กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผยนโยบายปี 2562 ยกระดับผู้ประกอบการท้องถิ่นก้าวไปสู่เวทีระดับโลก “Local To Global” ภายใต้กิจกรรม DITP OPEN HOUSE 2019 พร้อมปักหมุดศูนย์ฯ รัชดาภิเษกเป็นบิสิเนสอะคาเดมีครบวงจร ตั้งเป้าพัฒนาผู้ประกอบการฐานรากโกอินเตอร์กว่า 1 แสนราย

 

นางบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2562 กรมฯ ได้ดำเนินนโยบาย “Local To Global” โดยการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศตั้งแต่ระดับฐานราก ให้สามารถยกระดับขึ้นเป็นผู้ประกอบการด้านส่งออกสู่เวทีการค้าระดับโลก พร้อมกันนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจเพื่อลดการผูกขาดหรืออำนาจเหนือตลาด เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ โดยสร้างโอกาสการค้าการลงทุนให้แก่ประกอบการที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศในระดับที่เข้มข้น

 

นอกจากนี้ กรมฯ ได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ หรือ NEA จัดกิจกรรม DITP OPEN HOUSE 2019 ภายใต้แนวคิด “DNA ใหม่ SMEs ไทยก้าวไกลอย่างมั่นคง” กิจกรรมดังกล่าวจะประกอบไปด้วย การพัฒนาด้าน Digital Economy โดยในปีที่ผ่านมากรมฯ ได้ทำ MOU กับแพลตฟอร์มชั้นนำในต่างประเทศ หลายราย และในปีนี้ (2562) ก็ยังคงเดินหน้าทำ MOU กับแพลตฟอร์มในต่างประเทศ แต่เน้นการทำ MOU กับแพลตฟอร์มในประเทศที่เป็นระดับ Local มากขึ้น พร้อมกับดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้เซ็น MOU ในปีที่ผ่านมา

 

 

ทั้งนี้ การพัฒนาด้าน New Services การบริการรูปแบบใหม่เพื่อเข้าถึงผู้ประกอบการได้ง่ายขึ้น เช่น 1169 DITP Call Center และการพัฒนาด้าน Accelerate คือ การเร่งความเร็วให้ผู้ประกอบการก้าวสู่ตลาดระดับนานาชาติ ผ่านการเข้าร่วมแสดงสินค้าทั้งใน และต่างประเทศ เช่น โครงการ SME Pro active และโครงการ TOP THAI BRAND ฯลฯ และการจัดกิจกรรมครั้งนี้กรมฯ ยังได้ร่วมกับองค์กรเครือข่าย เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องการเห็นการทำงานแบบประสานความร่วมมือก้าวไปสู่ความสำเร็จ

 

ด้าน นายพรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กล่าวต่อว่า ในปี 2562 ภารกิจของสถาบันฯ คือ การพัฒนาผู้ประกอบการหลายด้าน พร้อมกับกำหนดให้สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ถนนรัชดาฯ เป็นศูนย์ฝึกอบรมหลัก หรือเป็นบิสิเนสอะคาเดมีแห่งใหม่แบบครบวงจร โดยกิจกรรมการฝึกอบรม ในปี 2562 จะมีความเข้มข้น โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ และทีมงานมืออาชีพ

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา NEA ได้ดำเนินกิจกรรมและจัดสัมมนาต่างๆ มากกว่า 150 กิจกรรม ซึ่งรองรับทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ ผู้บริหาร เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เพื่อรองรับการก้าวสู่การเป็น Smart Enterprise และในปี 2562 ยังให้คงให้ความสำคัญต่อการเติมความรู้ด้านดิจิทัลให้ผู้ประกอบการไปใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การสร้งแบรนด์ในยุคดิจิทัล การค้าออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ ซึ่งตั้งเป้าผลักดันผู้ประกอบการรายใหม่ร่วมกิจกรรมให้มากกว่า 1 แสนราย 

 

อ้างอิงจาก : MGROnline.com