10K
10 กุมภาพันธ์ 2553

เสี่ยตัน โออิชิ ประกาศนำเข้าแฟรนไชส์อีกแบรนด์ในปีนี้

 

เสี่ยตันอวดความเก๋า ออเดอร์ของดีหายากจากญี่ปุ่น เพิ่มดีกรีผู้นำ เผยสั่งมากราคาถูกเพิ่มศักยภาพทำตลาด พ่วงพีอาร์สานสัมพันธ มิตรในญี่ปุ่น อัดแคมเปญตามฤดูกาล กระตุ้นยอด 25% พร้อมต่อยอด “ซูโก้ย” ปลายปี ทุ่ม 30 ล้าน สยายปีกสาขา 30 แห่งมากที่สุดในประวัติการณ์ ดึงกระเป๋าเศรษฐีภูธร ประกาศนำเข้าแฟรนไชส์อีกแบรนด์ในปีนี้

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความเชี่ยวชาญในการสรรหาวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้โออิชิ มีศักยภาพในการนำเข้าวัตถุดิบหายากจากประเทศญี่ปุ่นในราคาที่ได้เปรียบกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นรายอื่น เนื่องจากการสั่งซื้อของโออิชิ จะมีจำนวนมากขนาดตู้คอนเทนเนอร์ ขณะที่ร้านอาหารอื่นๆ ยังไม่สามารถทำได้ อีกทั้งโออิชิ มีการออเดอร์สินค้า ตลอดทั้งปี จึงทำให้โออิชิ ยังครองความเป็นผู้นำในตลาดร้านอาหารญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ในประเทศญี่ปุ่น อาหารขึ้นชื่อหรือของดีประจำเมือง จะต้องสรรหาจากต้นกำเนิดเท่านั้น อาทิ กุ้งหวาน หรือปูยักษ์ ขณะที่ปริมาณวัตถุดิบเหล่านี้มีน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่มาจาก แหล่งธรรมชาติ ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารหลายรายไม่สามารถสั่งสินค้าเหล่านี้มาได้ หรือได้ในปริมาณน้อยและราคาสูง แต่โออิชิใช้ศักยภาพของการสั่งซื้อครั้งใหญ่ภายใต้ออเดอร์ทั้งปี รวมทั้งผนึกข้อตกลงในการประ ชาสัมพันธ์ถึงวัฒนธรรมและของดีในญี่ปุ่น ผ่านร้านอาหารของโออิชิในเมือง ไทย จึงทำให้โออิชิมีความได้เปรียบเรื่องวัตถุดิบเป็นอย่างมาก โดยในปีนี้ โออิชิมีเป้าหมายนำเข้าวัตถุดิบจาก ญี่ปุ่นมากขึ้น จากสัดส่วน 50% เป็น 70%

จากความสำเร็จในการเปิดเมนูพิเศษประจำฤดูกาลในช่วง 2 ปีทีผ่านมา ส่งผลต่อยอดขายที่เติบโตขึ้น 20% ในช่วงการจัดแคมเปญ ในปีนี้บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวมากขึ้น โดยใช้งบประมาณกว่า 80 ล้านบาท ในการจัดแคมเปญ “โชกุนชวนชิม” โดยการสรรหาของดีประจำฤดูกาลที่หารับประทานได้ยากจาก 4 เมืองในญี่ปุ่น เข้ามาเป็นเมนูพิเศษในร้านโออิชิ เอ็กซเพรส และโออิชิบุฟเฟ่ต์ และเมนูหมุนเวียนอีก 150 รายการ 4 วัตถุดิบหลักจาก 4 เมืองประ กอบด้วย “ปูยักษ์ฮอกไกโด” จากฮอก ไกโด ในเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน “ปลาฮามาจิ” จากโอซาก้า ในเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม “กุ้งหวานอามะ” จากอาโอเมริ ในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม และ “ปลาหิมะ” เกียวโต ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจอาหารได้ 25%

สำหรับงบตลาดรวมสำหรับกลุ่มธุรกิจอาหารในปีนี้ โออิชิจะใช้กว่า 100 ล้านบาท โดยมีแคมเปญนี้เป็นหลัก อีก 20 ล้านบาทจะใช้กับกิจกรรมอื่นๆ รวมทั้งแคมเปญ “ซูโก้ยโซ้ยแหลก” แจกซูชิทองคำ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีที่ผานมา

ขณะที่งบในการขยายสาขารวมประมาณ 300 ล้านบาท โดยเป็นการขยายสาขาที่มากที่สุด จากเดิมเฉลี่ยไม่เกิน 20 สาขาต่อปี เนื่องจากในปีนี้ แฟรนไชส์ใหม่ 2 แบรนด์ ซึ่งจะขยายอีก 10 สาขา ส่วนอีก 20 สาขาเป็นแบรนด์โออิชิรูปแบบต่างๆ 20 ร้าน โดยมุ่งเน้นการออกต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลต่อสัดส่วนสาขาในต่างจังหวัดจากเดิม 10% เป็น 20%

นายตัน กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายบุกธุรกิจอาหารมากขึ้น โดยมุ่งเป้าขยายสาขาประมาณ 20 แห่งต่อปี และในปีนี้จะมีแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นเข้ามาบริหารอีก 1 แบรนด์

ภาพรวมตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมา มีมูลค่า 7 พันล้านบาท เติบโต 15% โดยร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นเซ็กเมนต์เดียวในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารที่ยังเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10-15% โดยส่วนแบ่งของโออิชิอยู่ที่ 48%หรือยอดขาย 3.2 พันล้านบาท โดยสัดส่วนธุรกิจอาหารคิดเป็น 48% ขณะที่กลุ่มเครื่องดื่มอยู่ที่ 52% คาดว่าในปีนี้ ทั้ง 2 ธุรกิจจะมีสัดส่วนที่เท่ากัน อยู่ที่ 50:50 และปีนี้คาดว่ารายได้จากธุรกิจอาหารจะมีอัตราการเติบโต 20% โดยจะใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการทำตลาด 
 
 
 อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
937
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
638
“เติมพลังความรู้” กับ ..
591
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
562
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
553
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
516
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด