งาน “แอ่วสุขใจ..I wanna be (e)” ชวนเที่ยวเทศกาลชมสวน 2566 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่
สีสันแห่งไม้ดอกเมืองหนาว งดงามวัฒนธรรมเมืองเหนือ เที่ยวรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในเทศกาลชมสวน 2566 ภายใต้แนวคิด “แอ่วสุขใจ..I wanna be (e)” 1 ธันวาคม 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่
เทศกาลชมสวน (Flora Festival) นับเป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ประจำปีที่นักท่องเที่ยวต่างให้การรอคอยที่จะได้ชื่นชมความงามของไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณจากเกษตรกรบนพื้นที่สูง สำหรับเทศกาลชมสวนปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “แอ่วสุขใจ..I wanna be (e)” ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 08.00 – 18.00 น. ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดยมี “ผึ้ง หรือ Bee” นักผสมเกสรเป็น Mascot นำทางนักท่องเที่ยวชมสวนดอกไม้ที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ พรรณไม้นานาชนิดและให้นักท่องเที่ยวมีความสุขจากใช้เวลาร่วมกันกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ผ่านองค์ความรู้ด้านโครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการหลวง และการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมที่ได้ต่อยอดและรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทรัพยากรพรรณไม้นานาชนิดมากถึง 18,000 รายการ
รวมทั้ง กิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น อีกทั้ง นักท่องเที่ยวยังจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้อุทยานหลวงราชพฤกษ์เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพและเป็นพื้นที่ต้นแบบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืนในปี 2570
ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณนับล้านดอกที่พร้อมใจกันเบ่งบานงดงามเต็มสวน อาทิ เจอราเนียม ฟอร์เก็ตมีน็อต บีโกเนีย พิทูเนีย ซัลเวีย แพนซี คัสตี้มิลเลอร์ เดซี่ เทียนนิวกีนี ฯลฯ เรือนกล้วยไม้ : ชมความสวยงาม ความหลากหลายของกล้วยไม้ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสมในบรรยากาศที่ร่มรื่นเย็นสบาย เรือนไม้ดอก : ชมไม้ดอกเมืองหนาว สีสันสวยงามที่เป็นการส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรบนพื้นที่สูง เรือนร่มไม้ : สวรรค์แห่งพรรณไม้ร่มชื้น ชมซุ้มไม้ใบที่สวยงาม แม้จะไม่มีสีสันแต่มองแล้วให้ความร่มรื่นชื่นใจ ดอกกุหลาบ : ชมความงามของกุหลาบกว่า 220 สายพันธุ์ รวมทั้งกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วม เน้นปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และนำแนวคิดที่ได้ไปสานต่อและใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป
ตลอดการจัดงาน 3 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 มีหลาย ไฮไลท์ในงานที่ไม่ควรพลาด ประกอบด้วย พรรณไม้เด่น ได้แก่
- ไม้ดอกเมืองหนาวจากเกษตรกรบนพื้นที่สูง ณ สวนลานต้อนรับ
- ทุ่งดอกผีเสื้อ (เริ่มบานช่วงปลาย เดือน ธ.ค.66 ณ สวนพรมบุปผา)
- อุโมงค์พวงคราม
- กล้วยไม้นานาพันธุ์ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสม ณ เรือนกล้วยไม้
- เรือนไม้ดอก
- ฟอร์เก็ตมีน็อตคละสี ณ สวนประเทศเนเธอร์แลนด์
นิทรรศการ/ องค์ความรู้ ได้แก่
- Bee Home และกล่ององค์ความรู้เกี่ยวกับผึ้ง ณ สวนลานต้อนรับ
- สัปดาห์นิทรรศการ คิดเพื่อโลก ทำเพื่อเรา ณ ห้องสักทอง
มีกิจกรรมทุกวัน ได้แก่
- พิกัดมุมถ่ายรูปประจำเดือน ร่วมกับกิจกรรมแชะ & แชร์
- กิจกรรมประกวดภาพถ่าย (Photo Contest)
ทุกวันศุกร์ พบกับ
- กิจกรรมเดินสวนกับคนสวน (กุหลาบ/ กล้วยไม้/ ไม้ดอกเมืองหนาว/ กิจกรรม DIY)
- กิจกรรมปลูกรัก ผักอินทรีย์ ร่วมกับบัตรสมาชิกรายปี ณ สวนเกษตรทฤษฎีใหม่/ กิจกรรมปลูกต้นไม้
ทุกวันเสาร์-อาทิตย์และนักขัตฤกษ์ กิจกรรม Workshop ณ ลานส้มสุก ได้แก่
- กิจกรรมแยกขยะ
- DIY จากเศษขยะพลาสติก เช่น พวกกุญแจ ตุ้มหูและที่คั่นหนังสือ
- เรซิ่นจากดอกไม้และวัสดุธรรมชาติ
- กิจกรรมวาดภาพต้นไม้ในฝัน วาดรูปต้นไม้หรือสิ่งมีชีวิตที่ชอบ ลงบนผืนผ้า
- เทียนหอมจากขี้ผึ้งและดอกไม้
- เพนท์ขวดแก้วเป็นแจกัน
- FLOWER GEL CANDLE
- Beeswax Wrap
เดือนมกราคม 2567 พบกับกิจกรรม
- วันเด็กแห่งชาติ 13 ม.ค.2567 บริเวณ: ลานส้มสุก
- กิจกรรมเสวนา : โลกร้อนแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับพลังทดแทน และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในช่วงวันหยุดยาว
เดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีไฮไลท์เด่น ได้แก่ กิจกรรมวันวาเลน์ไทน์ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2567 สัมผัสบรรยากาศแห่งรัก / ช้อปกล้าพันธุ์กุหลาบ / สดชื่นกับเครื่องดื่มจาก HRDI Café / Workshop สำหรับทุกครอบครัว
อ้างอิงจาก : MGROnline.com