แน่นอนว่า หากใครเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้วนั้น จะต้องทนทุกข์ลำบากกับการที่จะต้องพาสัตว์เลี้ยงของตนเองนั้นไปหาหมอในทุกๆเดือน หรือแม้กระทั่งตอนมันป่วยอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีรถส่วนตัวนั้นยิ่งเป็นไปได้ยากเข้าไปใหญ่ที่จะหารถที่จะสามารถพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปส่งได้

ภาพจาก bit.ly/2MAUAeB

 

เมื่อเล็งเห็นถึงปัญหานั้นเอง ทางชุมชนเกาหลีใต้การได้เริ่มต้นธุรกิจใหม่คือ “แท็กซี่สัตว์เลี้ยง” โดยธุรกิจนี้ถูกก่อตั้งมาด้วยประสบการณ์จริงของคุณ ปาร์คนารา ซึ่งเธอได้เล่าว่า เมื่อปี 2558 สุนัขของเธอจะต้องไปพบกับแพทย์ฉุกเฉินด้วยอาการป่วย แต่ก็ไม่มีรถแท็กซี่ที่จะสามารถรับหรือพาสุนัขของเธอขึ้นรถได้ เนื่องจากกลัวว่าขนมันจะร่วงไปติดเบาะนั่ง

ฉะนั้นแล้วเธอจึงได้ตัดสินใจวิ่งไปหาหมอในท้ายสุด และเธอก็ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้เอง เธอก็เลยเริ่มต้นธุรกิจนี้ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “Pet Me Up” ซึ่งเธอก็วางแผนที่จะเปิดตัวธุรกิจนี้ในปีหน้า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของการเดินทางของเหล่าบรรดาผู้รักสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆก็ตาม โดยเธอก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า “แน่นอนว่ายังมีอีกหลายคนที่ประสบกับปัญหานี้เหมือนกันกับฉัน”

โดย Pet Me up ก็มีรูปแบบธุรกิจที่เหมือนกันกับ Uber ที่ซึ่งจะเชื่อมโยงเหล่าผู้ที่ต้องการใช้บริการ โดยจะดำเนินผ่านทางแอปพลิเคชั่นทางโทรศัพท์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยจะเห็นได้ชัดว่าธุรกิจนี้มีการเติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งเธอก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า “กว่า 95% ของผู้ใช้ได้กลับมาใช้บริการของเราเป็นครั้งที่ 2 แล้ว” แน่นอนว่า ภายในรถของ Pet Me Up ก็ได้มีการติดตั้งสิ่งจำเป็นพื้นฐานต่อการรับสัตว์เลี้ยงขึ้นมาบนรถ

ภาพจาก bit.ly/2MUX9H8

อย่างเช่น แผ่นรองฉี่และผ้าอ้อม เป็นต้น อีกทั้งเมื่อสัตว์เลี้ยงสร้างความสกปรกที่เกินจำเป็น เหล่าบรรดาเจ้าของทั้งหลายก็จำเป็นเสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 10,000 – 100,00 วอน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าสัตว์เลี้ยงของคุณนั้นได้ทำความเสียหายมากขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ค่าโดยสารบนแท็กซี่คันนี้จะถูกเริ่มต้นอยู่ที่ 11,000 วอน ซึ่งจะมีราคาที่สูงกกว่ารถแท็กซี่ธรรมดาที่จะอยู่ที่ประมาณ 7,000 วอน โดยเขาจะอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามานั่งได้สูงสุดถึง 4 ตัว โดยไม่คำนึงถึงขนาดตัวของสุนัข แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมถึง 2,000 วอน และสำหรับผู้ขับขี่ก็จะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าถึง 300,000 วอน เพื่อรักษาคุณภาพของการบริการ

โดยเขาจะต้องผ่านการสัมภาษณ์ ฝึกอบรม และตรวจเช็คยานพาหนะของเขาเป็นประจำ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดอันตรายต่อตนเองและสัตว์เลี้ยงที่มาใช้บริการ อีกทั้งกิจการยังมีบริการรับและส่งสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีผู้ดูแลด้วย ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถส่งสัตว์เลี้ยงไปยังโรงแรมและศูนย์รับเลี้ยงน้องหมาได้สะดวกอีกด้วย 
 

ภาพจาก www.readhowl.com

ซึ่งสำหรับแนวความคิดแบบนี้เองนั้น ที่ประเทศไทยเองก็มีไม่น้อยหน้าชาวเกาหลีใต้เหมือนกัน แถมยังมีธุรกิจนี้มาก่อนชาวเกาหลีใต้อีกด้วย ซึ่งเจ้าของแนวคิดนี้คือ คุณฐิติมา น้อยพานิช และ คุณสุทิศา ปาติยเสวี

ซึ่งทั้งสองคนเองก็ประสบปัญหาเดียวกันกับคุณปาร์คนาราจึงทำให้หันมาทำธุรกิจนี้เช่นกัน ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า “Petxi Limo” โดยก่อนที่จะเริ่มนั้น ทั้งสองก็ได้สำรวจดูก่อนว่ามีธุรกิจนี้อยู่มากน้อยเท่าไหร่ มีมาตรฐานอย่างไร และคิดราคาแบบไหน เมื่อสำรวจแล้วก็พบว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยงนี้มีคนทำไม่มากนัก ที่มีก็คือเป็นรถแท็กซี่มิเตอร์ที่ผันตัวเองมาจากรับคนมาเป็นรับสุนัขหรือแมวแทน และก็มีเป็นรูปแบบที่ขนส่งสุนัขและแมวโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งสองก็อยากให้เจ้าของนั้นนั่งไปกับน้องหมาด้วย

ภาพจาก www.facebook.com/petxilimo/

โดยระยะแรกของธุรกิจสัตว์เลี้ยงนั้นก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ซึ่งเสียงตอบรับเหล่านี้ก็ได้มาจากเหล่าบรรดาคนรักสัตว์ที่พากันมาใช้บริการแล้วติดใจก็บอกต่อๆกันไป บ้างก็มาจากการโปรโมททางอินเทอร์เน็ต ข่าวประชาสัมพันธ์ตามโรงพยาบาลสัตว์ โรงแรม และสัตว์ว่ายน้ำน้องหมา เป็นต้น ส่วนการรับงานนั้นเขาก็จะตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของน้องหมาน้องแมวซะก่อน เช่น น้องชื่ออะไร พันธุ์อะไร ขนาดเท่าไหร่ นิสัยเป็นอย่างไร เป็นต้น เพื่อที่จะได้ลดความเครียดและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นบนรถ 
 

ภาพจาก www.facebook.com/petxilimo/

 

สำหรับการแข่งขันในธุรกิจสัตว์เลี้ยงนั้น ปัจจุบันมีคนเข้ามาทำธุรกิจสัตว์เลี้ยงนี้เป็นอย่างมาก แต่ทั้งคู่ไม่เคยมองว่าเป็นคู่แข่งเลยสักครั้งเดียว มองเพียงแต่ว่าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเดียวกันซะมากกว่า เพราะโดยส่วนตัวนั้นบางครั้งทั้งคู่ก็ติดปัญหาไม่สามารถไปด้วยตัวเองได้ ก็จะยกลูกค้าให้พันธมิตรอื่นไป ทั้งนี้ทั้งคู่ยังกล่าวอีกว่า ธุรกิจสัตว์เลี้ยงนั้นมีการแข่งขันสูงแต่สำหรับเขาแล้วทุกธุรกิจมีช่องว่างเสมอ อยู่ที่ว่าเราได้พยายามที่จะค้นหามันหรือเปล่า 
 

ภาพจาก www.facebook.com/petxilimo/

 

และหากใครที่อ่านแล้วกำลังสนใจที่อยากที่จะทำธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้บ้าง ที่สำคัญที่สุดอันดับแรกคือ เราจะต้องทำด้วยใจรักเสียก่อน เพราะหากคุณไม่มีใจรักแล้วล่ะก็ คุณอาจจะธุรกิจของคุณเสียหายโดยไม่ทันตั้งตัวก็ได้ หรือคุณอาจจะไปศึกษาหาความรู้จากทางอินเทอร์เน็ต หรือไปสัมผัสประสบการณ์จริงอย่างการไปเดินดูงาน exhibition ที่จัดเอาไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงต่างๆ ซึ่งนอกจากจะได้ความรู้แล้ว คุณก็ยังสามารถที่จะหาแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจสัตว์เลี้ยงของคุณได้อีกด้วย
  

ภาพจาก www.facebook.com/petxilimo/

 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

ที่มา :

https://bit.ly/2MAUAeB