บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
2.5K
2 นาที
7 มิถุนายน 2560
เตรียมลงทุนอย่างไรให้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบสบายทั้งครอบครัว

 
เป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของคนไทยกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้งยิ่งไปในช่วงที่มีการจัดงานด้วยแล้วว่ากันว่าสีสันความสนุกจะยิ่งคึกคักครึกครื้นมากขึ้น แต่ทว่าในความเป็นจริงการทำงานเก็บเงินไปเที่ยวนั้นอาจต้องใช้เวลานานโขอยู่เหมือนกัน ถ้ายิ่งเงินเดือนก็น้อย รายจ่ายก็มาก บางทีฝันนี้ก็เป็นเพียงลมๆแล้งๆไปเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเรื่องนี้จะทำให้เป็นจริงไม่ได้เพียงแต่ต้องใช้วิธีเสริมที่ไม่ใช่แค่เก็บเงินเท่านั้นหากแต่ต้องรู้จักเอาเงินต่อเงินหรือเรียกว่าการลงทุนในรูปแบบต่างๆก็อาจจะช่วยให้เรามีโอกาสเข้าใกล้ฝันนี้ได้มากขึ้น

ซึ่งในวันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีวิธีการลงทุนในกองทุนรวมมาฝากกันรวมถึงเทคนิคเล็กๆน้อยที่พอจะทำให้เรามีเงินพอไว้จับจ่ายใช้สอยในการไปเที่ยวญี่ปุ่นซึ่งขอบอกก่อนว่าการเตรียมตัวลงทุนในครั้งนี้เรามีกำหนดเวลาประมาณ 3 ปีซึ่งตอนนั้นจะเป็นช่วงเวลาจัด Tokyo Olympic 2020 พอดีทั้งนี้ก็ต้องมาคาดคะเนรายจ่ายกันก่อนว่าไปญี่ปุ่นทั้งครอบครัวจะมีรายจ่ายส่วนไหน เท่าไหร่ อย่างไรบ้าง
 
การท่องเที่ยวต่างประเทศ มีค่าใช้จ่ายสำคัญ 9 รายการ คือ

 
1.ค่าเดินทางไป-กลับ + ที่พักจากบ้านไปสนามบินก็ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อความสะดวกสบายในการขนสัมภาระที่เอาติดตัวไปและจะเอากลับจากญี่ปุ่น รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 1,300 บาท เป็นทั้งค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถในสนามบิน
 
2.ค่าตั๋วเครื่องบินช่วง High Season จะอยู่ที่ประมาณ 30,950 บาทต่อคน หรือทั้งครอบครัวประมาณ 123,800 บาท แต่ถ้าจะให้ถูกกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการจองล่วงหน้าหรือการใช้เทคนิคโปรโมชั่นอะไรก็ตามแต่ก็อาจได้ราคาตั๋วที่ถูกลงกว่านี้ได้
 
3.ค่าที่พักในต่างประเทศ ประมาณ 3,000 เยน/คน โดยรวมก็ประมาณ 12,000 เยน (ประมาณ 16,000 บาท)
 
4.ค่าประกันภัยการเดินทางค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาเดินทางเท่าที่สำรวจ สำหรับความคุ้มครองประมาณ 500,000 – 1,000,000 บาท เบี้ยประกันไม่เกิน 300 บาทต่อคน
 
 
 
5.ค่าใช้จ่ายการเดินทางในต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับการวางแผนการเดินทาง ซึ่งในญี่ปุ่นมี JR TOKYO Wide Pass เป็นตั๋วเหมา ผู้ใหญ่คนละ 10,000 เยน เด็ก(อายุ 6-11 ปี)คนละ 5,000 เยน โดย Pass นี้ใช้ได้ 3 วันค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 เยน หรือ ประมาณ 10,000 บาท
 
6.ค่ากินอยู่ในต่างประเทศ ราคาค่าอาหารในแต่ละมื้อไม่เกิน 2,000 เยนต่อคนต่อ จำนวนเงินค่าอาหารทั้งหมดประมาณ หรือประมาณ 40,000 บาท (ทั้งครอบครัว)
 
7.ค่าใช้จ่ายในการเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาวะอากาศ ซึ่งเฉลี่ยที่ 22-36 องศาเซลเซียสถ้าเตรียมไปจากเมืองไทยก็ประหยัดรายจ่ายนี้ได้ดีทีเดียว
 
8.ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีพื้นที่ท่องเที่ยวหลากหลายเช่น Tokyo Disneylandราคาบัตร 1วันผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 7,400 เยน เด็ก อายุ 12-17 ปี 6,400 เยน เด็กเล็ก อายุ 4-11 ปี 4,800 เยนต่อคน ประเมินเบื้องต้นเป็นเงินไทยก็ประมาณ 8,500 บาท แต่ถ้ามีทริปเที่ยวที่อื่นร่วมด้วยก็ต้องปรับเปลี่ยนเงินส่วนนี้ตามไป
 
9.ของฝาก+ซื้อของส่วนตัว นั้นคือการซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับมาเตรียมไปอย่างเบาๆก็มีสัก 5,000 ก็พอใช้ได้
 
เมื่อประมาณการค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ตามรายการข้างต้นพบว่า ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมทั้งหมดประมาณ 235,520 บาทที่นี้ก็มาถึงวิธีการทำว่าจะต้องเลือกลงทุนแบบไหนเพื่อให้ได้เงินประมาณ 250,000 บาทในเวลา 3 ปี
 
การลงทุน 3 ปีเพื่อให้มีเงิน 250,000 บาท

 
เนื่องจากระยะเวลาในการลงทุนไม่เกิน 3 ปี การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากอาจทำให้ผลตอบแทนผันผวนเกินไป ดังนั้น ควรเลือกใช้พอร์ตการลงทุนโดยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ 10-30% เสี่ยงกลาง 20-40% และเสี่ยงสูง 40-60% เป็นหลัก ตัวอย่างจะทำการลงทุนในกองทุน 3 ประเภท ได้แก่ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และ กองทุนตราสารทุน (ลงทุนในหุ้นเลียนแบบดัชนี และหุ้นเล็ก) และ กองทุนตราสารหนี้เท่านั้น
 
และเมื่อตัดสินใจเลือกกองทุนเข้าทำการลงทุน เราต้องทำการกำหนดสัดส่วนของแต่ละกองทุนให้สอดคล้องกับประเภทสินทรัพย์ จากนั้นจึงทำการคำนวณ ผลตอบแทนและความผันผวนคาดหวัง โดยวิธีการหาค่าเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก จากตัวอย่าง จะได้ว่า ผลตอบแทนคาดหวังอยู่ที่ 6.6% ต่อปี แต่ความผันผวนคาดหวังยังสูงอยู่ที่ 9.9% ต่อปี

เราสามารถลดความผันผวนลงโดยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้และลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก จะได้ผลตอบแทนคาดหวังจากการลงทุนอยู่ที่ปีละ 5.8% สูงกว่าผลตอบแทนที่ต้องการ (3% ต่อปี)
 
 
แน่นอนว่าเลือกการลงทุนในกองทุนรวมหรือการจัดพอร์ตหุ้นลงทุนนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยและเนื้อหาสาระที่ต้องศึกษาอีกมากแม้เป็นช่องทางน่าสนใจและทำรายได้ดีจริงแต่ทั้งนี้ก็ควรเรียนรู้จากคู่มือตำราและผู้มีประสบการณ์เพื่อจะเริ่มต้นการลงทุนในกองทุนเหล่านี้ได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นซึ่งทางทีมงานเราเองก็จะพยายามมาอธิบายถึงวิธีการลงทุนในลักษณะนี้ให้ดูเข้าใจง่ายขึ้น

ซึ่งก็ต้องคอยติดตามบทความเราอย่างต่อเนื่องเพราะถือว่าการลงทุนในพอร์ตหุ้นเหล่านี้คือการลงทุนชนิดหนึ่งที่น่าสนใจมากและน่าจะเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ดีหลังจากที่เราได้ศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
436
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
421
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด