1.4K
7 เมษายน 2563
สวทช.อว.พัฒนาแอปพลิเคชัน DDC-Care และ Traffy Fondue ติดตามประเมินผู้เสี่ยงติดโควิด-19
 
 
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาแพลตฟอร์ม DDC-Care : ระบบติดตามและประเมินผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อ COVID-19 และ Traffy Fondue (ทราฟฟีฟองดู) แอปพลิเคชันแจ้งและติดตามปัญหาเมือง
 
โดยมี ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ พร้อมด้วยทีมนักวิจัยจาก สวทช. ได้แก่ ดร.อนันต์ลดา โชติมงคล นักวิจัยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ (A-MED) สวทช. ดร.นัยนา สหเวชชภัณฑ์ นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. และ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. ร่วมสาธิตและเผยแพร่ผลงาน
 
ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช.ให้ความสำคัญต่อภาวะการระบาดที่อาจจะยืดเยื้อยาว และร่วมวางแผนรับมือในระยะยาวเพื่อลดความตื่นตระหนกของคนในสังคม สร้างความเชื่อมั่น และเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์ทั้งในส่วนของการติดตามและตรวจสอบกลุ่มเสี่ยง โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน
 
โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน DDC-Care : ระบบติดตามและประเมินผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อ COVID-19 ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 สวทช. ร่วมกับกรมควบคุมโรค สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน DDC-Care โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามและประเมินสุขภาพผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะต้องกักตัวเองอยู่ภายในที่พักอาศัยเป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งกรมควบคุมโรคจะประเมินความเสี่ยงจากข้อมูลสุขภาพที่ได้จากระบบเพื่อให้คำแนะนำและช่วยเหลือได้ทันท่วงทีเมื่อมีอาการ
 
ทั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยที่มาตรวจที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลพิจารณาว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยง จะได้รับคำแนะนำให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน DDC-Care ขณะที่กลุ่มที่ 2 คือผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามาตรวจและผลตรวจออกเป็น Positive กลุ่มผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยจะต้องได้รับการติดตั้งแอปพลิเคชัน DDC-Care ด้วย
 
ทั้งนี้ แอปพลิเคชันนี้ กรมควบคุมโรคได้ทดสอบกับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแล้วที่สถาบันบำราศนราดูร โดยเจ้าหน้าที่ของกรมฯ จะทำการส่งลิงก์ผ่านทาง SMS ซึ่งจะต้องมีการสมัครและ Log in เข้าไปใช้งาน กลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจะต้องรายงานสุขภาพให้กรมได้ทราบในทุกวัน ปัจจุบันได้ทดลองกับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงฯ จำนวน 173 ราย และมีผู้ติดตั้งแอปพลิเคชันแล้ว 20 คน
 
ในส่วนของการแสดงผลข้อมูลประกอบด้วย 2 มิติ คือ มิติแรกในส่วนของเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค จะสามารถติดตามการรายงานสุขภาพของผู้ที่มีความเสี่ยงฯ สถานภาพการกักตัวในที่พักอาศัย หากออกไปนอกพื้นที่จะสามารถติดตามการเดินทางและติดต่อผู้ที่มีความเสี่ยงได้ การนำเสนอข้อมูลผู้ที่มีความเสี่ยง มี 4 ระดับ ได้แก่ ประเทศ เขต จังหวัด และโรงพยาบาล โดยขึ้นกับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของเจ้าหน้าที่ฯ
 
และอีกมิติหนึ่งคือ สำหรับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงฯ จะเป็นผู้ให้ข้อมูล มีแบบประเมินสุขภาพ เมื่อทำแบบประเมินทุกวันจะมีผลการประเมินตอบกลับว่ามีอัตราความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากเพิ่มขึ้นจะมีคำแนะนำให้โทร.มาที่กรมควบคุมโรค
 
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลแสดงสถานะสุขภาพเพิ่มเติมหลังจากกรอกข้อมูลสุขภาพแล้ว กรมฯ จะมีคำแนะนำซึ่งผู้ใช้ระบบจะได้ประโยชน์ในการปฏิบัติตัวในแต่ละวัน ในส่วนของกรมฯ แล้วระบบ DDC-Care จะเป็นเครื่องมือในการควบคุม ตรวจสอบผู้ที่มีความเสี่ยงฯ ให้อยู่ในพื้นที่กักตัวเอง และดูผลของข้อมูลสุขภาพ ทั้งนี้ หากมีสุขภาพแย่ลงจะได้ให้ความช่วยเหลือได้ทันที รวมถึงหากมีการแพร่ระบาดรุนแรงจะทำให้สามารถคัดแยกผู้ป่วยได้ ตลอดจนเป็นส่วนที่จะช่วยให้โรงพยาบาลได้จัดสรรเตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ซึ่งข้อมูลที่ได้กรอกเข้าระบบนี้จะเป็นข้อมูลความลับเท่านั้น
 
สำหรับ Traffy Fondue (ทราฟฟีฟองดู) แอปพลิเคชันแจ้งและติดตามปัญหาเมือง เป็นแอปพลิเคชันที่จัดทำขึ้นสำหรับสื่อสารเรื่องปัญหาของเมือง ระหว่างประชาชนและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาที่พบ เช่น ปัญหาความสะอาด ปัญหาทางเท้า และติดตามสถานะการดำเนินการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่รับผิดชอบได้
 
โดยหน่วยงานจะได้รับแจ้งรายงานปัญหาที่มีข้อมูลเพียงพอต่อการดำเนินการ เช่น ภาพถ่าย ตำแหน่งบนแผนที่ และสามารถให้ข้อมูลสถานะการแก้ไขปัญหาแก่ประชาชนได้ ซึ่งจากการเกิดภาวะโรคโควิด-19 ระบาดในเกือบทุกพื้นที่ ทีมวิจัยเนคเทค สวทช. จึงประยุกต์ใช้แอปพลิเคชัน Traffy fondue ในแพลตฟอร์มไลน์แชตบอตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อรายงานข้อมูลบุคคลเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงการระบาดไวรัสโควิด-19 และพื้นที่กรุงเทพฯ เดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ในฐานะหน่วยงานผู้ใช้ข้อมูลดังกล่าวต้องการทราบว่าคนที่มีความเสี่ยงกับโรคโควิด-19 เดินทางกลับมายังภูมิลำเนามีอยู่ที่ใดของประเทศบ้าง เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้มีส่วนรับผิดชอบสังคมและปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
 
ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการระบาดด้วยการแจ้งข้อมูลผ่านไลน์แชตบอต เพียงเพิ่มเพื่อน @traffyfondue หากพบคนจากพื้นที่เสี่ยงกลับภูมิลำเนา เริ่มแจ้งข้อมูลพิมพ์ (แฮชแท็ก) #โควิด ตามด้วยชื่อเล่น เพศ ส่งข้อมูลภาพลักษณะที่อยู่หมู่บ้าน ชุมชน (ไม่ต้องส่งภาพคน) และส่งคุยกับไลน์แชตบอต @traffyfondue เพื่อที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นลงพื้นที่ตรวจสอบ สอบสวน และคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
ปัจจุบันมีการแจ้งเบาะแสของผู้เข้าข่ายเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงที่กลับมายังภูมิลำเนาเข้ามาในระบบแล้วจำนวนมาก เช่น จังหวัดมหาสารคาม ราชบุรี นครพนม ยโสธร หนองคาย และมีอีกหลายภูมิภาคทั่วประเทศ เป็นต้น นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรค สุดท้ายนี้ หากหน่วยงานใดที่ต้องการเพิ่มช่องในการรับแจ้งข้อมูล หรือเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผ่านแชตบอตที่มาพร้อมระบบ AI ในการคัดแยกปัญหา ระบบบริหารจัดการสถานะ สามารถติดต่อทีมวิจัยได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-6901-6124 (วสันต์) หรือ ID Line: joopbu
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,108
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
777
“เติมพลังความรู้” กับ ..
617
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
589
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
579
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
532
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด