นายนพ ธรรมวานิช ซีอีโอ บริษัท โตโมแกรม สตูดิโอ จำกัด - นายสันติ เลาหบูรณะกิจ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น จำกัด

 

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดกิจกรรมพัฒนาเครือข่ายดิจิทัลคอนเทนต์ ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2562 โดยมีความร่วมมือกับคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมแสดงผลงานภายใต้แนวคิด “Character Licensing Cluster” โดยคาแรกเตอร์ไทยระดับแถวหน้า

 

นายสันติ เลาหบูรณะกิจ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมีการลงทุนในการทำธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มคนก็ได้รับการพัฒนาในด้านการสื่อสารที่กว้างขึ้น จึงเกิดเป็นคำถามว่า “ทำไมคาแรกเตอร์ถึงสำคัญในโลกปัจจุบัน” เพราะการดึงดูดความสนใจสมัยนี้เป็นยุคของ Story telling ไม่ใช่แค่มีคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนน่ารักๆ แล้วคนจะซื้อคุณ แต่ต้องเป็นคาแรกเตอร์ที่มีเรื่องราวน่าสนใจถึงจะทำให้สินค้าหรือบริการดูแตกต่าง มีเสน่ห์ และสร้างความรู้สึกที่ดี อย่างเช่น โดเรมอน, ก๊อตจิ, ปังปอนด์ ฯลฯ ที่กลายเป็นดารา หรือตัวแทนองค์กรนั้นๆ ผู้คนจำได้ และอาจจะมีความผูกพันกับคาแรกเตอร์นั้นๆ ด้วย

 

ทั้งนี้ ธุรกิจ SME ขนาดกลางหรือเล็กก็สามารถนำคาแรกเตอร์มาสร้างประโยชน์ สังคมทุกวันนี้เป็นดิจิทัลหมดแล้ว ถ้าเรายังใช้สโลแกนหรือใช้ตัวอักษรในการเรียกร้องความสนใจก็อาจจะเสียโอกาส วิธีการนำคาแรกเตอร์มาใช้จะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการต่อยอดได้ เห็นได้จากการสื่อสารในโลกโซเชียลทุกอย่างจะใช้แทนค่าด้วยตัวการ์ตูนที่มีเรื่องราว

 

“ท่านที่เคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เคยสังเกตหรือไม่ว่าทุกเมืองเขาใช้ตัวการ์ตูนเป็นตัวแทนในงานสื่อสารต่างๆ เช่น ที่กั้นถนนเป็นตัวการ์ตูนไดคัต หรือป้ายหน้าบริเวณก่อสร้างที่มีรูปแมวมายกมือขอโทษในความไม่สะดวก รวมถึงสินค้าต่างๆ ที่มีตัวการ์ตูนในด้านธุรกิจด้วย เพราะประเทศญี่ปุ่น มองคาแรกเตอร์เสมือนทูตหรือพนักงานขาย คาแรกเตอร์คืออาวุธหลักในการเชื่อมองค์กรเข้ากับกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและแนบเนียนที่สุด ทำให้คนที่สนใจกล้าเข้าหาแบรนด์เอง ดังนั้นจึงต้องทำยังไงให้ธุรกิจเติบโตจากคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูน เพราะการแข่งขันในยุคปัจจุบันนี้เราไม่ได้แข่งกันที่ฟังก์ชันหรือหน้าที่การใช้งานของสินค้าบริการเท่านั้น แต่เราจะแข่งกันตรงที่แบรนด์ของสินค้าและบริการใดที่ให้ความรู้สึกดีมากที่สุด และนี่คือโอกาสที่เรานำคาแรกเตอร์มาใช้ให้เป็นประโยชน์”

 

ด้านนายนพ ธรรมวานิช ซีอีโอ บริษัท โตโมแกรม สตูดิโอ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ NUT SO MOND’STER และ WOOFYBOO กล่าวว่า จริงๆ แล้วคาแรกเตอร์ไทยมีชื่อเสียงมากในต่างประเทศ แต่กลายเป็นว่าคนไทยอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักหรือนำมาใช้ในด้านการตลาด กิจกรรมครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ทางผู้ประกอบการเครือข่ายดิจิทัลคอนเทนต์ได้รวมตัวกันจัดแสดงผลงานขึ้นให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจ หรือนักธุรกิจได้มาทำความรู้จักกับเหล่าคาแรกเตอร์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่กว่าจะสร้างแบรนด์ให้คนรู้จักอาจจะใช้เวลานานและเหนื่อย แต่ถ้ามาพูดคุยปรึกษากับคนทำคาแรกเตอร์ก็จะเป็นทางลัดอีกทางหนึ่งได้

 

นอกจากนี้ยังถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานดีๆ ที่ส่งเสริมลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ไทย ทำให้รู้ว่าธุรกิจต่างๆ หรือผู้ประกอบการ SME จะนำคาแรกเตอร์มาต่อยอดอย่างไรเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด รวมถึงส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการไทยให้ก้าวเข้าสู่ Smart SME เพื่อขยายโอกาสการลงทุนเชิงพาณิชย์ในอนาคตอีกด้วย

 

“ในต่างประเทศ เช่น กระต่ายโหด BLOODY BUNNY ก็เป็นหนึ่งในคาแรกเตอร์ที่ถูกออกแบบดีไซน์โดยฝีมือคนไทย และได้รับความนิยมไปไกลสู่ระดับสากล ส่วนไต้หวันก็นำคาแรกเตอร์ WARBIE YAMA ไปเป็นลายในบัตร 7&11” นพ.ธรรมวานิชกล่าวทิ้งท้าย

 

อ้างอิงจาก : MGROnline.com