|
|
|
|
|
25 มกราคม 2559 |
ผ่ากลยุทธ์ กาดฝรั่ง วิลเลจ คอมมิวนิตี้มอลล์ฮอตเชียงใหม่
ตลอดระยะเวลา 9 ปีของ "กาดฝรั่ง" โครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ มูลค่า 524 ล้านบาท ของกลุ่มทุนท้องถิ่น "ธารดง กรุ๊ป" บนถนนสายเชียงใหม่-หางดง ได้สั่งสมประสบการณ์ ผ่านปัญหา ฝ่าอุปสรรค เปลี่ยนแปลง และปรับตัวมาโดยตลอด จนกระทั่งวันนี้ตอบโจทย์ตลาดได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย กลายเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยกลยุทธ์ใด ? "สาริศา เมฆอุไร" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารดง กรุ๊ป จำกัด ให้สัมภาษณ์ทุกประเด็นกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
การยกเครื่องใหม่ของ "กาดฝรั่ง" ด้วยการรีแบรนดิ้ง (Rebranding) ใหม่เป็น "กาดฝรั่ง วิลเลจ" (Kad Farang Village) ภายใต้คอนเซ็ปต์ Boutique Lifestyle Mall ตั้งแต่ปี 2556 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับ-เปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด
จากไอเดียของแม่ "เรณุตรา เมฆอุไร" ที่สร้าง "กาดฝรั่ง" เมื่อราวปี 2549 วางจุดขายให้เป็นช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ในกลุ่มสินค้าศิลปะและหัตถกรรม (Art&Craft) แต่ไม่ตอบโจทย์ตลาด โดยมีลูกสาว "สาริศา เมฆอุไร" เข้ามาสานต่อกระทั่งวันนี้สามารถค้นหาตัวเองจนพบ
สาริศาบอกว่า ที่ผ่านมาลูกค้าไม่เดินเข้ามากาดฝรั่ง เพราะไม่มีสินค้าที่จะสนองตอบเขาได้ จึงต้องทบทวนใหม่ว่าลูกค้าของกาดฝรั่งเป็นใคร-กลุ่มไหน ก็ต้องหาสินค้ามาตอบโจทย์ให้ได้
หลังจากรีแบรนดิ้งเป็น "กาดฝรั่ง วิลเลจ" พร้อมกับปรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ โดยวางฐานกลุ่มลูกค้าเป็น 4 กลุ่มหลักคือ กลุ่มคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตรรอบโครงการกาดฝรั่ง มีสัดส่วน 30% กลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ สัดส่วน 30% กลุ่มชาวต่างชาติ (Expat) ที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอหางดงและใกล้เคียง สัดส่วน 30% และกลุ่มนักท่องเที่ยว (จีน) สัดส่วน 10%
ทั้งนี้ การยกเครื่องใหม่ของกาดฝรั่ง ได้วางสัดส่วนกลุ่มร้านค้าให้สามารถตอบสนองกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุดมากขึ้น ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มร้านค้าอินเตอร์แบรนด์ 50% และกลุ่มร้านค้าท้องถิ่น 50% จำนวนกว่า 100 ร้านค้า บนพื้นที่ราว 10,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย 5 โซนหลักคือ โซนอินเตอร์ ฟู้ดส์ แอนด์ เบฟเวอเรจ, โซนการศึกษา, โซนสุขภาพ, โซนฟู้ดส์ เซ็นเตอร์ และโซนซูเปอร์มาร์เก็ต
ปัจจุบันมีร้านค้าเปิดให้บริการแล้ว80% เหลืออีก 20% จะเปิดให้ครบภายในเดือนมีนาคม 2559 ได้แก่ ฟิตเนส (Power House Fitness) บนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ร้านอาหารญี่ปุ่น (คาบูกิ) ซึ่งเป็นสาขาเดียวกับสยามพารากอน และโรงเรียนสอนทำอาหาร เป็นต้น
"พอเรามีร้านค้าที่สามารถสนองตอบลูกค้าทุกกลุ่มได้ทำให้ในปี 2558 มีคนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 50% อย่างริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต คนมาใช้บริการราว 1,000 คนต่อวัน จากเดิม 500 คนต่อวัน หรือร้านสตาร์บัคส์ก็ได้รับการพูดถึงกันมากในโลกโซเชียล เพราะเป็นร้านแนวล้านนาสไตล์แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งในภาพรวมมีคนเข้ามาใช้บริการในกาดฝรั่งโดยนับจากปริมาณรถที่เข้า-ออกเฉลี่ย 2,000 คันต่อวัน"
สาริศาบอกว่า ในปี 2558 ผลประกอบการของกาดฝรั่งเติบโตขึ้นมาก โดยยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับปี 2557 มีรายได้หลักคือ การให้เช่าพื้นที่ เฉลี่ยเดือนละ 5 ล้านบาท กล่าวคือในปี 2558 มียอดขายอยู่ที่ราว 60 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการแบ่งพื้นที่ส่วนกลางสำหรับบริการจัดอีเวนต์-ออกบูทของลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง โดยคิดในอัตราครั้งละ 30,000 บาท
ขณะเดียวกัน ในปี 2558 ยังได้ลงทุนสร้างโซนฟู้ดส์ เซ็นเตอร์ "กาดวันค่ำ" มูลค่าลงทุนกว่า 10 ล้านบาท จำนวน 50 ร้านค้า เป็นร้านอาหารท้องถิ่นที่ได้รับความนิยม ในส่วนนี้จะตอบโจทย์ลูกค้าทั่วไปที่ต้องการรับประทานอาหารนอกบ้าน แต่ราคาไม่แพงมาก มีตั้งแต่ราคา 30 บาทขึ้นไป โดยรายได้หลักมาจากการเช่าพื้นที่เฉลี่ยเดือนละราว 500,000 บาท
อีกกลยุทธ์สำคัญคือ ความเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์สไตล์ล้านนาแห่งเดียวในจังหวัดเชียงใหม่ และกลยุทธ์ด้านทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง แวดล้อมด้วยโซนที่พักอาศัยและเป็นเส้นทางผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบรนดิ้งภายใต้คอนเซ็ปต์ Boutique Lifestyle Mall ทำให้ร้านค้า-บริการทั้งร้านค้าอินเตอร์แบรนด์และร้านค้าแบรนด์ท้องถิ่น กลายเป็น Magnet ดึงดูดลูกค้าเป้าหมายเข้ามาได้ทุกกลุ่ม
ขณะที่โครงการ Premium Outlet Chiang Mai ของกลุ่มพีน่า กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ติดกับกาดฝรั่ง ก็จะเป็นอีกแม่เหล็กสำคัญที่จะดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาและที่นี่จะกลายเป็นจุดแวะพัก เอื้อประโยชน์ต่อกันทั้งสองโครงการ
นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมทางการตลาด-กระตุ้นการขาย อาทิ การจัดอีเวนต์ใหญ่ "กาดฝรั่ง แฟร์" ซึ่งจะเริ่มเป็นปีแรก เพื่อนำเสนอสินค้าอาหารนานาชาติจากโรงแรมชื่อดังในเชียงใหม่ สินค้า/อาหารโฮมเมด และดนตรีนานาชาติ และตั้งเป้าจัดต่อเนื่องเป็นงานประจำปีทุกปี
"ตั้งแต่ทำโครงการมาเราปรับเปลี่ยนมาตลอด ตอนนี้ถือว่านิ่งแล้ว เราค้นหาตัวเองพบ และเดินมาถูกทาง ทุกอย่างชัดเจนขึ้นมาก ซึ่งเมื่อร้านค้าเปิดครบ 100% ภายในเดือนมีนาคมนี้ก็จะทำให้กาดฝรั่งมีบริการที่สมบูรณ์แบบครบวงจร และจะช่วยทำให้ผลประกอบการในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 10%"
เวลา 9 ปี นับเป็นการพิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่างของโครงการกาดฝรั่ง โดยเฉพาะการฝ่ากลยุทธ์ของ "รุ่นลูก" ที่เข้ามาสานต่อในสิ่งที่ "แม่สร้าง" จนกลายเป็นแบรนด์คอมมิวนิตี้มอลล์ ที่ฮิตติดลมบนของเมืองเชียงใหม่
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ขอบคุณรูปภาพจาก kadfarangvillage.com
|
|
|
453
