|
|
|
|
6 เมษายน 2559 |
กะปุก ชูโอนเงินปั๊มแชร์12% ดึงผู้ค้าจานดาวเทียมลุยตลาด
"กะปุกท็อปอัพ" เร่งเต็มสูบขยายตลาดตู้เติมเงิน ขยับมาร์เก็ตแชร์จาก 9% เป็น 12% ปั๊มรายได้รวมทะลุ 2,300 ล้านบาท โต 40-45% ภายในสิ้นปีนี้ หวังอาศัยตัวแทนขายจานดาวเทียม "ไอพีเอ็ม" ช่วยบุกเบิกตลาด พร้อมเดินหน้าเปิดตัวตู้รุ่นใหม่เพิ่มบริการ "โอนเงิน" และรองรับโฆษณาบนหน้าจอทัชสกรีน นำร่อง 10 ตู้ ก่อนขยายให้ครบ 1,000 ตู้
นายธนัญชัย สมุหวิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2557 ที่ทำได้ 30% แบ่งเป็นรายได้จากการเติมเงินผ่านเว็บไซต์ 50% และผ่านตู้เติมเงิน 49% อีก 1% เป็นธุรกิจอื่น ๆ และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ถึง 2,300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 40-45% โดยสัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนแปลงไป เป็นมาจากเว็บไซต์ออนไลน์ 44% ตู้เติมเงิน 55% เนื่องจากหันมาโฟกัสตู้เติมเงินมากขึ้น
ปัจจุบันมีตู้เติมเงิน "กะปุก" 4,300 ตู้ เป็นยอดขายในปีที่ผ่านมา 2,900 ตู้ แบ่งเป็นการขายแฟรนไชส์ 1,600 ตู้ และขายขาด 1,300 ตู้ ส่วนยอดเติมเงินอยู่ที่ 495 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ 47% คาดว่าปีนี้จะมีตู้เติมเงินเพิ่มขึ้นอีก 3,300 ตู้ แบ่งเป็นการขายแฟรนไชส์ 60% ขายขาด 40% ส่วนธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์ระบบตู้เติมเงินออนไลน์ (Advancekiosk) ในปีที่ผ่านมา ขายได้ 1,900 ตู้ โตจากปี 2557 ที่ 68% มียอดการเติมเงิน 320 ล้านบาท โตขึ้น 400% จากปีก่อนหน้า รวมทั้งปีนี้มีตู้เติมเงินที่ใช้ระบบดังกล่าว 4,000 ตู้ คาดว่าปีนี้จะเพิ่มอีก 2,200 ตู้
"ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายผ่านตัวแทนมากขึ้น โดยจะเพิ่มตัวแทนเป็น 150 ราย จากปีที่ผ่านมามี 10 ราย โดยได้เซ็นเอ็มโอยูกับบริษัทจานดาวเทียม IPM แต่งตั้งให้ตัวแทนขายจานดาวเทียมมาเป็นตัวแทนขายตู้เติมเงินกะปุก จึงมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้า"
ขณะเดียวกันบริษัทยังเปิดตัวตู้เติมเงินรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ 4 ที่ทันสมัยมากขึ้น ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว รองรับอุปกรณ์ NFC และ RFID ลูกค้าจึงสแกนบัตรแล้วเติมเงินได้โดยไม่ต้องกดหมายเลขโทรศัพท์ ทั้งซีพียูยังเร็วขึ้น 12 เท่า ทำให้เล่นไฟล์วิดีโอได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีรายได้เพิ่มเติมจากการขายโฆษณาผ่านวิดีโอบนหน้าจอได้ด้วย ซึ่งตู้รุ่นใหม่จะเริ่มให้บริการในวันที่ 15 มี.ค.นี้ จำนวน 10 ตู้ ตั้งเป้าติดตั้งให้ได้ 1,000 ตู้ในสิ้นปี และคาดว่าจะเริ่มมีโฆษณาเข้ามาในไตรมาส 3
นอกจากนี้ยังจะมีบริการโอนเงินได้โดยไม่ต้องใช้เลขที่บัญชี คิดค่าธรรมเนียม 35 บาท โดยสามารถไปรับเงินได้ที่ร้าน AIS Shop, Telewiz และธนาคารกรุงไทย โดยแจ้งหมายเลขโทรศัพท์พร้อมบัตรประชาชน และในอนาคตจะปรับให้ตู้กะปุกรุ่นเดิมให้บริการโอนเงินได้ด้วย
สำหรับงบประมาณด้านการตลาดในปีนี้วางไว้ที่ 8 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมาที่ใช้ประมาณ 3 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นทำตลาดออนไลน์ 60% อีก 40% ผ่านสื่อทั่วไปทั้งโทรทัศน์, วิทยุ, สิ่งพิมพ์ และออกบูทเพื่อประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
นายธนัญชัยกล่าวถึงภาพรวมตลาดตู้เติมเงินว่า ในปีที่ผ่านมาโต 15-18% มีมูลค่าประมาณ 17,000 ล้านบาท โดยกะปุกออนไลน์ท็อปอัพครองมาร์เก็ตแชร์ 9% เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 1 คือ บุญเติม มีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 80% และปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยับมาร์เก็ตแชร์เป็น 12%
"แม้เศรษฐกิจโลกจะยังมีความผันผวน แต่จากการคาดการณ์ของสภาพัฒน์ คาดว่าจีดีพีปีนี้จะโต 3.3% ทั้งจากการเข้ามาของเทคโนโลยี 4G ทำให้มีการใช้ดาต้ามากขึ้น ประกอบกับรายงานของ สพธอ.ระบุว่า กลุ่มคน Gen Y จะใช้อินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดียวันละ 8 ชั่วโมง คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจเติมเงินออนไลน์ จึงคาดว่าปีนี้ธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์จะโตได้อย่างน้อย 15%"
ทั้งนี้ บริษัทก่อตั้งมาแล้ว 10 ปี โดยระยะแรกเริ่มจากเว็บไซต์เติมเงินออนไลน์ www.siamtopup.com จนเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จึงเพิ่มธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์ หรือ "กะปุกออนไลน์ท็อปอัพ" และธุรกิจซอฟต์แวร์ระบบตู้เติมเงินออนไลน์ (Advancekiosk) รวมถึงธุรกิจจองตั๋วออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ welovebooking.com
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ขอบคุณรูปภาพจาก facebook.com/kapookkiosktopup
|
|
|
|
|
