4 ประสาน ปั้น 8 โครงการ หนุนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดสากล

เป็นอีกมิติหนึ่งในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็กขนาดกลางให้มีโอกาสไปเติบโตในต่างประเทศ โดยใช้วิธีไปภายใต้ร่มเงาของรายใหญ่

โดยครั้งนี้เป็นการดำเนินการภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพนักธุรกิจไทยออกสู่สากลที่มีผู้แทนการค้าไทย ทำเนียบรัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการขับเคลื่อนด้านแหล่งเงินทุน ภายใต้ความร่วมมือกับ 3 องค์กรพันธมิตร คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย ทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่าหลังจากดำเนินการหาลู่ทางในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ พบว่าผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพเข้าไปลงทุนในต่างประเทศหลาย ๆ กลุ่มธุรกิจ อาทิ ก่อสร้าง อสังหาฯ บันเทิง ฯลฯ แต่เพื่อสร้างโอกาสในการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้จัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพนักธุรกิจไทยออกสู่สากลขึ้น โดยร่วมมือกับอีก 3 องค์กรด้านการเงิน ได้แก่ SME Bank, EXIM Bank และ กบข. เพื่อสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับ ผู้ประกอบการสามารถขยายการลงทุนไปต่างประเทศได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างเครือข่ายการลงทุนให้เกิดการลงทุนในลักษณะคลัสเตอร์ โดยทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างมีโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้
 

ซึ่งปัจจุบันมีหลาย ๆ โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่

1. โครงการอู่ซ่อมรถและอะไหล่รถยนต์ รูปแบบคือจะมี นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนเปิดเป็นร้านอู่ซ่อมรถพร้อมขายอะไหล่รถยนต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา
2. โครงการไทยทาวน์ ในลอสแองเจลิส รูปแบบจะเหมือนไชน่าทาวน์ แต่ครั้งนี้จะเป็นคนไทยที่เข้าไปเปิดเป็นร้านเพื่อทำธุรกิจในย่านนั้น
3. ร้านอาหาร ที่จะขยายธุรกิจเหมือนแฟรนไชส์ คือปกติทั่วไปร้านอาหารไทยที่ไปเปิดในต่างประเทศ ส่วนใหญ่ก็จะมี 1-2 สาขา แต่ครั้งนี้ผู้แทนการค้าไทยเข้าไปจะสร้างให้เครือข่ายการลงทุนร้านอาหารไทยให้มี 25-50 สาขา เพื่อให้เกิดการต่อยอดสู่ผู้ผลิตวัตถุดิบรายเล็ก ๆ ที่มีศักยภาพในการผลิตแต่ไม่มีความสามารถในการส่งออกได้โดยตรง
4. โครงการลงทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ในประเทศรัสเซีย
5. โครงการมารีน่า
6. โครงการครีเอทีฟอีโคโนมี เกี่ยวกับธุรกิจบันเทิง โดยการดึงบริษัทกันตนาฯ และธุรกิจอื่น ๆ ไปต่างประเทศ
7. โครงการลงทุนศูนย์กระจายสินค้า ประมาณ 4 แห่ง ได้แก่ ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย
8. โครงการ Thai silk model เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิตผ้าไหมคุณภาพ จึงจะมีการรวมกลุ่มกันไปเปิดร้าน
    

ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์ กล่าวว่า ทั้ง 8 โครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งเป้าหมายของโครงการนั้นต้องการสร้างแต่ละโครงการให้เกิดความเชื่อมโยงไปสู่ผู้ประกอบการในหลาย ๆ ราย ยกตัวอย่างเช่น โครงการอู่ซ่อมรถและอะไหล่รถยนต์ ก็มีการประสานงานไปที่สถาบันยานยนต์ให้เป็นตัวหลักในการพูดคุยรวมกลุ่มกันในกลุ่มสมาชิกว่ามีรายใดที่สนใจและมีความพร้อม

หรือกรณีโครงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เป็นคอนโดฯขนาดใหญ่ที่รัสเซีย ขนาด 12,000 ยูนิต ก็จะมีการพูดคุยกับบริษัทรับเหมา รวมถึงบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ด้วยที่มีความสนใจและความพร้อมที่จะขยายการลงทุนเข้าไปในประเทศที่เป็นตลาดใหม่ โดยมีสถาบันการเงินของรัฐให้การสนับสนุนด้านการเงิน
 

"โดยการทำงานหลังจากนี้ทางผู้แทนไทยก็จะเร่งดำเนินการเจรจากับผู้ประกอบการเป็นกลุ่ม ๆ และพยายามส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม พร้อมสร้างเน็ตเวิร์กให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย" ดร.วัชระกล่าวและว่า

ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าไทยจะช่วยพิจารณาคัดเลือก ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ รวมถึงคุณสมบัติและประเภทธุรกิจที่เหมาะสมที่จะเข้าร่วมโครงการ รวมถึงแนวทางความต้องการของผู้ประกอบการในการให้สถาบันต่าง ๆ ส่วน SME Bank และ EXIM Bank จะเป็นผู้พิจารณาสนับสนุนทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เพื่อนำไปจัดตั้งหรือขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ การค้า การลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และ กบข.จะพิจารณาโอกาสในการเข้าลงทุนในกิจการของผู้ประกอบการภายใต้กฎเกณฑ์และนโยบายการลงทุนของ กบข. โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสม
 
 

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ