1.1K
24 ตุลาคม 2562
"ซีพีเอ็น" ชูความสำเร็จ "CPNlead 3" ทรานฟอร์มผู้ประกอบการ สร้าง "ทีมนักธุรกิจรุ่นใหม่" เสริมแกร่งธุรกิจและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
 
 
 
เดินหน้าความสำเร็จอย่างต่อเนื่องปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รวมสามรุ่น 120 แบรนด์ ตอกย้ำการเป็นหลักสูตรฝึกอบรมธุรกิจที่เน้นการเรียนและเวิร์คช้อปอย่างเข้มข้นโดยตัวจริงด้านรีเทล ทดลองทำจริง และต่อยอดได้จริง โดยกว่า 50% เติบโตและขยายสาขากับซีพีเอ็นได้ทันทีโชว์เคสตัวอย่างความสำเร็จ ได้แก่ "Kiss me doll" แบรนด์ผ้าพันคอฝีมือคนไทยที่ Break-through potential แตกไลน์สินค้าใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้าได้กว้างขึ้น "KLANDTH" ร้านเสื้อผ้า Multi Brand แนวสตรีทจากเกาหลีที่วิเคราะห์และเข้าถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ชัดขึ้น "Zleep Sleep" แบรนด์เครื่องนอนที่มี Product development จากการคิดนอกกรอบจนสามารถพัฒนาไลน์สินค้าใหม่จากความชำนาญของตัวเอง
 
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์และศูนย์การค้าของไทย เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการไทย แถลงความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ผ่านโครงการ “CPNlead รุ่น 3” ที่ซีพีเอ็นจับมือกับ ม.ธรรมศาสตร์ พัฒนาหลักสูตรรีเทลที่เข้มข้นด้วย Knowledge & Know-how และโอกาสทำตลาดจริง ช่วยต่อยอดธุรกิจและสร้างความสำเร็จให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยเป็นคอร์สเดียวที่เน้น “เรียนจริง ทำจริง โตจริง” และกว่า50% ของผู้เรียนทั้ง 2 รุ่นที่ผ่านมา สามารถเติบโตและขยายสาขากับ ซีพีเอ็นได้เลยทันที ซึ่งปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมทั้งหมดกว่า 40 แบรนด์ โดยมีความหลากหลายทั้งด้านขนาดและประเภทของธุรกิจ ทั้งนี้หลักจากจบคอร์สหลายแบรนด์สามารถต่อยอดธุรกิจและพัฒนาคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่ง 3 แบรนด์ที่มีโมเดลธุรกิจโดดเด่นที่สุด ได้แก่ ‘Kiss me doll’ แบรนด์ผ้าพันคอฝีมือคนไทย, ‘KLANDTH’ ร้านเสื้อผ้า Multi Brand แนวสตรีทจากเกาหลี และ ‘Zleep Sleep’ แบรนด์เครื่องนอนที่มี Product development จากการคิดนอกกรอบ
 
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของซีพีเอ็น เผยว่า “ซีพีเอ็น ในฐานะผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้ามากว่า 40 ปี ธุรกิจของเราเป็นการสร้างโอกาสและพัฒนาพื้นที่ธุรกิจให้กับร้านค้าปลีกและบริการต่างๆ เพื่อเป็นการนำสิ่งใหม่ๆ ไปให้กับผู้บริโภค รวมถึงการสร้างความเจริญในแต่ละพื้นที่ที่ศูนย์การค้าของเราไปตั้งอยู่ ที่ผ่านมาเราได้สนับสนุนและสร้างธุรกิจต่างๆ ให้ขยายไปกับซีพีเอ็นจนประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย แต่ในโลกปัจจุบัน ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำธุรกิจจึงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Globalization ที่ทำให้การแข่งขันทางธุรกิจทุกวันนี้ไร้พรมแดน รวมถึงความทันสมัยของเทคโนโลยีที่ทำให้รูปแบบของการทำธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งซีพีเอ็นมองเห็นถึงสภาพการแข่งขันทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และหลายแบรนด์ที่ทำธุรกิจอยู่กับเราก็มีความเข้มแข็งผ่านการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปได้ด้วยดี แต่บางแบรนด์ก็ถูก Disrupt ไปหากไม่มีการปรับตัว
 
ซีพีเอ็นจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างหลักสูตร CPNlead ขึ้นมา โดยใช้ประสบการณ์และความพร้อมของเรา เข้ามาช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่พร้อมที่จะพัฒนา ฟันฝ่ากระแสการแข่งขันในปัจจุบัน และเติบโตขึ้นมาได้เช่นเดียวกับที่เราเคยทำมาตลอด คอร์ส CPNlead นี้ จึงไม่ได้เป็นแค่การเรียนรู้ทั่วๆ ไปที่หาได้จากคลาสเรียนต่างๆ แต่เป็นการนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจที่เรามีอยู่มาถ่ายทอด เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้จริง ทำจริง และพัฒนาธุรกิจของตนให้เดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงและชัดเจน และหวังว่าผู้ประกอบการ จะได้รับทั้งความรู้ ทักษะ และประสบการณ์เหมือนกับได้เรียนหลักสูตรลัดในการทำธุรกิจค้าปลีก และมีโอกาสได้ทำความรู้จัก ร่วมมือกับนักธุรกิจด้วยกัน รวมถึงกับผู้บริหารซีพีเอ็น เพื่อสร้างความเข้มแข็งและขยายธุรกิจไปได้อย่างรวดเร็ว

 
โดยหลังจบหลักสูตร ซีพีเอ็นยังมีโปรแกรมที่รองรับให้เกิดความพร้อม และเกิดความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ธุรกิจที่เราสนับสนุนประสบความสำเร็จ และอาจมีโอกาสได้ร่วมมือเป็นทีมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของคนไทย สร้างความสำเร็จไปข้างหน้าร่วมกัน และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป สำหรับผู้ประกอบการในรุ่นที่ 3 นั้น ทุกคนล้วนมีศักยภาพที่โดดเด่น จากเดิมที่ต่างคนต่างมายังไม่คุ้นเคยกัน แต่หลังจากได้ร่วมหลักสูตร ก็เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น โดยหลายแบรนด์สามารถสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของตัวเองได้ทันที เกิด Product Innovation กลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งค้นพบพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่หลักสูตรนี้ ซึ่งเราตั้งใจจะขยายเครือข่ายของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเหล่านี้ให้เติบโตมากขึ้นในอนาคต
 
นอกจากนี้ ซีพีเอ็นยังมีแนวทางในการสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นและ SMEs อีกหลายรูปแบบ อาทิเช่น Startup Market ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาทดลองทำธุรกิจจริง รวมถึงร่วมพัฒนาให้เป็นธุรกิจที่อยู่ในศูนย์การค้าของเราอย่างถาวรต่อไป โดยได้ดำเนินการใน 25 สาขาของซีพีเอ็น และผู้ประกอบการกว่าครึ่งจากจำนวนทั้งหมด 66 รายได้กลายเป็นผู้เช่าถาวรของเรา และ Startup Festival ที่เป็นการมอบโอกาสให้ธุรกิจในท้องถิ่นต่างๆ ได้นำสินค้าของตนเองมาทดลองตลาด จำหน่ายข้ามภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนผู้ประกอบการและธุรกิจในทุกระดับของซีพีเอ็น จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้ใช้ศักยภาพตนเอง ได้ค้นพบไอเดีย และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเติบโตเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เพื่อช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนต่อไป”
 
ผศ. ปิติพีร์ รวมเมฆ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม. ธรรมศาสตร์ ผู้อำนวยการหลักสูตร CPNlead กล่าวว่า “คอร์ส CPNlead มีจุดประสงค์หลักคือปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยที่มีศักยภาพในการเติบโตผ่านเครื่องมือ Retail Success Formula ที่เราพัฒนาให้โครงการนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ วางแผนธุรกิจแบบเป็นระบบและมีความเป็นมืออาชีพ ผู้ประกอบการหลายคนมีไอเดียและ Passion แต่การลุยทำธุรกิจและคิดคนเดียวอาจทำให้มองภาพได้ไม่ครบรอบด้าน ซึ่งคอร์ส CPNlead ช่วยเปิดมุมมองการทำธุรกิจให้กว้างขึ้น อีกทั้งเรายังผลักดันให้ผู้ประกอบการมองไปถึงความเติบโตของธุรกิจในระยะยาวด้วย สำหรับในปีที่ 3 เน้นให้ผู้เรียน Collaborate กับเพื่อนๆ เพื่อช่วยกันคิดค้นโปรดักส์ใหม่ มีการทำ Co-Marketing หรือ Co-Branding ซึ่งการที่ทุกคนได้ลงมือทำจริงๆ บนพื้นที่จริงและตลาดจริงไม่ใช่ห้องทดลอง ผ่าน Pop-Up Store ในรูปแบบครีเอทีฟมาร์เก็ต ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยลดขั้นตอนการลองผิดลองถูกคนเดียว ซึ่งหลายคนสามารถสร้างโปรดักท์ใหม่และค้นพบพาร์ทเนอร์ธุรกิจจากหลักสูตรนี้นำไปต่อยอดได้จริงเป็นเหมือน Fast track ในการเรียนรู้ ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าหลังจากจบคอร์สที่ผ่านมาในหลายๆ เคส นักเรียนสามารถเปิดร้านใหม่หรือขยายธุรกิจได้เลยทันที”
 
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของซีพีเอ็น กล่าวเพิ่มเติมว่า “ซีพีเอ็นเป็นรายแรกในวงการค้าปลีกที่ริเริ่มพัฒนาหลักสูตรอบรมผู้ประกอบการ SMEs ไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งคอร์ส CPNlead แตกต่างด้วยโมเดลความสำเร็จ “เรียนจริง ทำจริง โตจริง” โดยเข้มข้นทั้งความรู้ know-how และ case study ใหม่ๆ และที่สำคัญคือการได้ “ลงมือปฏิบัติจริง” ทั้งการทำ Workshop และทดลองทำตลาดจริงกับลูกค้าจริงในงาน YOUNIQUE Market ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นบนพื้นที่ที่ถือว่าเป็น Strategic Prime Location ของซีพีเอ็นทั้ง 2 แห่ง คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ โดยเราเน้นการกระตุ้นให้ Young SMEs ได้คิดนอกกรอบ ด้วยโจทย์การเรียนที่เน้นการ Break-through potential และเปิดโอกาสให้แต่ละแบรนด์กล้าที่จะ Collab สินค้าและบริการทั้งแบบระหว่างแบรนด์ และข้าม Category จนทำให้เกิดเป็นไอเดียทั้ง Innovationใหม่ๆ, Product development และBrand concept ใหม่ๆ ที่เกิด Story Telling ให้มีจุดเด่นและน่าดึงดูดสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปิดกว้างและลงลึกมากขึ้น และด้วยความเข้มข้นของหลักสูตรนี้เองที่ทำให้โดย CPNlead เป็นหลักสูตรที่นักธุรกิจที่มาเรียน 100% อยากแนะนำให้เพื่อนผู้ประกอบการมาเรียน

 
ซึ่งนักธุรกิจในรุ่นนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ดีมาก เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมี Passion ในการทำธุรกิจ ทางซีพีเอ็นต้องการที่จะช่วยสานฝันให้คนรุ่นใหม่ได้ต่อยอดธุรกิจ จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการดูแลหลักสูตรคัดเลือกแบรนด์ที่มีพัฒนาการและสามารถคิดค้น Business Model ได้โดดเด่นที่สุดใน 3 อันดับ ได้แก่
  1. ชนะเลิศอันดับ คุณพสิษฐ์ รัตน์จารุพงศ์ จากแบรนด์ Kiss me doll ธุรกิจแบรนด์ผ้าพันคอสไตล์น่ารักฝีมือคนไทยที่มีเอกลักษณ์จากลายผ้าปริ้นท์สีหวาน พาสเทล ที่สามารถปรับแนวคิดจนกระทั่งได้ Product development ใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ที่กว้างขึ้นภายใต้ชื่อ Kiss me pls. ที่มีคอนเซ็ปต์แตกต่างไปจากรูปแบบเดิมด้วยลายผ้าที่เรียบเก๋ และโทนสีที่หลากหลายได้รับเสียงตอบรับอย่างดีตั้งแต่ในงาน YOUNIQUE Market และยังสามารถต่อยอดไลน์สินค้าใหม่ที่เติมเต็มความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงด้วยลิปสติกในแพ็คเกจสุดน่ารักภายใต้แบรนด์เดียวกัน
  2. ชนะเลิศอันดับ คุณทวีสิทธิ์ กาญจนวงศ์ไพศาล จากแบรนด์ KLANDTH ร้านเสื้อผ้ามัลติ แบรนด์แนวสตรีทแฟชั่นที่รวมแบรนด์ดังส่งตรงจากเกาหลี โดดเด่นด้วยStrategy ในการใช้ Data วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายจนสามารถเข้าใจ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ได้ชัดเจนและตีโจทย์ความต้องการได้ชัดขึ้น และเกิดไอเดียใหม่ในการทำธุรกิจคือ K Story สร้าง Engagementและ Experience กับลูกค้าจากแพลตฟอร์มOnline และ Offline และการทำสินค้า Limited edition จากการ Collab กับแบรนด์ดังจากเกาหลี
  3. ชนะเลิศอันดับ คุณจารุวรรณ แซ่เตี๋ย จากแบรนด์ “ZleepSleep” แบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่มีความชำนาญในการสรรหาเนื้อผ้าคุณภาพพรีเมี่ยมมาตัดเย็บด้วยความพิถีพิถันได้ไอเดียขยายไลน์สินค้าใหม่ และคอนเซ็ปต์ใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์ “BeeX” ค้นพบจุดแข็งของตัวเองที่มีความเชี่ยวชาญและมีความรู้ด้านการเลือกเนื้อผ้ามาผลิตเป็นชุดนอนที่สวมใส่สบายออกแบบแนว Life wear สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส และยังได้ไอเดียใหม่ที่ช่วยเพิ่มโอกาสและช่องทางการทำธุรกิจด้วยการ Collab กับแบรนด์อื่นๆ และกับ Influencer”

(จากซ้าย) บุนชาน กุลวทัญญู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงาน Leasing, ผศ. ปิติพีร์ รวมเมฆ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม. ธรรมศาสตร์ ผู้อำนวยการหลักสูตร CPNlead, ปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร และดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวประกาศความสำเร็จ ‘CPNlead 3’ ทรานฟอร์มนักธุรกิจรุ่นใหม่ เสริมแกร่งศักยภาพด้วยโมเดล “เรียนจริง ทำจริง โตจริง” ปลดล็อคความสำเร็จพร้อมแข่งขันในเวทีระดับโลก
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,214
PLAY Q by CST bright u..
1,329
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
947
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
945
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
794
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
770
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด