ครั้งแรกรอบ3ปี แฟรนไชส์ทรุด ขายหด 9 พันล้านบาท

พิษการเมือง เศรษฐกิจแย่ ฉุดยอดขายแฟรนไชส์ปีนี้ร่วง 12-15% มูลค่าหาย 8,000-9,000 ล้านบาท ลุ้นปีหน้าโต 4%

นายพีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและแฟรนไชส์สากล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจแฟรนไชส์ปีนี้คาดว่ายอดขายลดลง 12-15% ติดลบครั้งแรกในรอบ 3 ปี มูลค่ารวมอยู่ที่ 7.5-7.6 หมื่นล้านบาท รายได้หายไป 8,000-9,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วมีมูลค่า 8.5 หมื่นล้านบาท

สาเหตุที่ทำให้ยอดขายธุรกิจแฟรนไชส์ปรับตัวลดลง เป็นผลจากประชาชนไม่กล้าลงทุนและลดการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและความไม่แน่นอนสถานการณ์ทางการเมือง

“ภาพรวมแฟรนไชส์ปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆ จากที่เคยเฟื่องฟูในปี 2550 ที่ยอดขายขยายตัวถึง 11-12% และก็เริ่มชะลอตัว โดยปี 2551 ยอด ขายเติบโตเหลือแค่ 8% ปีนี้ติดลบ ปัจจัยที่มีน้ำหนักมากสุดมาจากปัญหาการเมือง” นายพีระพงษ์ กล่าว

ขณะที่จำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ปีนี้ลดลงเช่นกัน อัตราสูญเสียอยู่ที่ 26% ปัจจุบันเหลือ 479 ธุรกิจ จากปีที่แล้วมี 505 ธุรกิจ
 

ธุรกิจที่ปิดกิจการส่วนใหญ่เป็นรายย่อยที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง เนื่องจากไม่มีความชำนาญในการบริหาร อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ในช่วงที่ผ่านมาปล่อยสินเชื่อน้อย ทำให้รายย่อยไปไม่รอด โดยสาขาแฟรนไชส์ ปัจจุบันอยู่ที่ 2 หมื่นสาขา

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ปี 2553 ด้านยอดขายคาดว่าจะเติบโตบวก 4% ขึ้นไป ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะการเมืองมีความอ่อนไหวต่อการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์มากกว่าปัจจัยอื่น

สำหรับจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ คาดว่าจะมีธุรกิจรายใหม่เพิ่ม 20% เพราะมีการประเมินไว้ว่า 5 ปีจะมีธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 800 ธุรกิจ หากภาครัฐมีการผลักดันเรื่องการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ให้สามารถนำร้านแฟรนไชส์มาค้ำประกันเงินกู้เพื่อลงทุนได้

“สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือ ให้องค์ความรู้กับธุรกิจแฟรนไชส์ โดยเฉพาะรายย่อยที่ต้องเน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ ขณะนี้เอกชนกับกระทรวงพาณิชย์ร่วมมือที่จะสร้างมาตรฐานให้กับระบบแฟรนไชส์” นายพีระพงษ์ กล่าว

นายสุทธิศักดิ์ เลาหชีวิน รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมได้จัดงานไทยแลนด์ แฟรนไชส์ ควอลิตี้ อะวอร์ด 2009 ขึ้นเป็นปีแรก เพื่อมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ และรางวัลมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้าน เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล และสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้


อ้างอิงจาก โพสต์ทูเดย์