SME D Bank ร่วมกับ TSTC จัดกิจกรรม Business Matching ณ นครกว่างโจว ชี้ เกิดการซื้อขายกว่า 1 ล้านบาท และสร้างโอกาสขยายตลาดต่อเนื่องในอนาคต ประกาศเดินหน้าดันโกอินเตอร์ต่อเนื่อง ด้านกูรูจีนแนะ 3 เคล็ดลับ พิชิตตลาดแดนมังกร ได้แก่ 1.จดเครื่องหมายการค้า 2.สร้างมาตรฐาน และ 3.บรรจุภัณฑ์โดนใจ 

 

นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว). หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธพว. นำผู้ประกอบการ ลูกค้าธนาคาร ที่มีศักยภาพ ต่อยอดขยายตลาดส่งออก ผ่านกิจกรรม Business Matching ที่ SME D Bank ร่วมกับศูนย์สร้างโอกาสธุรกิจไทยสู่จีน หรือ Thailand Smart Trade Center (TSTC) นำคณะเอสเอ็มอีไทย จำนวน 15 ราย ไปเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ซื้อชาวจีนโดยตรง ณ นครกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือน มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา 

 

สำหรับ นครกว่างโจวเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งของจีน เป็นเมืองที่มีกำลังซื้อสูง และที่สำคัญ ชื่นชอบและยอมรับในคุณภาพสินค้าไทย จึงเป็นโอกาส และช่องทางการค้าที่น่าสนใจสำหรับ เอสเอ็มอีไทย 

 

ทั้งนี้ จากกิจกรรมดังกล่าว มีผู้ประกอบการ ที่ได้รับคำสั่งซื้อ เช่น บริษัท เอ็น แอนด์ เค เฮลท์แคร์ จำกัด ผู้ผลิตวิตามินแบรนด์ “กัมมี่” ได้ออเดอร์เบื้องต้นล็อคแรก 1 ตู้คอนเทนเนอร์ คาดมูลค่ากว่า 5 แสนบาท บริษัท ไพศาลฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตบราวนี่อบกรอบ แบรนด์ “Brownie House the Original” มียอดสั่งซื้อประมาณ 5 แสนบาท เป็นต้น 

 

นอกจากนี้ เกิดการจับคู่เชื่อมโยงสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการร่วมเดินทาง เช่น บริษัท วัน ทา ไทย โปรดักซ์ จำกัด ผู้ผลิตฟองน้ำแต่งหน้าจากยางพารา เสนอสินค้าให้แก่บริษัท เอสเจเอสธีติค จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสำอาง นำไปทำโปรโมชั่นแก่ตัวแทนขาย และบริษัท ชัยวัฒนาไรซ์มิลล์ จำกัด ผู้ผลิตขนมแปรรูปจากข้าว ให้บริษัท แอลพี ฟู้ดเวนเชอร์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องแกงรสต้มยำสำเร็จรูป เสนอสินค้าเพื่อนำไปทดลองผลิตเป็นมันฝรั่งแผ่นรสชาติไทย เป็นต้น และ ผู้ประกอบการที่ร่วมเดินทางได้รับประสบการณ์การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ และได้พบผู้ซื้อชาวจีนด้วยตัวเอง สามารถนำกลับมาประเมิน และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม เพื่อสร้างโอกาส และลดความเสี่ยงในการทำตลาดประเทศจีนต่อไป

 

ด้านนายนิพนธ์ ธรรมพัฒนาภรณ์ ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์สร้างโอกาสธุรกิจไทยสู่จีน หรือ Thailand Smart Trade Center (TSTC) กล่าวว่า สินค้าไทยในสายตาชาวจีน เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือเรื่องคุณภาพ รวมถึง ภาครัฐของจีนให้ความสำคัญเรื่องมาตรฐาน ดังนั้น สินค้าไทย จึงตอบโจทย์ตลาดจีนได้อย่างดี

 

ทั้งนี้ เอสเอ็มอีไทยที่อยากส่งสินค้ามาขายในประเทศจีน ควรคำนึงถึง 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ต้องจดเครื่องหมายการค้า สร้างแบรนด์ ป้องกันการถูกลอกเลียนแบบ ละเมิดลิขสิทธิ์ 2. สร้างมาตรฐานสินค้าตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของประเทศจีน และ 3. พัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามดึงดูดใจ ขนาดเหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่น และ ควรลงทุนธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป และที่สำคัญ ต้องศึกษาตลาดให้ดีเสียก่อน ซึ่งปัจจุบัน มีหลายหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว 

 

นายพงชาญ กล่าวต่อว่า ธนาคารจะดำเนินกิจกรรมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยขยายตลาดส่งออกอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบ เช่น การอบรมสัมมนาขยายตลาดออนไลน์ พาออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง จีน อินเดีย เป็นต้น รวมถึง กิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าต่างชาติ เป็นต้น 

อ้างอิงจาก : MGROnline.com