แต่การแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มร้านกาแฟพรีเมี่ยม ที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 8,000 ล้านบาท และมีแบรนด์ใหญ่ อาทิ สตาร์บัคส์, เดอะ คอฟฟี่บีน แอนด์ ทีลีฟ ฯลฯ ครองตลาดส่วนใหญ่อยู่ ทำให้ค่ายใหม่ต้องออกแรงมากขึ้น

 

ล่าสุด "คอสต้า คอฟฟี่" เชนร้านกาแฟพรีเมี่ยมหมายเลข 1 จากอังกฤษ ที่มาปักธงเปิดสาขาแรกบนพื้นที่กว่า 100 ตร.ม.ของสยามพารากอน ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม 2556 ได้ปิดตัวลงอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่ได้ลงทุนเปิดสาขา อาทิ ตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์, จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ (สีลม), สนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม CostaCoffeeThailand ที่เป็นช่องทางการสื่อสารของคอสต้า คอฟฟี่ ประเทศไทย ไม่พบหน้าเพจในการค้นหา รวมถึงบางเว็บไซต์ที่เคยลงรีวิวร้านได้เพิ่มหมายเหตุไว้ว่าปิดกิจการ

 

ช่วงที่คอสต้า คอฟฟี่ เปิดสาขาในไทย นอกจากจะมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แล้ว ยังมีการทำตลาดอย่างหนักหน่วง เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าคนไทยและดึงคอกาแฟให้เข้ามาทดลองดื่ม อาทิ โปรโมชั่นซื้อ 1 ฟรี 1 การทำโคโปรโมชั่นร่วมพันธมิตรในหลากหลายรูปแบบและเน้นการให้ส่วนลด ฯลฯ 
 

 

ภาพจาก  http://goo.gl/JtdQ3D
 

ทั้งนี้ "คอสต้า คอฟฟี่" บริหารโดย "เอ็กซ์เพรส ฟู้ด กรุ๊ป" เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร-เครื่องดื่มในเครืออาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป ที่ได้รับสิทธิแฟรนไชส์คอสต้า คอฟฟี่ในไทยและกัมพูชา โดยก่อนจะเปิดสาขาในไทย เมื่อช่วงปี 2555 คอสต้า คอฟฟี่ ได้เข้าไปเปิดสาขาในกัมพูชา และปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่ มีสาขา อาทิ ที่อิออน มอลล์, คิงโร้ด, ริเวอร์ไซด์ ฯลฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ เอ็กซ์เพรส ฟู้ด กรุ๊ป ประกาศที่จะขยายสาขาในไทยและกัมพูชา ให้ได้ 100 สาขา ภายใน 5 ปี หรือปี 2561 

 

แหล่งข่าวจาก "อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป" ยอมรับกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้ยุติการให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการมากว่า 3 เดือนแล้ว สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันที่รุนแรงในไทย โดยจะหันไปโฟกัสตลาดในกัมพูชา ที่ปัจจุบันมีอยู่ 4-5 สาขา 

 

อย่างไรก็ตาม ช่วงก่อนที่คอสต้า คอฟฟี่ เข้ามาเปิดในไทย ก็มีเชนร้านกาแฟต่างชาติที่ตบเท้าเข้ามาในไทยเป็นระยะ ๆ อาทิ ทัม แอนด์ ทัมส์ จากเกาหลีใต้, ดีน แอนด์ เดลูก้า จากสหรัฐอเมริกา, เดอะ คอฟฟี่ คลับ จากออสเตรเลีย ฯลฯ

 

ต้องติดตามกันต่อไปว่า จากนี้ไปจะมีแบรนด์ไหนบ้างที่จะกระโดดเข้ามาแย่งเค้กชิ้นโตก้อนนี้เพิ่ม หรือแบรนด์ใดจะต้องล่าถอยกลับไปอีก

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ