นายเฉลียว ปรีกราน ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ตลาดยอดพิมาน จำกัด เปิดเผยว่า ได้เข้าซื้อที่ดิน และได้รับสัมปทานเช่าที่ดิน และบริหารจัดการตลาด “ปากคลองตลาด” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตลาดค้าส่งไม้ดอกใหญ่ที่สุดในประเทศ และยังเป็นตลาดค้าส่งผัก และผลไม้แหล่งใหญ่ในกรุงเทพฯ โดยบริษัทมีแผนในการพัฒนาตลาดดังกล่าวให้เพื่อเป็นตลาดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ครบวงจรแบบยั่งยืนแห่งแรกในเมืองไทย โดยการพัฒนาตลาด “ปากคลอง” นี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การพัฒนาตลาดปากคลอง และตลาดยอดพิมาน ซึ่งมีเนื้อที่รวมมากกว่า 15 ไร่ โดยใช้งบลงทุนรวม 1,500 ล้านบาท สำหรับในส่วนของตลาดยอดพิมาน นั้นจะพัฒนาภายใต้ชื่อ โครงการยิดพิมาน วิเวอร์วอล์ก แบ่งการพัฒนาเป็นอาคารสูง 3 ชั้น และ 4 ชั้น 6 อาคาร

 

ทั้งนี้ อาคารที่ก่อสร้างใหม่ที่ 6 อาคาร จะมีระเบียงทางเดินริมน้ำที่ยาวที่สุดบนเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไทย เฮอริเทจ มอลล์” บนพื้นที่กว่า 14,000 ตารางเมตร ภายนอกอาคารถูกพัฒนาปรับปรุงขึ้น ตามสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอ คลาสสิก โคโลเนียล ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมต่างประเทศในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อให้กลมกลืนไปกับทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเกาะกรุงฯ นี้
 

“ภายในอาคารถูกตกแต่งพื้นที่จากเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่โครงการ ตั้งแต่สมัยอยุธยา-กรุงธนบุรี-กรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบัน ตัวอาคารประกอบด้วย 6 อาคาร ได้แก่ อาคารสยามปราการ อาคารวิมานอโยธยา อาคารนาวาพาณิชย์ อาคารวิจิตพระนคร อาคารยอดพิมานธานี และอาคารบุรีสราญ นอกจากนี้ ยังได้สร้างอาคารจอดรถซึ่งสามารถรองรับได้ถึง 380 คัน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร”
 

 
 

โดยในส่วนของแต่ละอาคาร จัดให้มีสินค้า และบริการมากมาย เช่น ร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของไทย และอินเตอร์แบรนด์ เพื่อเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาใช้บริการ เสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์สปา สินค้าโอทอป รวบรวมคัดสรรมามากกว่า 40 ร้านค้า พื้นที่รวมประมาณ 6,000 ตารางเมตร เพื่อตอบสนองความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติที่แตกต่างกันไป โดยสัญญาเช่า 3, 5 ปี ราคาเช่าเริ่มต้นที่ 1,000 บาท/ตารางเมตร

 

“ในอนาคตยังจะมีการพัฒนาให้มีกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อเป็นศูนย์รวมสุดยอดสถาบันกวดวิชามาไว้ที่นี่ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบมีโรงเรียน และสถาบันการศึกษามากมาย ดังนั้น จึงมั่นใจว่า โครงการยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก รวมถึง 2 แม่เหล็กสำคัญในอนาคต คือ ตลาดผัก ผลไม้ และดอกไม้ รวมถึงอาคารกวดวิชา จะทำให้โครงการสามารถตอบสนองทุกไลฟสไตล์ของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ”

 

สำหรับ “ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก” ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 80% โดยในส่วนของระเบียงทางเดินเลียบริมน้ำคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 และในส่วนการก่อสร้างโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลาย พ.ศ.2557

 

อย่างไรก็ตาม หลังเปิดให้บริการโครงการเต็มรูปแบบ บริษัทคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการประมาณ 20,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นชาวไทย 70% และชาวต่างชาติ 30% และจากแนวโน้มการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชยใน พ.ศ.2558 คาดว่าจะทำให้การเชื่อมต่อการคมนาคมผู้บริโภคมายังโครงการยอดพิมาน ริเวอร์วอล์กมีจำนวนมากขึ้น

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์