นายชนินทร์ โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้บริหารโรงแรมในเครือดุสิตธานี เปิดเผยว่า ดุสิตเตรียมขยายสายงานธุรกิจเพิ่มเติม โดยคาดการณ์ว่าจะเน้น ธุรกิจด้านศูนย์การค้าแบบเปิด (คอมมูนิตี้มอลล์)  

เนื่องจาก ปัจจุบันสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจโรงแรมเป็นอย่างมาก เพราะอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวจะลดลงโดยตลอด ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง จึงวางแผนว่า ภายในปีนี้จะเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ในพื้นที่มีอยู่แล้ว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักตามต่างจังหวัด เช่น หัวหิน นครราชสีมา สมุย

 

ช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ไทยเกิดเหตุการณ์วิกฤติต่าง ๆ โดยเฉพาะจากทางการเมือง จึงมองเห็นว่า จะต้องมองหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่ยังเติบโตได้ดี บวกกับมีที่ดินเปล่า ที่ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วมากกว่า 20 ปี ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไป วางแผนเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ต่อไป”

 

นอกจากนี้ ยังเตรียมเข้าไปเจาะตลาดต่างประเทศ ในประเทศญี่ปุ่นด้วย เพราะปัจจุบันตั้งแต่ญี่ปุ่นประกาศใช้ฟรีวีซ่าให้ประเทศไทย ส่งผลให้คนไทยนิยมเดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเอง ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวภายในประเทศ เติบโตได้ดีมาก และมีความเข้มแข็ง จึงทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นไปได้ดี เห็นได้จากขณะนี้ราคาที่ดินของญี่ปุ่นสูงมาก โดยเฉพาะที่โตเกียวเพราะเป็นเมืองหลวง อย่างไรก็ตามประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียมีราคาที่ดินสูงมากเกือบทุกประเทศ เนื่องจาก ที่ดินหายากมีจำนวนคนซื้อมากกว่าจำนวนคนขาย  20คนต่อ1คน

 

"ที่ดินของเอเชียขณะนี้มีราคาที่พุ่งสูงขึ้นเร็วเป็นอย่างมาก  เช่น สิงคโปร์ ราคาพุ่งขึ้น 20% ทุกปี และคาดว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จะแตะ 100% แน่นอน จึงทำให้ราคาห้องพักที่สิงคโปร์ดีกว่าไทย ถึง 4 เท่า”

อ้างอิงจาก เดลินิวส์