3.6K
18 มกราคม 2558
ตนานุวัฒน์ ร่วมทุนลาว ผุดไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ วิวมอลล์



ตระกูลตนานุวัฒน์ ร่วมทุนลาว 120 ล้านบาท ผุด "วิวมอลล์" คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกกลางนครเวียงจันทน์

"ตระกูลตนานุวัฒน์" ร่วมทุนลาวลงขัน 120 ล้านบาท เช่าพื้นที่ระยะยาว 35 ปี สร้างคอมมูนิตี้ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรกกลางนครเวียงจันทน์ ภายใต้ชื่อ "วิวมอลล์" บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ปี'57 วางแผนดึงพันธมิตรคู่ค้าจากไทย-ต่างชาติ ลักษณะร่วมทุนกับคนลาว ผ่าน "แมชชิ่งธุรกิจ" คาดเปิดบริการกลางปี'57

นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัทวิวมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ดำเนินธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ชื่อว่า มีโชคพลาซ่า ประสบผลสำเร็จแล้ว และมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาลู่ทางการลงทุนในสปป.ลาว พบว่ายังมีช่องว่างในการเข้าไปดำเนินธุรกิจก่อนจะเข้าจะสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงได้ขยายฐานเข้าไปทำธุรกิจร้านอาหาร "โขงวิว"ในนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยร่วมหุ้นกับกลุ่มนักธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่ และสปป.ลาว ปรากฎว่าผลตอบรับกลับมาค่อนข้างดี



ล่าสุด จึงได้ตัดสินใจลงทุนร่วมกับนักธุรกิจชาวลาว สร้างคอมมูนิตี้ไลฟ์สไตล์มอลล์ขึ้นเป็นแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนลาว ใช้ชื่อว่าโครงการวิวมอลล์ ตั้งอยู่บริเวณบ้านพะขาว เมืองไซธานี นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ด้วยการเช่าพื้นที่จากเอกชนลาวระยะยาว 35 ปี ภายใต้งบประมาณการลงทุนกว่า 120 ล้านบาท เนื่องจากเล็งเห็นว่าชาวลาวนิยมสินค้าไทย และให้ความนิยมเดินทางข้ามแดนเข้ามาเลือกซื้อสินค้าตามจังหวัดชายแดนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่มีการลงทุนรูปแบบนี้เกิดขึ้นในสปป.ลาว จึงน่าจะเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุน

บริษัทฯ วางเป้าหมายให้เป็นศูนย์รวมสินค้าครบวงจร ในลักษณะให้เช่าพื้นที่ ภายในจะประกอบไปด้วยซูปเปอร์มาเก็ตของกลุ่มทุนไทย บนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร, ศูนย์สุขภาพความงาม, สินค้าเกษตร, แฟชั่น, ร้านอาหาร, ศูนย์รวมสินค้าไอที และศูนย์บริการการศึกษา สามารถรองรับคนได้วันละ 5-6 พันคน รองรับรถยนต์ได้วันละ 300 คัน และจักรยานยนต์ได้วันละ 250 คัน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการปรับพื้นที่ และสร้างโครงสร้างพื้นฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการเข้าไปตกแต่งถ้านสถาปัตยกรรม

"โชคดีที่เราเข้าไปศึกษาพฤติกรรมของชาวลาวพบว่า ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวัน มีความต้องการความสะดวกสบายในเลือกซื้อสินค้า และบริโภคสินค้า อีกทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไปที่มีกำลังซื้อสูง แต่การเข้าไปลงทุนศูนย์การค้าในนครเวียงจันทน์จะมีรูปแบบแตกต่างกัน เช่น ศูนย์การค้านครทรัพย์ของกลุ่มทุนชาวเวียดนาม หรือตลาดค้าส่งซันเจี้ยงของกลุ่มทุนชาวจีน ซึ่งอาจยังตอบสนองความต้องการได้ไม่เต็มที่ จึงกลายเป็นโอกาสให้เราเข้าไปทำตลาดกับประชากรราว 1.2 ล้านคนในเขตนครเวียงจันทน์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการแข่งขัน" นายณรงค์ กล่าว


นักท่องเที่ยวเข้าเวียงจันทน์ 3 ล้านคน

สำหรับนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ถือเป็นแลนด์มาร์คทางการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแวะเวียนเข้าไปปีละประมาณ 3 ล้านคน จึงทำให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจคึกคักตามไปด้วย โดยยอมรับว่าการเมืองของสปป.ลาวมีเสถียรภาพ และภาคเศรษฐกิจมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้กลายเป็นเป็นเป้าหมายการลงทุนของบรรดาเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นจีน, เวียดนาม และไทย ฉะนั้น การเข้าไปครั้งนี้จึงเป็นการต่อยอดทางธุรกิจเดิม ภายใต้การดำเนินธุรกิจร่วมระหว่างทุนไทย และทุนลาวที่เกื้อหนุนกัน

นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ในแผนธุรกิจคาดว่าภายใน 5-6 ปีน่าจะคืนทุน เพราะทำเลที่ตั้งของโครงการวิวมอลล์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของนครเวียงจันทน์ และอยู่ในย่านมหาวิทยาลัยแห่งชาติของสปป.ลาว ที่มีนักศึกษาร่วม 20,000 คน สอดคล้องกับเป้าหมายลูกค้าที่ได้กำหนดไว้คือ ลูกค้าคนรุ่นใหม่, นักธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับกลางขึ้นไป โดยคาดว่าทั้งแบรนด์สินค้าไทย และแบรนด์สินค้าต่างชาติที่จะเข้าไปทำตลาดในโครงการนี้จะดึงดูดความสนในจากกลุ่มเป้าหมายได้

เปิดบริการปี 57 พื้นที่ 6 พันตร.ม.

ทั้งนี้ พันธมิตรที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มทุนไทยที่ผ่านมาการคัดเลือกเข้าไป ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้ใช้วิธีการแมชชิ่งทางธุรกิจระหว่างคนไทยที่สนใจเข้าไปลงทุน ภายใต้การเข้าไปร่วมทุนกับนักธุรกิจลาว คาดว่าจะจัดขึ้นภายใน 2 เดือนข้างหน้านี้ โดยตอนนี้มีกลุ่มธุรกิจหลากหลายสินค้าให้ความสนใจ ซึ่งบริษัทฯได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มที่จะไปลงทุนว่า ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างไทย-ลาวร่วมกันด้วย เพราะโครงการนี้แนวคิดไม่ใช่แค่แหล่งขายสินค้าอย่างเดียว แต่เป็นแหล่งพบปะ และทำกิจกรรมต่างๆ ของชาวลาวด้วย


อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้เน้นการให้โอกาสเพื่อนบ้านในการเรียนรู้ การทำธุรกิจร่วมกัน และพัฒนาไปพร้อมกันๆ ถึงจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่เป็นการเข้าไปลงทุนเชิงเดี่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีเพียงเงินทุน และไม่ได้ทำการศึกษารายละเอียดทั้งพฤติกรรม และวิถีชีวิตของเพื่อนบ้าน ซึ่งมองว่าจะมีความเสี่ยงสูงมากกว่าการร่วมทุน โดยคาดว่าภายในไตรมาสแรกของปี 2557 จะสามารถปิดการขายพื้นที่เช่าได้หมดจำนวน 60 คูหา หรือประมาณ 6,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2557

สำหรับการทำธุรกิจในลาวนั้นต้องศึกษาพฤติกรรมการบริโภคชาวลาวอย่างใกล้ชิด พร้อมกับกฎระเบียบการลงทุน รวมทั้งการจับคู่ธุรกิจ โดยต้องแสดงความจริงใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการหาพันธมิตรในลาว โดยขณะนี้กำลังซื้อในลาวเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีชาวต่างชาติเข้าไปมากขึ้น

อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
งาน กินอร่อยร้อยเมนู อร่อยแสงออก..
453
คอกาแฟไม่ควรพลาด! เทศกาลกาแฟที่ใ..
437
งาน มหกรรมรับสร้างบ้าน 2024
423
งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่..
417
งาน THE MALL LIFESTORE THAPRA BI..
417
เซ็นทรัลพัฒนา ส่งต่อความสดจากทะเ..
407
ข่าวทำเลค้าขายมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด