ซานตาเฟ่ สเต๊ก ยังโตต่อเนื่อง ปี 61 ตั้งเป้ายอดขายทะลุกว่า 2,000 ล้านบาท เผยขึ้นค่าแรง กระทบต้นทุนเพิ่ม ต้องปรับราคาขายเพิ่ม 5% ขยายสาขาเพิ่ม 20 สาขา ออกเมนูใหม่ ๆ ทุก 2 เดือน กระตุ้นยอดขาย พร้อมสยายปีกเปิดแฟรนไชส์ในต่างประเทศ ย้ำไตรมาส 2 ปีหน้าเข้าตลาดหุ้นแน่นอน

 

นายสุรชัย ชาญอนุเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ เจ้าของแบรนด์ “ซานตาเฟ่ สเต๊ก” เปิดเผยว่า ตลาดรวมธุรกิจอาหารประเภทเสต็ก มีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านบาทต่อปี ในส่วนของ “ซานตาเฟ่ สเต๊ก” จากการเปิดดำเนินกิจการมาเป็นเวลากว่า 14 ปี ตั้งแต่สาขาแรกที่แฟชั่นไอสแลนด์ ต่อมาได้ขยายสาขาเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 103 สาขาทั่วไทย ยอดขายรวมปี 2560 มากกว่า 1,650 ล้านบาทโตเพิ่มขึ้น 15% ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านสเต๊ก

โดยเรายึดมั่นทั้งด้านคุณภาพ (ความสุขของพนักงาน,ลูกค้าและหุ้นส่วนธุรกิจ) และในด้านปริมาณ (จำนวนสาขาและยอดขายที่มากขึ้น) เป็นโมเดลการเติบโตที่ยั่งยืน สร้างสมดุลการทำงานที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวอย่างเหนียวแน่นกับบุคคล 3 กลุ่ม นั่นคือ 1.กลุ่มบุคลากรของบริษัท พัฒนาการทำงานอย่างมืออาชีพ และทำงานอย่างมีความสุข “Happiness, well done” 2.กลุ่มผู้ซื้อแฟรนไชส์ร้าน รักษาคุณภาพอาหารและบริการของซานตาเฟ่ สเต๊ก พร้อมเติบโตด้วยกัน  “Success  together” 3.กลุ่มผู้ส่งสินค้า ยึดมั่นในคุณภาพของวัตถุดิบ เพื่อส่งมอบคุณภาพอาหารที่ดีต่อลูกค้า “Quality  First”

ด้วยเป้าหมายที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินการบริหารที่มีความเป็นเอกภาพกับทุก ๆ ฝ่ายในองค์กร พาร์ตเนอร์ และแฟรนไชส์ ทำให้แบรนด์ร้านสเต๊ก “ซานตา เฟ่ (SANTA FE’) ” ครองแชมป์ความนิยมอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ที่หลากหลาย คุ้มค่า คุ้มราคาที่ใคร ๆ ก็ทานได้ พร้อมสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

โดยภายในปี 2561 จะขยายเพิ่มอีก 20 สาขา ทำให้สิ้นปี 2561 จะมีสาขารวม 123 สาขา ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ทั้งยังจะสยายปีกขายแฟรนไชส์ไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ  อาทิ ประเทศเมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปินส์ เป็นต้น โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ จะเปิดตัวพันธมิตรในต่างประเทศของบริษัทและมั่นใจว่าในไตรมาส 2 ปี 62 จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ 

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า จากนโนยายปรับขึ้นค่าแรงของรัฐบาลนั้น ย่อมกระทบต่อต้นทุนด้านค่าแรงกับทุกธุรกิจ ในส่วนของซานตาเฟ่มีพนักงานทั้งสิ้น 3,000 คน ซึ่งอัตราการจ่ายค่าแรงของบริษัทอยู่ในอัตราที่สูงกว่าค่าแรงงานตามมาตรฐานของตลาดอยู่แล้ว โดยประมาณมีการจ่ายค่าแรงอยู่ที่ 20 ล้านบาทต่อเดือน จึงต้องมีการปรับกลยุทธ์การบริหารให้สอดคล้องทั้งด้านรายรับและรายจ่าย

 

“ยืนยันว่าเราไม่มีนโยบายปรับลดพนักงาน เนื่องจากอัตราการออกของพนักงานในแต่ละเดือนมีจำนวนกว่า 10% จึงต้องปรับพนักงานเพิ่มตลอดเวลา และต้องปรับขึ้นค่าแรง ยกทั้งระบบ ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย“
         

ซึ่งในปีนี้ จะมีการปรับราคาขายอาหารในร้านเพิ่มขึ้น ประมาณ 5% เพราะในปีที่ผ่านมาไม่มีการปรับขึ้นราคา แต่จะเพิ่มคุณภาพอีกทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดในเชิงรุกใหม่ ๆ โปรโมชั่นสุดเด็ด ทุก ๆ 2 เดือน ร่วมกับพันธมิตรที่จะเป็นแม็กเน็ตดึงดูดผู้บริโภคมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำของซานตาเฟ่ ด้วยงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท สร้างความพอใจกระตุ้นความต้องการให้กับลูกค้าด้วยเมนูใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายมากขึ้น ดังนั้น บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท

“ล่าสุดซานตาเฟ่ได้ปรับโฉมเมนูใหม่ให้มีความสดใส สีสันสวยงาม พร้อมทั้งจัดชุดเซตที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ขยายฐานลูกค้า เพิ่มเมนู คนชอบเส้น เปิดตัวโปรใหม่ ๆ ทุก 2 เดือน กระตุ้นยอดขายเพิ่มในราคาที่จับต้องได้“

 

อ้างอิงจาก : www.banmuang.co.th