1.1K
16 มกราคม 2562
พาณิชย์เตรียมจัด YEN-D Plus สร้างเครือข่าย ผปก. รุ่นใหม่ไทย-อินโดฯ-มาเลย์
 
 
 
กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดโครงการ YEN-D Plus เดินสายชวนผู้ประกอบการรุ่นใหม่อินโดนีเซียและมาเลเซียเข้าร่วมสร้างเครือข่ายธุรกิจ มี.ค.และ พ.ค.นี้ คาดช่วยขยายการค้า การลงทุนระหว่างกันได้เพิ่มขึ้นแน่ เผยยังได้นำทัพนักธุรกิจไทยร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการอินโดนีเซีย และเพิ่มโอกาสค้าขายต่อเนื่อง
 
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กรมฯ จะใช้โอกาสในการนำคณะผู้แทนการค้าไทยที่ได้ดำเนินการร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเดินทางไปเจรจาจับคู่ธุรกิจ ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย 
 
ระหว่างวันที่ 16-18 ม.ค.2562 ประชาสัมพันธ์โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของอินโดนีเซีย (YEN-D Plus Program) เพื่อชักชวนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของอินโดนีเซียที่เป็นเจ้าของกิจการอายุไม่เกิน 45 ปี จำนวน 30 คน เข้าร่วมสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยจำนวน 30 คน ซึ่งจะเริ่มโครงการในเดือน มี.ค.2562 ที่จะถึงนี้
 
สำหรับการจัดโครงการ YEN-D Plus เป็นการขยายเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยไปสู่ประเทศนอกกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดิม เพื่อต้องการสร้างเครือข่ายของนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้กว้างขวางมากขึ้น
 
โดยการเดินทางไปอินโดนีเซียครั้งนี้ จะเข้าพบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สำคัญของอินโดนีเซีย คือ กระทรวงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กับหอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย KADIN ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ชักชวน และขอให้แจ้งให้กับนักธุรกิจอินโดนีเซียที่สนใจมาเข้าร่วมโครงการ
 
ทั้งนี้ ปัจจุบัน โครงการ YEN-D สามารถสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV รวมเป็นจำนวน 1,184 คน มีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 4,000 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2558 และปี 2562 ถือเป็นครั้งแรกที่ขยายโครงการสร้างเครือข่ายไปสู่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่นอกกลุ่ม CLMV มีเป้าหมายที่อินโดนีเซียและมาเลเซีย
 
โดยอินโดนีเซียจะอบรมสร้างเครือข่ายเดือนมี.ค.2562 และมาเลเซียเดือนพ.ค.2562 ซึ่งจะมีการเดินสายไปชักชวนนักธุรกิจรุ่นใหม่ของมาเลเซียระหว่างวันที่ 30-31 ม.ค.2562 ให้เข้าร่วมโครงการ
 
นอกจากนี้การเข้าร่วมเจรจาจับธุรกิจ ณ กรุงจาการ์ตาในครั้งนี้ ถือเป็นการขับเคลื่อนภายใต้แผนงานการพัฒนาความร่วมมือเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายระหว่างประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย โดยได้นำผู้ประกอบการไทย
 
โดยเฉพาะผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ไปหาโอกาสในการขยายตลาดการค้าและการลงทุนกับผู้ประกอบการอินโดนีเซีย มีผู้ประกอบการจากกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องแต่งกาย ของแต่งบ้าน ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ เป็นต้นเข้าร่วม
 
อีกทั้งยัง ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา ที่จะนำผู้นำเข้าอินโดนีเซียมาร่วมงานเจรจาธุรกิจกับคณะผู้ประกอบการไทย และกรมฯ ยังจัดกิจกรรมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าพบนักธุรกิจนำเข้า หรือKnock Door ณ ที่ทำการของบริษัทนำเข้าโดยตรงอีกด้วย ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างโอกาสในการค้าขายให้กับผู้ประกอบการไทยได้อย่างแน่นอน"นายอดุลย์กล่าว
 
อย่างไรก็ตามปัจจุบันการค้าระหว่างไทย-อินโดนีเซียในปี 2560 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 16,146.33 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2561 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 16,935.69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.54% เป็นการส่งออกมูลค่า 9,409.94 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ 
 
ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ น้ำตาลทราย เป็นต้น และนำเข้ามูลค่า 7,525.74 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่ น้ำมันดิบ ถ่านหิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
662
“เติมพลังความรู้” กับ ..
595
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
565
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
557
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
519
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด