43K
9 พฤศจิกายน 2552

โครงการมะลิแฟรนไชส์ เปิดตัวธุรกิจ "รถเข็นกาแฟโบราณ"

 มะลิสบโอกาสเปิดอาฟต้า ทุ่ม 150 ล้านขยายกำลังผลิตรับการเติบโต 20-30% พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจทั้งรับจ้างผลิตเพิ่ม แตกไลน์ประเภทธุรกิจ ส่ง "มะลิ แฟรนไชส์" กาแฟโบราณรุกหนัก เผยปีหน้าตั้งเป้า 5 พันแห่ง ประกาศแตกไลน์สินค้าใหม่ บุกเครื่องดื่ม 2-3 ตัว ใน 3 ปี ปลื้มปีนี้ยอดขายฟื้นกลับมาที่ 10%

นายสุวิทย์ ผลวิวัฒน์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ผลประกอบการของบริษัทเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดย 10 เดือนที่ผ่านมาสามารถฟื้นยอดขายที่ลดลงไปในปีที่แล้วจากผลกระทบจากกรณีเมลามีนที่ทำให้ยอดขายตกลงไปถึง 10% กลับมาที่ระดับเดิมได้ ส่งผลให้ปีนี้บริษัทคาดว่าจะปิดยอดขายได้ที่ 10% จากปกติจะเติบโตปีละ 5% คิดเป็นยอดขายกว่า 5,000 ล้านบาท

โดยแผนหลังจากนี้ไป คือ การมุ่งไปที่ตลาดส่งออกมากขึ้น จากที่บริษัทเริ่มรุกหนักตั้งแต่ปลายปี 2551 จากที่คาดการณ์ ว่าเศรษฐกิจในประเทศปีนี้จะถดถอย จึงต้องหาตลาดต่างประเทศทดแทน โดยเฉพาะในแถบอินโดไชน่า ปัจจุบันมีเวียดนามและลาวเป็นตลาดหลัก โดยยอดขายในอินโดไชน่าคิดเป็น 60% ของยอดส่งออกทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่น ๆ อาทิ ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, แอฟริกา ฯลฯ รวม 30-40 ประเทศ โดยสินค้าที่ส่งออกจะเป็น กลุ่มนมข้นหวาน

ปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 20% ของยอดขายรวมซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ เป้าหมายคือต้องการเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 25% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งตลาดยังมีศักยภาพอีกมากโดยเฉพาะปีหน้าที่จะเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน หรืออาฟต้า ซึ่งจะเป็นโอกาสในการรุกตลาดในประเทศแถบอาเซียนมากขึ้น 

นายสุวิทย์กล่าวว่า กลยุทธ์ของบริษัทจะใช้ความได้เปรียบเรื่องกำลังการผลิต ความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่มีเข้าไปสร้างการเติบโตในตลาดเหล่านี้ ที่ผ่านมาได้ทุ่มงบฯ 100-150 ล้านบาทขยายศักยภาพด้านการผลิตทั้งเครื่องจักร, คลังสินค้า รวมถึงระบบโลจิสติกส์เพื่อทำให้มีความได้เปรียบในแง่ต้นทุนการผลิตมากขึ้น ซึ่งจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 1 ปีหน้า เพื่อรองรับการเติบโตอีก 20-30% จากนี้ไป

ส่วนของธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้น เนื่องจากที่ผ่านมากลยุทธ์ของบริษัท คือ การกลับมาโฟกัสสินค้าตัวหลักนั่นคือกลุ่มนมข้นหวานและครีมเทียมข้นหวาน อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มองถึงโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย

"วิชั่น 3 ปีจากนี้เป็นการเข้าสู่ยุคของการขยายไลน์ธุรกิจ (diversify) ซึ่งเริ่มทำมาต่อเนื่อง อาทิ การเพิ่มสัดส่วนการรับจ้างผลิต การแตกไลน์กลุ่มเครื่องดื่มในอนาคต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาระบบการจำหน่ายกับสินค้าประเภทนี้ เพราะมีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์นมที่มีอยู่"

 

ทั้งนี้ การเปิดตัว "น้ำดื่มมะลิ" ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ถือเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระบบในช่องทางจำหน่ายที่ขายผ่านเอเย่นต์ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปีข้างหน้าจะเปิดตัวเครื่องดื่มอีก 2-3 ตัวเพื่อขยายฐานลูกค้า และโอกาสทางการ ตลาดใหม่ ๆ จากปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำตลาดนมข้นหวานและครีมเทียมข้นหวาน ซึ่งมีมูลค่ารวมกันที่ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยมะลิเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 60%

ทั้งนี้ การขยายธุรกิจที่สำคัญของบริษัทตลอดปีหน้า จะมุ่งเพิ่มผู้ลงทุนในโครงการ "มะลิแฟรนไชส์" ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทกับการเปิดตัวธุรกิจ "รถเข็นกาแฟโบราณ" เจาะกลุ่มผู้ที่ต้องการทำธุรกิจโดยเฉพาะ จุดเด่นคือใช้งบฯลงทุนขั้นต่ำเพียง 25,000 บาท ไม่มีค่าแฟรนไชส์ แต่มีเงื่อนไขคือต้องสั่งผลิตภัณฑ์ของมะลิ ซึ่งมีพร้อมทั้งชา, กาแฟ, นมข้นหวาน, ครีมเทียมข้นหวาน โดยตั้งเป้าแฟรนไชส์ถึง 5,000 ร้านค้าในปีหน้า

"เราถนัดในการทำงานกับผู้ประกอบการต่าง ๆ อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็ขายสินค้ากับกลุ่มคนเหล่านี้ วันนี้มะลิจึงเป็นค่ายเดียวที่ทำธุรกิจรถเข็นกาแฟได้อย่างสมบูรณ์ แบบด้วยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมี คือ นมข้นหวาน ถือว่าเหมาะกับธุรกิจชา กาแฟโบราณที่สุด เพราะเน้นไปที่เครื่องดื่มเย็น ซึ่งนมข้นหวานจะเหมาะกับเครื่องดื่มเย็นมากกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ" 

สำหรับแนวทางการทำตลาดตลอดปีหน้า นอกจากเรื่องรถเข็นแล้วยังจะมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR อย่างเต็มรูปแบบในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า โดยต่อ ปีบริษัทใช้งบฯการตลาดอยู่ที่กว่า 100 ล้านบาท
 

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
 
ขอขอบคุณรูปภาพจาก goo.gl/416XbX

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,172
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
793
“เติมพลังความรู้” กับ ..
627
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
602
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
601
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
541
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด