที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้ แต่เคล็ดลับที่แท้จริงไม่ได้อยู่ตรงนั้นทั้งหมด รูปลักษณ์ภายนอกสินค้า หรือหน้าตาคนขาย อาจมีอิทธิพลในช่วงแรก แต่ถ้าสินค้าหรือบริการที่ได้รับไปไม่เป็นที่ประทับใจ หรือบางทีสวยแต่รูปจูบไม่หอม แทนที่ธุรกิจจะเติบโตก็อาจกลายเป็นหยุดชะงัก ยิ่งยุคนี้คนส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อสินค้าอะไรมองที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก บางทีสินค้าหรือคนขายที่หน้าตาดี ก็ยังไม่ดีเท่าสินค้าที่ราคาถูกใจ ดังนั้นการตลาดไม่ว่ายุคไหนหน้าตาดีอย่างเดียว ทำกำไรยาวๆไม่ได้แน่นอน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Anchor text คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO
493
Trung Nguyen Legend กาแฟท้องถิ่นเวียดนาม ชนะสตาร..
347
เจ้าของ สุคิยะ บริษัทเชนร้านอาหาร ใหญ่สุดในญี่ปุ..
347
Joe Wings ไก่ทอดไทย น้องใหม่โอ้กะจู๋ ลุยตลาด 3 ห..
344
กลยุทธ์ "ชาสามม้า" ตำนานน้ำชา 88 ปี ที่หลายคนเคย..
335
หลังบ้านของธุรกิจร้านอาหารที่โตไว มีอะไรซ่อนอยู่!
328
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด