นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช็อปปิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11)

 

“เซเว่นอีเลฟเว่น” เผยกลยุทธ์เพิ่มยอดขายให้สินค้าเอสเอ็มอีในปี 2560 นำเข้าซอฟต์แวร์เยอรมนี ประมวลผลพฤติกรรมลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น เพื่อเฟ้นสินค้าโดนใจที่สุด พร้อมเปิดศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีก 3 แห่ง แถมคลอดแอปฯ ชอปปิ้งออนไลน์ 24 ชม. ตั้งเป้าดันยอดโตถึง 2,400 ล้านบาท 

       

นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช็อปปิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) เปิดเผยว่า จากนโยบายของ 7-11 ที่ต้องการสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

ทำให้ปัจจุบัน มีสินค้าของเอสเอ็มอีกว่า 20,000 รายการ จากผู้ประกอบการกว่า 3,000 ราย เข้าขายผ่านช่องทางตลาดต่างๆของ 7-11 ทั้ง offline, online และ on air ได้แก่ ทเวนตี้โฟร์แค็ตตาล็อก เว็บไซต์ เคเบิลทีวี และในร้าน 7-11 ที่ปัจจุบันมีกว่า 9,000 สาขาทั่วประเทศ สร้างยอดขายได้มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยกว่า 75% มาจากการขายผ่านหน้าร้านสาขา

       

ทั้งนี้ เพื่อจะเพิ่มยอดขายให้แก่สินค้ากลุ่มเอสเอ็มอีมากขึ้นไปอีก ทางบริษัทได้นำเข้าซอฟต์แวร์จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการณ์ นำพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่นมาประมวลผล เพื่อรู้ถึงสินค้าที่คนในแต่ละท้องถิ่นมีความต้องการมากที่สุด จากนั้นระบบจะคัดเลือกสินค้าของเอสเอ็มอีที่ตรงความต้องการดังกล่าวกระจายให้ตรงยังแต่ละพื้นที่

รวมถึงในช่วงประมาณไตรมาสแรกของปีหน้า (2560) จะมีการเปิดศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ หาดใหญ่ สุราษฏร์ธานี และเพชรบุรี รวมกับศูนย์ที่เปิดอยู่แล้ว 6 แห่ง ทำให้จะมีศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศเป็น 9 แห่ง ช่วยให้สามารถกระจายสินค้าเอสเอ็มอีได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

       

นอกจากนั้น ในไตรมาสสองของปี 2560 จะเปิดตัวแอปพลิเคชันชอปปิ้งออนไลน์ของ “ทเวนตี้โฟร์ ช็อปปิ้ง” เพื่อให้ผู้บริโภคสะดวกในการซื้อสินค้าจากเอสเอ็มอีง่ายมากขึ้นไปอีก ซึ่งจากช่องทางตลาดที่เพิ่มขึ้นหลากหลายดังกล่าว ปีหน้าตั้งเป้าว่ายอดขายของกลุ่มเอสเอ็มอีจะเพิ่มขึ้น 20% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท

อ้างอิงจาก  ผู้จัดการออนไลน์

ขอบคุณรูปภาพจาก  cpall.co.th