แฟรนไชส์ไทยโอดรัฐไม่หนุนส่งผลธุรกิจ5ปีโตน้อย 10%

 

สมาคมแฟรนไชส์ไทย โอดรัฐบาลไม่เลียวแล สถาบันการเงินสนับสนุนน้อย ส่งผลภาพรวมธุรกิจแฟรนไชส์โตน้อย 10% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการใหม่รอด 50%

น.ส.สมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเพียง 10% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากรัฐบาลไม่ได้ให้การสนับสนุนภาคธุรกิจแฟรนไชส์อย่างจริงจัง ประกอบการสถาบันการเงินที่จะปล่อยกู้เพื่อการลงทุนประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ค่อนข้างยากและในจำนวนน้อย จึงทำให้เจ้าของลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ หรือแฟรนไชส์ซอร์ รายใหม่ๆเกิดขึ้นได้ยาก
 

ทั้งนี้ เจ้าของลิขสิทธิ์แฟรนไชส์รายที่เกิดใหม่ต่อปี มีเพียง 50% เท่านั้นที่สามารถดำเนินกิจการอยู่รอดเกินกว่า 5 ปี สว่นที่เหลืออีก 50% จะค่อยตายไปจากตลาด เพราะไม่สามารถอยู่รอดได้ อันเนื่องจากปัญหาหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่เกิดจากขาดความรู้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือการวางแผนที่ถูกต้อง และเงินทุนไม่เพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจต่อไป

ส่วนร้านสาขาในเครือข่ายแฟรนไชส์ หรือ ผู้ซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซี) มีอัตราการเติบโตมากกว่าหรือปีละ 25% เนื่องจากยังมีคนจำนวนหนึ่งที่สนใจประกอบธุรกิจที่ลงทุนในวงเงินจำกัด สามารถดำเนินธุรกิจได้ในทันที ความเสี่ยงในการดำเนินกิจการน้อยและไม่ต้องวางแผนในการดำเนินธุรกิจเอง  

สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมีอัตราการเติบโตมากที่สุด คือ ธุรกิจการศึกษา เนื่องจากเป็นธุรกิจที่พ่อแม่ให้ความสำคัญเพื่อพัฒนาให้ลูกมีความสามารถ ซึ่งในขณะนี้แฟรนไชส์ที่เป็นธุรกิจการศึกษากำลังกระจายและขยายตัวในพื้นที่ต่างจังหวัดของประเทศ โดยเท่าที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเด็ก และพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กที่ต้องการให้ลูกค้ามีความรู้ความสามารถทัดเทียมกับเด็กที่อยู่ในกรุงเทพฯ

ปัจจุบันสมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมีสมาชิก 200 – 300 ราย ส่วนสมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ ไลเซ่นส์ มีสมาชิกสามัญที่เป็นบริษัทอยู่ราว 10 บริษัท ส่วนสมาชิกวิสามัญกำลังรับสมัคร เนื่องจากสมาคมเพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุดทั้งสองสมาคมร่วมมือกันจัดงาน โอกาสธุรกิจแฟรนไชส์ ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 3 – 5 ก.ย. ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 5 ที่จะมีเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์มารวมงาน เช่น การศึกษา, ค้าปลีก, ความงาม, อาหาร, คาร์แคร์, กาแฟ, บริการ เป็นต้น


อ้างอิงจาก โพสต์ทูเดย์