|
|
|
|
|
2 สิงหาคม 2558 |
ตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ยังแรงฮอตข้ามปี
ผู้ประกอบการในหลายภาคธุรกิจต่างมีมุมมองต่อตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีการเติบโตแซงหน้าไฮเปอร์มาร์เกตแล้วในเชิงปริมาณ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชุมชนเมืองมีการขยายตัว ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทั้งนี้ หากมองลึกลงไปถึงสาเหตุของการเกิดกระแสการลงทุนในตลาดคอมมูนิตี้มอลล์นั้น
ด้านหนึ่งก็คือความพยายามในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ด้วยเหตุนี้จึงพบว่ามีนายทุนหน้าใหม่และกลุ่มทุนเก่าลงทุนโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ผุดขึ้นมากมาย ทั้งในพื้นที่ใจกลางเมืองและทำเลชานเมือง รวมถึงหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาค
ข้อมูลที่น่าสนใจจากฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 4,006,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 59% ของพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมดในปัจจุบัน ณ ไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2557 เป็นของศูนย์การค้า ในขณะที่คอมมูนิตี้มอลล์มีสัดส่วนมากเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดพื้นที่ค้าปลีก
โดยมีพื้นที่รวมประมาณ 905,980 ตารางเมตร หรือประมาณ 13% ในขณะที่ซูเปอร์สโตร์มอลล์เป็นอันดับที่ 3 มีสัดส่วนประมาณ 12% หรือประมาณ 816,950 ตารางเมตร คอมมูนิตี้มอลล์ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 แทนที่ซูเปอร์สโตร์มอลล์ หลังจากที่จำนวนของคอมมูนิตี้มอลล์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ซูเปอร์สโตร์มอลล์มีการเปิดให้บริการใหม่ไม่มากนัก
ในส่วนของพื้นที่ค้าปลีกที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้น อุปทานในอนาคตที่มีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาสปี พ.ศ.2557 มีประมาณ 393,390 ตารางเมตร โดยที่ประมาณ 190,500 ตารางเมตร เป็นศูนย์การค้า และอีกประมาณ 182,900 ตารางเมตร เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ จากตัวเลขนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ที่จะเติบโตข้ามปีกันเลยทีเดียว
อย่างล่าสุด กลุ่มไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ก็กระโดดข้ามในธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์อย่างเต็มตัว ด้วยการเขย่าตลาดค้าปลีก ทุ่ม 800 ล้านบาท ผุดโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ “วิคตอเรีย การ์เด้นส์” ริมถนนเพชรเกษม ชิงตลาดกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก
นางแก้วใจ เผอิญโชค แม็คโดนัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สินธรณี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัทไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะที่กลุ่มไทยรุ่งฯ ได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่เข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกเต็มรูปแบบแล้ว ด้วยการทุ่มงบกว่า 800 ล้านบาท ผุดโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ภายใต้ชื่อ “วิคตอเรียการ์เด้นส์” (Victoria Gardens) บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ริมถนนเพชรเกษม 69 เพื่อรองรับลูกค้าโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เพราะเชื่อว่ายังมีโอกาสในการทำตลาดและธุรกิจปลีกในรูปแบบดังกล่าวยังเติบโตอยู่ ไม่โอเวอร์ซัพพลายเหมือนที่หลายคนพูดกัน
นอกจากนี้ บนถนนเพชรเกษมและบริเวณใกล้เคียงยังไม่มีค้าปลีกในรูปแบบดังกล่าวเกิดขึ้น มีเพียง 2 ห้างฯ เท่านั้น คือ ห้างเดอะมอล์ บางแค และซีคอน บางแค ขณะที่กำลังซื้อย่านนี้มีสูงมาก เพราะมีจำนวนประชากรพักอาศัยอยู่หนาแน่นในรัศมี 5 กิโลเมตรมีมากกว่า 340,000 คน มีจำนวนรถวิ่งผ่านหน้าโครงการมากกว่า 100,000 คันต่อวัน
โดยกำลังซื้อจากกลุ่มเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีและเจ้าของโรงงานมีมากกว่า 500 ธุรกิจ กำลังซื้อจากกลุ่มนักเรียนนักศึกษามีมากถึง 70,000 คน ทำให้มั่นใจว่าโครงการดังกล่าวหลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ จะมีลูกค้าแห่เข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่าเดือนละ 100,000 คน มีการใช้จ่ายต่อครอบครัวหรือต่อคนต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 1,500-2,000 บาท และถึงจุดคุ้มทุนภายใน 5-7 ปี
“จุดขายและจุดแข็งของโครงการวิคตอเรียการ์เด้นส์ อยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่ถือเป็นทำเลทองในย่านเพชรเกษม ที่เชื่อมต่อถนนสำคัญอีกหลายสาย ทั้งถนนเอกชัย, ถนนพระราม 2, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี, ถนนพุทธมณฑลสาย 2, สาย 3 และสาย 4 ซึ่งเชื่อว่าจากนี้ไปถนนเพชรเกษมจะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักย่านหนองแขมแน่นอน และอีกหนึ่งจุดขาย อเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สำหรับคนเมืองยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทันสมัย
ซึ่งแม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการคอมมูนิตี้มอลล์ บริษัทก็คาดหวังให้วิคตอเรียการ์เด้นส์ เป็น the first and only lifestyle gardens on Petchkasem แห่งแรกและแห่งเดียวบนถนนเพชรเกษม”
ทั้งนี้ หลังทดลองทำการตลาดด้วยการเปิดเฟส 1 นำร่องก่อนเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ผลตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด มียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 1.8-2 ล้านบาท
แม้ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบของคอมมูนิตี้มอลล์จะแข่งขันกันดุเดือดและรุนแรง มีผู้ประกอบการหน้าใหม่ทั้งรายใหญ่ รายกลางและรายเล็กเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่การขยายตัวของชุมชนที่อยู่อาศัยรอบๆ กรุงเทพฯ ยังมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กุญแจสำคัญในการพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ให้ประสบความสำเร็จคือ ทำเล คอนเซ็ปต์ และการบริหารอย่างมืออาชีพ
อ้างอิงจาก บ้านเมือง
|
|
|
451
