บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
2.6K
3 นาที
28 มิถุนายน 2560
17 เหตุผล! ที่คนยุคนี้ทำธุรกิจแล้วไม่สำเร็จ
 

 
ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่าหลายคนรู้ดีว่าการทำธุรกิจคือหนทางสร้างความมั่นคงให้ตัวเองได้ และหลายคนก็เสี่ยงและกล้าลุยจะเดินบนเส้นทางนี้ แต่กลับพบว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด เด็กๆที่คิดว่าจะรวยได้ง่ายๆจากการทำธุรกิจกลับต้องล้มเลิกความคิดไปซะจำนวนมาก ไม่ใช่เพราะการทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ทำได้ยากแต่ความไม่พร้อมของผู้ลงทุนและกระบวนการทางความคิดที่ไม่สอดคล้องเป็นตัวทำลายเรื่องนี้ได้มากที่สุด

www.ThaiFranchiseCenter.com มี 17 เหตุผลที่บอกได้ว่าทำไมคนยุคใหม่ที่มีความฝันแต่ไปไม่ถึงฝัน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเคสนี้ลองอ่านบทความนี้ดูแล้วว่าตัวเราเป็นอย่างนี้จริงหรือไม่หากว่าใช่ให้ปรับปรุงตัวเองแล้วเริ่มต้นใหม่เพื่อทำให้ธุรกิจของเราไปรอดให้ได้

1.ปราศจากคนปรึกษาที่ดี
 

 
การหาที่ปรึกษาที่ดีไม่ใช่การปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือมนุษย์เงินเดือนด้วยกัน เพราะเราก็จะได้แต่ทัศนคติและมุมมองเดิมๆ ส่วนใหญ่ที่คนทำธุรกิจแล้วล้มเหลว เพราะเลือกที่จะปรึกษาคนระดับเดียวกันที่ยังไม่เคยทำธุรกิจ เลยทำให้นอกจากจะขาดแนวทางที่ดี ยังขาดการเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องอีกด้วย

2.เลือกหุ้นส่วนแบบผิดๆ
 
หลายคนตัดสินใจทำธุรกิจครั้งแรกด้วยความไม่มั่นใจ เลยดึงเอาคนอื่นมาร่วมกันทำธุรกิจเพื่อเป็นหุ้นส่วน ประเด็นคือการหาหุ้นส่วนไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่ทำให้ล้มเหลวจริงๆ ก็คือการตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ บางคนหุ้นส่วนทิ้งงาน ทะเลาะกับลูกค้า มีความคิดเห็นขัดแย้งกันเองเป็นต้น 
 
3.ไม่ได้ใช้เงินตัวเองในการลงทุน

 
ตำราธุรกิจบางเล่มสอนว่าให้เอาเงินคนอื่นมาลงทุนแต่นี่คือสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจเราล้มเหลว เพราะการเอาเงินคนอื่นมาลงทุน จะทำให้เรามองไม่เห็นคุณค่าของเงิน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เอามาลงทุนนั้นมีมูลค่าขนาดไหน หากเราคิดจะทำธุรกิจตัวเองก็ควรใช้เงินทุนตัวเองหรือไปกู้ยืมมาด้วยตัวเราเอง จะได้รู้สึกมีแรงผลักดันและมุ่งมั่นเพื่อทำธุรกิจให้ได้เงินของเราคืนมา มันคือแรงจูงใจเบื้องต้นที่หลายคนมองข้ามไป
 
4.อยากทำธุรกิจแต่ชอบเป็นนักขาย
 
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ คนที่เริ่มทำธุรกิจครั้งแรกหลายคนไม่กล้าที่จะเป็นนักขาย และคิดเพียงว่าจะจ้างพนักงานมาทำในส่วนนี้ซึ่งในความเป็นจริงในฐานะที่เราเป็นเจ้าของสินค้าการลงไปรู้จักตลาดคือสิ่งที่จำเป็นมาก อย่าอายที่จะพรีเซนต์สินค้าให้คนอื่นรู้จัก อาจจะถูกปฏิเสธบ้าง ตำหนิบ้างแต่ถ้ารู้จักเอาสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุงสินค้าต่อไปธุรกิจเราก็จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นด้วย
 
5.ทำตามกันจนเจ๊ง

 
ไม่ใช่ว่าธุรกิจที่ทำตามคนอื่นแล้วจะไม่ดี หลายธุรกิจที่ทำตามกันแต่เขายังอยู่ได้นั้นเพราะเขาหาเอกลักษณ์ในตัวเองเจอแม้เป็นสินค้าแบบเดียวกันก็ตาม แต่สิ่งที่ผิดพลาดของคนที่เจ๊งไม่เป็นท่าคือเห็นคนอื่นทำแล้วดีก็คิดทำตามโดยที่ไม่มีอะไรแปลกแตกต่างไปจากคู่แข่ง ซ้ำร้ายคือไม่รู้จักทำการตลาดให้คนรู้จักแบรนด์ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนันให้เจ๊งไม่เป็นท่าเร็วขึ้น
 
6.ไม่รู้จักแยกแยะเงินลงทุนกับเงินส่วนตัว
 
เป็นความจริงที่เกิดขึ้นกับคนที่ทำธุรกิจไม่เป็น นั้นเพราะไม่มีการแยกบัญชีให้ชัดเจนว่าเงินไหนคือเงินลงทุน เงินไหนที่ควรเอาไว้ใช้ส่วนตัว บางคนผสมปนเปเอาเงินที่ได้จากธุรกิจมาใช้ส่วนตัวไม่แยกบัญชีว่าเงินส่วนนี้เกิดจากอะไรและควรทำอย่างไรต่อไปสุดท้ายเงินหมด ธุรกิจก็ไม่มีกำไร แท้ที่จริงมันเกิดจากความไม่ประสีประสาของตัวเองล้วนๆ
 
7.ไม่มีทีมงานที่ดีพอ

 
ข้อนี้สำคัญเลยทีเดียว ใครก็ตามที่เปิดร้านแล้วต้องมีคนเฝ้าร้าน ดูแลร้าน น่าประหลาดที่การหาลูกน้องเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในยุคนี้ หลายๆร้านเจ้าของต้องลงไปทำเอง ซึ่งกำไรที่ได้ไม่คุ้มค่าตัวตัวเองแน่ๆ เลยทำให้ต้องต้องตัดสินใจปิดร้านไปโดยปริยาย บางคนได้ลูกน้องและเอาลูกน้องมาดูแลแทนกลับเจอปัญหาขาดทุน เพราะทีมงานที่ได้มาไม่มีคุณภาพ บางคนเน้นหาใหม่ไปเรื่อยๆก็กลายเป็นทีมงานที่ไม่มีคุณภาพไม่มีความชำนาญก็ไม่เกิดผลดีกับธุรกิจเช่นกัน
 
8.มั่นใจในตัวเองมากเกินไป
 
เรียกว่าคนอีโก้แรงเกินเหตุก็ว่าได้ การทำธุรกิจสิ่งที่ควรตระหนักข้อแรกคือลดอีโก้ตัวเองลงมาซะ ใครที่เป็นประเภทเกิดมาไม่เคยง้อใคร เกิดมาไม่เคยง้อคน แต่ถ้าจะทำธุรกิจคุณต้องง้อคนเป็น แม่ค้าที่ดีคือแม่ค้าที่ยิ้มแย้มพูดจากับลูกค้าแบบระรื่นหู เช่นเดียวกันลูกค้าของธุรกิจก็ต้องการเจ้าของธุรกิจที่พูดจาดี พูดจาน่าซื้อ พูดจาน่าลงทุนร่วม หากทำข้อนี้ไม่ได้ธุรกิจคุณเจ๊งตั้งแต่คิดแล้วครับ

9.หมดกำลังใจง่ายเกินไป

 
คนที่คิดทำธุรกิจแล้วคิดว่าตลอดเวลาจะต้องเดินอยู่บนเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบขอให้หยุดความคิดนั้นซะ เพราะไม่มีธุรกิจไหนในโลกนี้ที่จะไม่ต้องลำบาก ยิ่งการลงทุนทำเองเป็นเจ้าของเองยิ่งต้องลำบากกว่าการเป็นลูกน้องหลายเท่า บางคนพอเจอปัญหาเข้ามาแทนที่จะหาสาเหตุแก้ไขกลับหมดกำลังใจเอาซะดื้อๆ คิดว่ามันเป็นงานยาก คิดว่ามันเป็นทางตัน คิดว่าตัวเองทำไม่ไหว สุดท้ายก็ถอดใจและทำให้ธุรกิจล้มเหลวในที่สุด

10.เจอปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
 
ขนาดปัจจัยที่ควบคุมได้บางคนบอกว่ายังทำให้ธุรกิจเดินหน้าถึงผลกำไรได้ยาก แต่เศรษฐกิจไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต่างเจอกับปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ทำให้หลายคนต้องปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก ปัจจัยที่ว่านี้เช่น พิษเศรษฐกิจโลก ปัญหาทางการเมือง  ปัญหาเรื่องคู่แข่งการค้า  ปัญหาในข้อกฎหมาใหม่ๆ  สิ่งเหล่านี้ทุกธุรกิจมีโอกาสเจอแต่สิ่งสำคัญคือเจอแล้วทำอย่างไรจะลุยต่อหรือหยุดไว้แค่นี้ นี่คือสิ่งที่ผู้ลงทุนต้องคิดให้ดีๆ
 
11.ระบบธุรกิจตัวเองที่ยังไม่แข็งแกร่ง

 
ขอแนะนำว่าหากใครคิดเริ่มทำธุรกิจตัวเองในเบื้องต้นให้ทำตัวเหมือนเป็นลูกจ้างนั้นคือลงมาทำทุกอย่างตั้งแต่เรื่องง่ายๆ ไปจนถึงเรื่องยากๆ ตัดสินใจตั้งแต่เรื่องพื้นฐานไปจนถึงเรื่อการบริหาร ลงมาเจอกับคนทุกระดับใช้ชีวิตติดกับทีมงานหรือลูกน้องให้มากที่สุด เพื่อดูว่าตรงไหนคือปัญหา ตรงไหนคือเรื่องที่ควรปรับปรุงหากมั่นใจว่าธุรกิจเราดีแข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องลงมาดูแลให้ระบบทำงานของมันเองได้ น่าจะเป็นสัญญาณอันตรายของการทำธุรกิจที่ไปไม่ถึงเป้าหมายในอนาคต

12.ทำธุรกิจแต่บอกว่าไม่มีเวลา
 
ธุรกิจใหม่ๆ ก็เหมือนลูกอ่อนที่เราต้องประคบประหงมกันเป็นพิเศษ อย่าคิดว่ามีเงินก็ลงทุนไป มีปัญหาก็แก้ด้วยเงินอย่างเดียว ธุรกิจนั้นมีแววเจ๊งมาแต่ไกล การทำธุรกิจเราต้องมีเวลาเข้ามาบริหาร อย่าอ้างว่ายุ่ง ต้องไปทำโน่นนี่นั่น หากเราไม่เข้ามาศึกษาและทำความรู้จักธุรกิจตัวเองให้มากพอ รับประกันได้ว่าธุรกิจนี้ไม่มีความแข็งแรงแน่นอน
 
13.ทัศนคติติดลบ

 
เรื่องนี้อาจอยู่ในข่ายของคนที่อาจมีธุรกิจจากทางบ้านแล้วตัวเองจำเป็นต้องมาสานต่อหากใครมีธุรกิจตัวเองแล้วจะให้ลูกหลานสานต่อควรตรวจสอบทัศนคติเบื้องต้นเขาให้ได้ก่อนหากความคิดติดลบคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับธุรกิจนี้หรือธุรกิจนี้ไม่คู่ควรกับคนอย่างเขาทางที่ดีอย่าปล่อยธุรกิจไปอยู่ในมือคนความคิดติดลบนี้เพราะไม่มีผลดีและผลกำไรกับธุรกิจแน่
 
14.ลงทุนไม่รู้จักพอ

แน่นอนว่าคนทำธุรกิจก็อยากเห็นธุรกิจตัวเองยิ่งใหญ่ อะไรที่ว่าดีอะไรที่ใครแนะนำแล้วว่าจะทำให้ธุรกิจเจริญงอกงาม เราก็พร้อมจะใช้เงินทุนนั้นสานต่อให้ธุรกิจเรายิ่งใหญ่จนบางครั้งมันก็เกินตัวไป บางอย่างยังไม่จำเป็นก็ควรเบรกไว้ รอให้ธุรกิจแข็งแกร่งไปทีละสเตปแล้วค่อยลงทุนเพิ่มเป็นขั้นเป็นตอนจะให้ประโยชน์ที่สมควรกว่า แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นตรงกันข้าม อะไรที่โตเร็วเกินไปก็ท้องแตกตายได้เหมือนกัน
 
15.โลกสวยจนเกินไป

 
แรงบันดาลใจกับการทำธุรกิจเป็นของคู่กัน เรามักได้ยินว่าไม่เริ่มต้นก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ แต่การเริ่มต้นก็ไม่ได้หมายถึงว่าจะสำเร็จได้เลยเช่นกัน บางคนโลกสวยคิดว่าทำธุรกิจแล้วต้องสวยงาม เลิศหรู ดูดี มีกำไร แต่ไม่ได้คิดถึงปัญหาและอุปสรรค รวมถึงความเหนื่อยยากทั้งกายและใจ หากเราเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าธุรกิจที่จะสำเร็จคือการลงมือทำและเอาชนะปัญหาที่ตามมาได้นั้นแหละถึงจะเรียกว่าธุรกิจที่แข็งแกร่ง
 
16.โยนความผิดให้ทุกอย่างยกเว้นตัวเอง

เห็นได้ว่าในธุรกิจใดก็ตามที่เกิดปัญหาหากโทษต้นเหตุของปัญหาไปที่การเมือง เศรษฐกิจ เพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงมิตรสหาย และเลวร้ายที่สุด คู่แข่ง และที่เลวร้ายที่สุด โทษ “ลูกค้า” การโทษคนอื่นเป็นการง่ายที่จะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ผิด แต่คนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยล้วนเป็นคนที่โทษตัวเองเป็นอันดับแรกทั้งสิ้น ข้อดีของการโทษตัวเองคือมันจะได้รู้จุดที่ปรับเปลี่ยนตัวเองทัน แล้วเอาไปใช้เพื่อหาเงินหากำไรให้ธุรกิจได้

17.พลังใจคุณไม่เต็มร้อย


 
อันนี้เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุด นั้นคือความขี้เกียจ ท้อแท้ หมดแรงเป็นศัตรูตัวร้ายอยู่ทุกวงการอยู่แล้ว หลายๆ คนทำธุรกิจด้วยความอยากทำ พอทำแล้วก็เกิดความขี้เกียจแล้วพาลไม่อยากทำ ถ้าเรารักในสิ่งที่ทำ เราจะไม่มีวันขี้เกียจ เหตุผลเดียวที่เรายังคงขี้เกียจ คือเรายังไม่มีเป้าหมายชีวิตที่อยากไปให้ถึงนั่นเอง

คนที่มีชีวิตที่ดีคือคนที่สู้แล้วไม่ยอมแพ้ จะเห็นนักธุรกิจระดับโลกบางคนโตมากับความผิดหวัง บางคนตกงานเป็นปี บางคนเสนอขายสินค้าแต่ก็ไม่มีคนสนใจ หากคนเหล่านี้ท้อแท้ไม่มีพลังใจที่เต็มร้อยเขาไม่สามารถก้าวมาถึงทุกวันนี้ได้ คนส่วนหนึ่งที่ล้มเหลวก็เพราะสอบตกในข้อนี้
 
มีหลายแรงบันดาลใจที่ดีหากใครคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบหรือลงทุนให้ยิ่งใหญ่ ธุรกิจที่เล็กแต่แข็งแกร่งมีอนาคตที่ยาวไกลกว่าคนทำธุรกิจขนาดใหญ่แต่ไม่มีความแข็งแกร่ง การมีเงินไม่ได้การันตีว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จแต่ต้องเกิดจากแนวคิดของผู้ลงทุนและวิสัยทัศน์ที่ดีอันเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจระดับโลกได้
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด