นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด  (มหาชน) หรือ SORKON เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 ว่า บริษัทจะมีการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยจะมีการบุกตลาดประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย แอฟริกา รวมไปถึงตะวันออกกลาง

 

ทั้งนี้บริษัทจะมีการให้ความสำคัญ กับชาวมุสลิม ผ่านการพัฒนากลุ่มอาหาร  "ฮาลาล" รวมถึงการสร้างโรงงานใหม่ที่ทำขนมที่เป็นปลาและไก่ ซึ่งจากการสำรวจตลาดชาวมุสลิม ปรากฏว่าได้รับความสนใจ เป็นอย่างดี

ดังนั้นจึงเชื่อว่าสัดส่วนรายได้จาก ต่างประเทศในปี 2559 จะเพิ่มขึ้นเป็น  10% จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ  7-8% นอกจากนี้บริษัทมีนโยบายสร้างแบรนด์สินค้าให้มีความชัดเจน ผ่านการลดจำนวนแบรนด์สินค้าลง จากเดิมที่บริษัทมีแบรนด์ในเครือจำนวน 20 แบรนด์ ก็จะลดเหลือ 10 แบรนด์ ทั้งนี้พื่อให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ได้ง่ายขึ้น
 

 

นายเจริญกล่าวว่า บริษัทยังมีแผนการเปลี่ยนชื่ออาหารประเภท QSR (quick service restaurant) หรือการบริการร้านอาหารจานด่วน ของบริษัท อาทิ ร้าน "แซ่บเอ็กเพรส" ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น "แซ่บคลาสสิค" ซึ่งปัจจุบันมี 8  สาขาทั่วประเทศ และการขยายสาขาร้าน "ข้าวขาหมูยูนนาน" เพิ่มเป็น 60-70  สาขา จากปัจจุบันมี 32 สาขา

 

โดยการขยายสาขาร้านขาหมูยูนนาน นี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 แสนบาท ต่อสาขา ลดลงจากเดิมที่ใช้ 2-3 ล้านบาทต่อสาขา เนื่องจากบริษัทจะไม่เน้นให้ร้านมีรูปลักษณ์สวยงามมาก แต่จะไปเน้นที่สินค้าให้มีคุณภาพมากกว่า

ซึ่งปัจจุบันร้านขาหมูยูนนาน มี 3 สาขาอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วย ลาว 2 สาขา และกัมพูชา  1 สาขา โดยเป็นการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ และสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่แผนในระยะ 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะขยายสาขาไปที่เมียนมา และเวียดนาม
 

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน โดยบริษัทจะเปิดตัวเมนูอาหารใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2559 นี้ หลังจากในช่วงไตรมาสแรกได้เปิดตัวไปแล้วหลายเมนู เช่น ผลิตภัณฑ์หมูยอ น้ำยำ แหนมพร้อมถั่ว ลูกชิ้นรักบี้ทอดพร้อม น้ำจิ้ม เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

โดยบริษัทมั่นใจว่า ด้วยแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวจะผลักดันผลการดำเนินงานปี 2559 เติบโตตามเป้า ที่วางไว้

 

 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 ปี 2559 นั้น คาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้รวมทั้งปี 2559 ให้เติบโต 15% จากปี 2558 ขณะที่ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 632 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 11.5% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มี รายได้ 567 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท  

โดยการเติบโตดังกล่าว มาจากผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน ที่สามารถผลิตได้เต็มกำลังการผลิต ภายหลังจากการปรับปรุงคุณภาพโรงงาน จึงดันยอดขายเติบโต 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป ที่มี การเร่งรุกตลาดผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน ที่มี การเติบโตได้ดีเช่นกัน

 

 

"บริษัทพอใจกับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เพราะยังอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจยังค่อนข้างชะลอตัว แต่บริษัทยังสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ เนื่องจากมีการรุกทำตลาดอย่างหนัก เพื่อเพิ่มยอดขายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ดีของบริษัท" นายเจริญ กล่าว

 

อ้างอิงจาก  ryt9.com

ขอบคุณรูปภาพจาก  facebook.com/yunnanpork